icon
giftClose
profile

Flipped Classroom หรือห้องเรียนกลับด้าน

117611
ภาพประกอบไอเดีย Flipped Classroom หรือห้องเรียนกลับด้าน

สอนในช่วงโควิดนี้ยังไงดี มี 1 ทางเลือกมาแนะนำค่า. . . . Flipped Classroom หรือห้องเรียนกลับด้าน จะช่วยให้ชีวิตครูดีในช่วงนี้ดีขึ้นยังไง แล้วทำยังไงให้ Work ผ่าน Application การศึกษาน้องใหม่ไฟแรงอย่าง StartDee ... มาดูกันเลยยยย ดาวโหลด StartDee ที่ : https://bit.ly/startdeeinsk! 🌟🌟🌟


ห้องเรียนกลับด้าน คืออะไร?

.

ห้องเรียนแบบเดิม

นักเรียนเข้ามาในห้องเรียนแล้วนั่งฟังคุณครูอย่างเดียว หากไม่เข้าใจหรือตามไม่ทันก็ไม่กล้าถาม หรือแม้จะถามก็ไม่มีช่องว่าง เพราะเนื้อหาการสอนที่เยอะและเวลาที่มีจำกัด คุณครูไม่สามารถอธิบายให้นักเรียนทุกคนแบบตัวต่อตัวได้ จึงสะสมความสงสัยและความไม่เข้าใจมาอยู่เรื่อยๆ เมื่อกลับมาบ้านก็ไม่สามารถสอบถามใครได้ นักเรียนบางคนเลยเลือกที่จะลอกการบ้านเพื่อน และก่อความไม่เข้าใจขึ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

.

ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom)

เป็นการจัดการเรียนการสอนที่สวนทางกับสิ่งที่เป็นอยู่ปัจจุบัน โดยให้นักเรียนศึกษาความรู้ผ่านอินเตอร์เน็ต นอกห้องเรียน นอกเวลาเรียนมาก่อน เพื่อใช้เวลาในห้องเรียนในการทำการบ้านและทำกิจกรรมแทน วิธีนี้ทำให้เด็กมีเวลาศึกษาบทเรียนมาก่อน ผ่านวิดีโอออนไลน์อย่างบนแอปพลิเคชัน StartDee ที่สามารถดูเเมื่อไรก็ได้ ถ้าไม่เข้าใจก็สามารถดูซ้ำได้ เมื่อถึงเวลาเข้าห้องเรียน คุณครูสามารถให้นักเรียน แสดงความคิดเห็น แก้โจทย์ ทำงานกลุ่ม หรือกิจกรรมเกี่ยวกับบทเรียนที่ได้ศึกษามาล่วงหน้า พร้อมแนะนำ ถาม-ตอบปัญหาที่อาจเกิดขึ้น



ห้องเรียนกลับด้าน ดีอย่างไร?

.

หลักการของ Flipped Classroom คือการใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาในการช่วยกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียน บวกกับการจัดกิจกรรมในห้องเรียน เนื่องจากในการเรียนแบบปกติ เวลาในห้องเรียนมีจำกัด จึงยากที่นักเรียนจะเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดหรือถามคำถามคุณครูได้ ดังนั้นการศึกษาความรู้ในเวลาของตัวเอง ผ่านวิดีโอที่ครูได้บันทึกไว้แล้วออนไลน์หรือวิด๊โอที่ครูแนะนำให้ไปศึกาษ ทำให้นักเรียนมีเวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจบทเรียนล่วงหน้า ตามความสามารถของตนเอง

.

พออยู่ในห้องเรียนคุณครูไม่จำเป็นต้องสอนเรื่องเดิมวนไปวนมา แต่สามารถจัดกิจกรรมให้เด็กนักเรียนได้สนทนากัน ที่สำคัญคุณครูก็มีเวลาแนะนำหลักการที่เข้าใจยาก ตอบคำถามที่เด็กพบเป็นรายบุคคลมากขึ้น วิธีนี้จะทำให้เด็กเข้าใจในบทเรียนต่างๆอย่างลึกซึ้งมากขึ้นด้วย !



