เด็กในห้องคุยไม่หยุด ตีมันซะเลยดีมั้ย?
ไม่มีสมาธิในการสอนทำยังไงดี?
นักเรียนไม่สนใจที่เราพูดเลย เดินออกนอกห้องเรียนดีรึเปล่า?
เด็กไม่ยอมฟังเพื่อนพรีเซ้นงาน เราทำอะไรได้บ้าง?
สวัสดีค่า ผู้เขียนเป็นนักเรียนคนนึงที่กำลังจะจบม.6 นะคะ
ในช่วงมัธยมปลายผู้เขียนก็อยู่ในห้องที่เพื่อนๆ เสียงดังมาก ซนกันสุดๆ ขนาดที่ว่าครูทุกคนในชั้นเวลาจะมาสอนต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วจำใจเข้าห้องมาเลยล่ะค่ะ (รู้สึกผิดจังเลย ฮ่าๆๆ) ครูหลายท่านต้องหายุทธศาสตร์มากมายมาใช้เพื่อให้นักเรียนเงียบเสียงลงบ้าง ทั้งด่า ทั้งตี ทั้งตัดคะแนนก็แล้ว นักเรียนก็ยังไม่หยุด
แถมความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนก็แย่ลงไปอีก
วันนี้ผู้เขียนเลยจะมาแชร์เทคนิคสุดล้ำที่ผู้เขียนรู้สึกว่าได้ผลมากๆ ในการทำให้นักเรียนไม่คุยกันจนไปรบกวนการเรียนการสอน โดยก่อนอื่นเรามาดูกฎ 3 ข้อที่ 'ควรเลี่ยง' ในการทำให้นักเรียนหยุดคุยเสียงดังกันเถ๊อะ
1.การใช้ความรุนแรง แม้นักเรียนจะเล่น จะคุยกันมากแค่ไหน การใช้ความรุนแรงเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เด็ดขาด เพราะนอกจากมันผิดกฎกระทรวงแล้ว ความรุนแรงไม่เคยแก้ปัญหาอะไรได้อย่างแท้จริง แถมยังทำให้เด็กเสียความมั่นใจในตัวเองด้วยค่ะ
2.การตัดคะแนน แน่นอนว่าวิธีนี้คุณครูหลายท่านคงเคยใช้กัน แต่จากประสบการณ์ของผู้เขียนแล้ว นักเรียนส่วนมากจะโกรธ (และงอน) คุณครูอย่างหนัก เพราะ คะแนนมีผลต่ออนาคตการสอบเข้ามหาลัยของเขา วิธีการตัดคะแนนจึงควรข้ามไปด่วนๆ เลยนะคะ เนื่องจากมันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนร้าวฉานอย่างแรวง (เพื่อนๆ ในห้องของผู้เขียนจะไม่ยอมให้แตะอะไรที่เกี่ยวข้องกับคะแนนเลย ละเอียดอ่อนสุดๆ)
3.หยุดการสอน เวลานักเรียนคุยกันเสียงดังจนคุณครูรู้สึกว่านักเรียนไม่ให้เกียรติกันบ้างเลยนะ! หลายท่านเลือกที่จะเดินออกนอกห้องเพื่อให้นักเรียนรู้สึกผิด แต่!! นักเรียนก็ดันไม่มาง้อกันบ้างเลยย เหตุการณ์นี้จึงอาจทำให้เสียความรู้สึกกันไปทุกฝ่าย
หลังจากเรารู้กฎสามข้อที่ไม่ควรทำไปแล้ว ก็มาเข้าเรื่องกันเลยค่ะ
วิธีการนี้ ผู้เขียนได้มาจากคุณครูที่โรงเรียนอีกทีค่ะ (ขนาดเป็นนักเรียนยังชอบ จนเอามาแชร์) ขอตั้งชื่อไอเดียว่า 'ยืน สงบ สติ' แล้วกันนะคะ เป็นกลยุทธ์สุดล้ำที่ใช้กี่ครั้งก็ได้ผล โดยมีขั้นตอนดังนี้
ข้อควรระวังในการเอาไอเดียนี้ไปใช้
-ควรใช้วิธีการนี้ตอนที่เด็กคุยจนเสียบรรยากาศการเรียนรู้เท่านั้น ถ้าเด็กคุยนิดหน่อยก็ควรทำใจไปก่อน เพราะ หลายครั้งการพูดคุยกันก็ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ได้ แถมยังสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายอีกด้วย!
-เวลาเรียกเด็กคนแรกที่จะยืนในแต่ละครั้ง ควรกระจายๆ ให้ทั่ว อย่าจิ้มแต่คนเดิมๆ เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่ากำลังถูกเพ่งเล็ง แล้วจะต่อต้านเราได้
-ถ้าห้องเรียนเริ่มเงียบแล้วก็ควรให้เด็กที่ยืนอยู่คนสุดท้ายนั่งลงได้
-ถ้าเด็กที่ถูกเพื่อนเรียกให้ยืนไม่ได้คุยเสียงดังจนได้ยินไปทั่ว แต่แค่กระซิบ ขอยืมของจากเพื่อน หรือตอบคำถามและมีส่วนร่วมในชั้น ก็ไม่จำเป็นต้องยืน
-หากเด็กคุยนิดเดียวจริงๆ แต่โดนเพื่อนจับได้ จนต้องยืนให้รอสักพักแล้วค่อยบอกให้นั่งลง เพราะ ถ้าให้นั่งทันทีเด็กคนอื่นๆ อาจรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมได้ และควรสังเกตสีหน้าของเด็กที่ยืนบ้างว่าเขาอึดอัดหรือหงุดหงิดรึเปล่ากับการลงโทษแบบนี้ เพราะก็มีเด็กบางคนเหมือนกันที่ไม่ชอบวิธีการนี้
**จริงๆ แล้วส่วนตัวผู้เขียนเองก็เคยถูกเพื่อนชี้ให้ยืนเหมือนกัน แต่ผู้เขียนไม่ได้คุยจนรบกวน เมื่อยืนก็ไปบังเพื่อนที่นั่งข้างหลังอีก เลยต้องพยายามยืนหลบๆ โดยตอนนั้นผู้เขียนรู้สึกไม่ชอบวิธีการนี้เอาเสียเลยเพราะผู้เขียนรู้สึกว่ามันทำให้ห้องเรียนเงียบเกินไป ไม่มีชีวิตชีวา พูดคุย แลกเปลี่ยน โต้ตอบกันไม่ได้ เลยอึดอัดอยู่นิดๆ
ดังนั้นเลยจะมาเตือนว่าควรใช้วิธีนี้แต่พอดี และพยายามใช้ตอนจำเป็นเท่านั้น**
วันนี้ผู้เขียนก็ขอแชร์แค่นี้ก่อน และอยากฝากไว้ว่าทุกๆ ปัญหามีทางออก แต่ถ้าเรายังใช้วิธีการเดิมๆ แก้ไขปัญหา ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ได้ผล เราอาจจะต้องเปลี่ยนดูบ้าง แม้อันใหม่จะไม่ได้เลิศเลอแต่มันก็คือการทดลองที่น่าสนุกและให้บทเรียนแก่เราเสมอ
ขอบคุณค่ะ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!