ครูผู้สอนเอง คงเคยได้ยินคำถามนี้จาก นักเรียน ผม/หนู เรียนไปทำไม หรือ ตั้งคำถามกับตัวเองว่า สอนไปเพื่อนักเรียน หรือเพื่อตัวชี้วัดของกระทรวง ประเมิน ฯลฯ คือสิ่งที่นำไปสู่ การเลือกห้อง ห้องลับแห่งความรู้ในการworkshop "ครูปล่อยของXstarfish" คำตอบสำหรับครูว่านักเรียน เรียนไปทำไม ของผมในครั้งนี้
ถูกเปิดฉากด้วยกิจกรรม เช็คอิน ของ ครู หนุ่ม ให้เหล่าคุณครูที่เลือกห้องนี้ มาทำความรู้จักกัน ด้วยคำถามที่ว่าครูชื่อ อะไร สอนวิชา ทำไมถึง เลือกห้องนี้ ทำให้ เราเห็นหน้า เห็นตา ได้ยินเสียงของเื่อนครู เพิ่มขึ้น จากการบอกเหตุผลการเลือกห้องนี้ ครูส่วนใหญ่ในห้อง ต่างพูดคล้ายกันว่า เคยโดนคำถามนี้ เป็นคำถามที่ครูก็อยากที่จะหาคำตอบ
หลังจากนั้น ครูหนุ่ม ยังไม่เฉลย และชวนโยงประเด็นต่อ ให้เห็นมุมมองของครูแต่ละคนเพิ่มขึ้น ด้วยการตั้งคำถามว่าสิ่งที่คิดว่า อุปสรรคการเรียนรู้คือ อะไร ระดับของอุปสรรคนี้ อยู่ในระดับใด มันจัดการได้หรือไม่
ผมก็ได้ มีโอกาสร่วมวงสนทนา และตอบปัญหานี้ จากการที่ได้เรียนรู้ อยู่มา ทั้งหมด ๔ โรงเรียนตั้งแต่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู เห็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ สอง ๒ ด้าน ใหญ่
ด้านที่ ๑ ด้าน ครอบครัว หากครอบครัวไหนพร้อม อยู่กันครบ ไม่ค่อยเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ ของนักเรียน การที่ครอบครัวอยู่กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา จะช่วยในเรื่องของการรู้แลเอาใจใส่ เธอไปทำงาน ฉันดูลูกหรือ รวมไปถึงฐานะทางการเงิน คงไม่ปฏิเสธว่า ครอบครัวไหน ที่มีฐานะทางการเงินที่ดี ย่อม มีโอกาสให้ลูกของตัวเองการเรียนรู้เปิดโลกกว้างได้ดีกว่า
๒ ด้านโรงเรียน ที่ สร้างสร้างความพร้อมให้นักเรียน เช่นระบบอินเตอร์เน็ต บรรยากาศโรงเรียนที่ดี การติดแอร์ทำให้นักเรียนมีโอกาสเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น
แล้ว ๒ ปัญหาใหญ่นี้ คิดว่า อยู่ในระดับ ใด ผมก็ตอบว่า ๕ เหตุที่ตอบ ๕ ก็เพราะ หากครูคิดว่า อุปสรรคนี้คือปัญหาคะแนนของอุปสรรคนี้จะเพิ่ม ขึ้น แต่หากครูคิดว่า อุปสรรคนี้ ไม่ใช่ปัญหา และมันสามารถแก้ไข ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ คะแนนของอุปสรรคจะค่อยๆลดลง และผมคิดว่า มันจะจัดการได้
วงสนทนาจบ
ครู เปิดคำถามต่อ แล้ว การเรียนรู้คืออะไร
มีครู ท่านหนึ่งตอบว่า ไม่รู้ ก็ทำให้รู้ ทำไม่ได้ ก็ ทำให้ได้
ทั้งหมดทั้งมวลครู... พยายามโยง เรื่องตั้งแต่ต้น แล้วตอบคำถาม ด้วยคำถามว่า แล้วนักเรียนเรียนไปทำไม ผ่านหัวใจของครู
สรุปแล้วครูเอง ต้องคิดสร้างบทเรียนที่เชื่อมโยงกับ ชีวิตจริงของนักเรียน ไม่ใช่แค่สอน ให้ศิษย์รู้แค่วิชา ด้วย ๕ ขั้นตอน
แล้วคำถามที่ว่า “เรียนไปทำไม” ของนักเรียน ก็จะถูกถาม ทำให้ครูได้ยินทุกปี หรือ เกิดคำถามขึ้นในใจถ้าครู ยังมัวสอนตามหนังสือ แล้วสอบ โดยไม่เชื่อมโยงเข้ากับชีวิตจริง อีกหนึ่งอย่างที่ที่ได้จากการ workshopในครั้งนี้ คือการผู้คุยกับเพื่อนครู ทำให้เห็นว่า เราไม่ได้อยู่อย่างเดียวดายยังมีเพื่อนครูหลายคนที่กำลังคิดและลงมือทำอยู่ เป็นที่เติมพลังได้ดีครับ