ทำยังไงให้ Work 01 ชี้แจงความในใจ

.

เราอาจจะเผลอคิดว่า ให้เด็กไปเรียนเองเด็กจะเรียนหรอ แต่จริง ๆ เราควรเปิดโอกาสให้เขาได้ลองดึงศักยภาพของตัวเองออกมา ให้นักเรียนได้เรียนรู้การกำกับตัวเอง สร้างการเป็น Self Directed Learner

.

สิ่งที่จะช่วยให้เกิดแบบนี้ได้ คือการที่ครูชี้แจงกับเด็ก ๆ ตั้งแต่แรกว่า การเรียนรู้กำลังจะเปลี่ยนไป เราจะมีอิสระมากขึ้นในการจัดการตัวเอง ว่าเรียนเมื่อไหร่ ซึ่งผลก็ขึ้นอยู่กับตัวเราล้วน ๆ ถ้าครูชี้ให้เห็นว่า เรียนไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นตามมา เชื่อในนักเรียนว่าเขาจะสามารถทำได้ แล้วรอให้มากพอ Flipped Classroom เกิดขึ้นได้แน่นอน 

.

คาบแรก อาจจะมีแหละนักเรียนที่ไม่เรียนมาก่อน ยังจัดการตัวเองไม่ได้

ครูอาจจะเข้าไปพูดคุยถึงสาเหตุ แล้วช่วยนักเรียนให้วางแผนชีวิตตัวเองได้ดีขึ้น 

.

แบ่งปันโดย romklao changnoi



ทำยังไงให้ Work 02 Gamification

.

เพิ่มความสนุกด้วยการเล่นเกม ให้เห็นว่าการเรียนแต่ละคลิปเหมือนการผ่านแต่ละด่านในเกม เพื่อเก็บค่าพลังไปสู้กับบอส

เราสามารถดึงกลไกเกมต่าง ๆ มาใส่เพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ สนุกกับการเรียนรู้มากขึ้นได้

.

แบ่งปันโดย Nakarin Suksai



ทำยังไงให้ Work 03 ส่งคำถามหลังไมค์


หลาย ๆ ครั้งที่เรา อยากให้นักเรียนเรียนมาที่บ้าน แล้วมาถามในห้องเรียน

กลับไม่ค่อยได้คำถามกลับมา เพราะนักเรียนไม่กล้าที่จะถาม

.

เราอาจจะใช้วิธีให้นักเรียนส่งคำถามมาผ่าน google form หรือช่องทางต่าง ๆ แบบไม่แสดงชื่อ แล้วเรามาตอบคำถามจากทางบ้านในห้องเรียนแทน

.

แบ่งปันโดย Athapol Anunthavorasakul



ตัวช่วยคุณครู


บางทีคุณครูอาจจะไม่ต้องคิดเนื้อหาการสอนเองทั้งหมด อาจจะไปดึงสื่อที่มีอยู่แล้วมาจาก youtube หรือ application startdee ที่มีคลิปสอน ย่อยง่าย สนุก ๆ ตามตัวชี้วัดอยู่มากมาย มามอบหมายให้เด็ก ๆ ดู แล้วคุณครูไป Focus กับการออกแบบกิจกรรมต่อยอดในห้องเรียนมากขึ้นแทน




ดาวโหลด StartDee ที่ :

bit.ly/startdeeinsk

.

ขั้นตอนการสมัครเเละลงทะเบียน StartDee :

facebook.com/105168064432169/posts/136935254588783/?d=n

.

วิธีเลือกชั้นเรียน เเละ เข้าคลาส บน StartDee :

facebook.com/105168064432169/posts/141124127503229/?d=n

รีวิว
(0)
ดาวน์โหลด
(27)
เก็บไว้อ่าน
(8)