...ก่อนจะไปทำความรู้จักกับกิจกรรม Passion of Mind เรามาทำความรู้จักกับศาสตร์ซึ่งเป็นพื้นฐานของกิจกรรมนี้ ศาสตร์ที่่ว่านี้คือ "Appreciative Inquiry (AI)" หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า "สุนทรียสาธก"
"สุนทรียสาธก" คืออะไร??
"สุนทรียสาธก" เป็นกระบวนการศึกษาค้นหาข้อดีของตัวเรา คนในองค์กร หรือสิ่งแวดล้อมรอบ ๆตัว โดยใช้การตั้งคำถามเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาศักยภาพของตัวเราให้มากขึ้น คำถามที่ตั้งมักจะเป็นคำถามในเชิงบวก เพื่อให้เราเห็นจุดดีของตนมากกว่าจุดด้อย
“สุนทรียสาธก (AI)” จะมีลักษณะคล้ายกับ “การพัฒนาโดยศึกษาจากปัญหา (Problem base)” คือ มุ่งพัฒนาให้ดีขึ้นเหมือนกัน แต่จุดที่แตกต่างกันคือ Problem base จะมุ่งหาข้อผิดพลาดเพื่อแก้ไขให้ดีขึ้น ต่างจาก AI ที่มุ่งหาจุดแข็งของตัวเราเพื่อพัฒนาต่อ
เราสามารถทำ "สุนทรียสาธก" ได้ง่ายๆด้วยตนเองโดยยึดหลัก "สุนทรียสาธก 4 ด้าน" (4D of Appreciative Inquiry) ดังนี้
เราสามารถประยุกต์ใช้ "สุนทรียสาธก" กับนักเรียนในห้องอย่างไร
"สุนทรียสาธก" คือเครื่องมือซึ่งช่วยให้เรารู้ว่าข้อดีของเด็กคืออะไร และเขาควรจะพัฒนาข้อดีของเขาอย่างไร ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เด็กที่กำลังหลงทางและไม่รู้ว่าตนชอบอะไรได้รู้จักตัวเองมากขึ้นผ่านการใช้ AI เพื่อศึกษาและพัฒนาความชอบของตัวเอง โดยเราสามารถนำหลัก 4 ด้านของ "สุนทรียสาธก" (4D Appreciative Inquiry) มาประยุกต์เป็นกิจกรรมได้นั้นก็คือ กิจกรรม Passion of Mind นั้นเอง
กิจกรรม Passion of Mind
กิจกรรม Passion of Mind เป็นกิจกรรมที่เหมาะจะเริ่มทำตอนต้นเทอม และ มีการถอดบทเรียนในช่วงท้ายเทอม โดยในช่วงต้นเทอมจะให้เด็กๆตามหาข้อดี และ สิ่งที่เขาชอบ ในระหว่างช่วงกลางเทอมถึงช่วงท้ายเทอม จะเป็นช่วงที่ให้เด็กๆได้ลองพัฒนาความชอบที่พวกเขาเลือก และในช่วงสุดท้าย ช่วงท้ายเทอม จะเป็นช่วงที่ให้เด็กๆได้สะท้อนการเรียนรู้ ความเปลี่ยนแปลง และความรู้สึกที่เกิดขึ้น
โดยรายละเอียดของกิจกรรมจะแบ่งออกเป็น 4 ช่วงดังนี้
จะเริ่มต้นในคาบแรกของวิชาเพื่อให้เด็กได้ลองหาว่าเขาชอบอะไร และ อยากทำอะไร จากนั้นให้เด็กๆนำสิ่งที่ตนสนใจนั้น ตั้งเป็นเป้าหมายเพื่อพัฒนาต่อยอด
จะเริ่มในคาบเรียนที่สอง โดยให้เด็กๆได้ต่อยอดจากอาทิตย์ที่แล้ว เด็กๆรู้แล้วว่าพวกเขาต้องการอะไร และ อยากพัฒนาอะไร ดังนั้นในสัปดาห์นี้จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะพาเด็กๆไปออกแบบเส้นทางความฝัน ของตัวเขาเอง
จะเริ่มต้นตั้งแต่คาบเรียนที่สามเป็นต้นไป จนถึงช่วงท้ายเทอม โดยจะเป็นการบ้านทุกสัปดาห์ของเด็กๆที่จะต้องลงมือทำเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้เป็นจริง เพราะเด็กๆรู้แล้วว่า ชอบอะไร อยากทำอะไร และต้องทำอะไรเพื่อให้ฝันนั้นเป็นจริง ดังนั้นขั้นการลงมือทำจึงเป็นขั้นสุดท้ายที่สำคัญที่สุดเพื่อให้พวกเขาได้พัฒนาเป้าหมายที่ตัวเขาตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในขั้นนี้ครูจะมีแบบติดตามผล ให้นักเรียนทำและเก็บข้อมูลทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นหลักฐานความสำเร็จและเพื่อให้เห็นการพัฒนาของเด็กได้ชัดเจนมากขึ้น
เป็นขั้นตอนสุดท้ายซึ่งเพิ่มเข้ามานอกเหนือจาก "สุนทรียสาธก 4 ด้าน" คือ การ Reflection การ Reflection จะเกิดขึ้นในคาบเรียนสุดท้ายเพื่อรายงานผลว่าทุกคนทำตามเป้าหมายได้ไหม ได้เพราะอะไร ไม่ได้เพราะอะไร รู้สึกอย่างไรหลังทำ และ เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรกับตัวเราบ้าง จะเป็นคาบเรียนที่ให้ทุกคนในห้องได้แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ ประสบการณ์ความเปลี่ยนแปลงของตนเอง
***เพื่อให้นำไปใช้ในคาบเรียนได้ทันทีผมได้ทำแบบฟอร์มของกิจกรรม Passion of Mind พร้อมระบุวิธีใช้งานไว้ให้แล้วสามารถนำไปใช้ได้เลยครับ โดยผมจะอัพให้ทั้งหมด 2 ไฟล์ดังนี้ครับ
***ถ้ามีอะไรสงสัยสามารถทิ้ง Comment ไว้ด้านล่างได้เลยครับ
เขียนโดย: Warawat Nimanong
พิสูจน์อักษรโดย: Samret Moomahasakul
ไฟล์ที่เกี่ยวกับไอเดีย
ไฟล์ที่ 1 จากทั้งหมด 2
แท็กที่เกี่ยวข้อง