ห้องเรียนเงียบ (Silent Classroom)

How to use:

การสร้าง ห้องเรียนเงียบ (Silent Classroom) นั้นคุณครูสามารถสร้างได้หลากหลายวิธีโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น

1. การปรบมือ (Attention Grabber) การให้นักเรียนปรบมือตามคำสั่ง

เพื่อให้นักเรียนกลับมาโฟกัสกับคุณครู

2. การใช้นาฬิกา (Use a timer) การเงื่อนไขง่าย ๆ เช่นการนับเวลา 3-5 วินาที

(คุณครูสามารถมใช้นาฬิกาหรือนิ้วมือในการนับ) แล้วเงียบ

คุณครูอาจประยุกต์ให้กับการให้รางวัลเมื่อนักเรียนเงียบได้ก่อนเวลาหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ

3. การยืน (Stand in a designated spot/Radar) เพียงแค่คุณครูยืนอยู่ในจุดและยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณก็สามารถสร้าง Silent Classroom ได้ ทั้งนี้

ขึ้นอยู่กับคุณครูว่าวางเงื่อนไขหรือท่าทางไว้ในลักษณะใด

4. ใช้ไฟสัญลักษณ์ (Use a Spotlight) เช่น การใช้สัญญาณไฟจราจร ไฟเขียว ไฟเหลืองและไฟแดงในการระบุความต้องการของคุณครูแทนการบอกโดยตรง

5. การทวนกฎเกณฑ์ (Norm Review) ในบางครั้งที่นักเรียนส่งเสียงดังมากเกินไป คุณครูอาจจะพูดกว้างๆ ในการทบทวนกฎหรือบรรทัดฐานที่คุณครูใช้ในชั้นเรียน เพื่อส่งสัญญาณให้นักเรียนรู้ตัว

6. ระบุรายชื่อนักเรียน (Head Mark)

คุณครูอาจจะใช้การระบุชื่อนักเรียนหรือบริเวณที่ก่อกวนชั้นเรียนของคุณครูได้

แต่วิธีการนี้จะต้องใช้อย่างระมัดระวังและน้อยที่สุด เพื่อสามารถสร้างความอับอายให้แก่นักเรียน

Appropriability:

Silent Classroom เหมาะสำหรับการใช่ในการควบคุมชั้นเรียนแบบรวดเร็ว

เพื่อให้นักเรียนกลับมาโฟกัสกับเนื้อหาหรือกิจกรรที่คุณครูเตรียมไว้

 จำนวนนักเรียน: นักเรียนทุกคนในชั้นเรียน (ข้อ1-5 )และรายบุคคล (ข้อ 6)

 กลุ่มเป้าหมาย: นักเรียนที่ก่อกวนชั้นเรียน

 ระยะเวลา: เหมาะสมกับระยะสั้นเท่านั้น

Expected Result:

การใช้ Silent Classroom เหมาะสำหรับการใช้ในระยะสั้นเท่านั้น

สามารถแสดงผลได้ทันทีที่คุณครูใช้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทที่คุณครูใช้ด้วยเช่นเดียวกัน

1. ระยะสั้น (Short Term Effect)

 ใช้เพื่อให้นักเรียนหยุดพฤติกรรมก่อกวนชั้นเรียนในทันทีหรือแบบค่อยเป็นค่อยไป

Limitation:

ข้อควรระวังที่สำคัญคือการใช้วิธีการหมายหัว (Head Mark)

อาจจะทำให้นักเรียนรู้สึกเป็นปมหรือสร้างความอับอายให้แก่นักเรียนมากขึ้น

ดังนั้นคุณครูต้องระมัดระวังในการใช้คำพูดค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตามหากคุณครูการหมายหัว (Head Mark) แล้ว ทางเราขอแนะนำให้คุณครูเข้าไปคุยกับนักเรียนคนนั้นหรือกลุ่มนั้นในช่วงท้ายคาบเพื่อปรับความเข้าใจของนักเรียนและคุณครู โดยอธิบายเหตุผลและสาเหตุที่ทำให้คุณครูต้องใช้วิธีการนี้ให้นักเรียนทุกคนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันด้วย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียนต่อไป

Reference:

Terry Heick: 20 Ways To Get A Noisy Classroom’s Attention.

http://www.teachthought.com/pedagogy/20-ways-quiet-noisy-students/