คาบเรียนวิชาเคมี (วิทยาศาสตร์การกีฬา) เด็กนักกีฬาที่สนุกกับการออกกำลัง ถนัดใช้ฐานกาย ต้องมาเรียนทฤษฎีวิชาการ พอครูบรรยายก็หาว พอมีจุดให้จดเป็นบ่น

เราเลยสำรวจความความใฝ่ฝันของเด็ก พบว่าเขายากจะเป็นเทรนเนอร์ด้านสุขภาพกัน

เราเลยให้รวมกลุ่มจัดตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง มาเสนอขายบริการเลยจ้า Hackathon เบา ๆ อิอิ

.

แล้วก็ดีดนิ้วปิ๊ง เปลี่ยนห้องเรียนเป็นสถานการณ์จริง

(ติ๊ง!! ครูเก๋โพสต์เฟซบุ๊ก)

"ครูเก๋มีปัญหาด้านสุขภาพ อ้วนขึ้น มีพุง แต่น้ำหนักลด

อยากหุ่นกระชับ มีซิกแพ็คหน้าท้อง แขนขาเรียว ต้องทำไง

อยากปรึกษาเทรนเนอร์ บริษัทไหนอยากเสนอขายการบริการติดต่อเข้ามาด้วยนะคะ"

.

แต่ละทีมก็วางแผนพูดคุยกัน ตั้งชื่อบริษัท แบ่งหน้าที่

แล้วก็มาเสนอขาย จำลองสถานการณ์จริง ๆ เลย

พากันเข้ามาก็แนะนำบริษัทตัวเอง พร้อมสาธิตการออกกำลังกาย คือดีกว่าที่คิดไว้มาก ชอบ!!! บางทีมก็มาแบบง่าย ๆ บางทีก็จัดเต็ม มีประธานบริษัท มีพนักงงานมาสาธิตการให้บริการ

เราที่เป็นลูกค้าก็คอมเม้นท์แต่ละบริษัทไปว่า...

"บริษัทไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีข้อมูลให้ศึกษา ขอพิจารณาค่ะ"

"บริษัทนี้ไม่ถามเราเลยว่าเราต้องการอะไร มาถึงก็แนะนำคอร์สอย่างเดียว ไม่เข้าใจเราเลยค่ะ"

เราก็ให้ติดต่อเข้ามาใหม่ เด็กก็กลับไปเพิ่มเติมปรับเปลี่ยน

มีเอกสารแนะนำคอร์ส มีนามบัตรมาพร้อม ฮ่าๆๆ

แล้วเราก็ประกาศว่าเลือกใช้บริการบริษัทไหน เพราะอะไร

 "ชอบอะไรในคาบเรียนนี้ และได้เรียนรู้อะไร"

เด็กบอก.. "สนุก ชอบที่ได้ทำงานร่วมกับเพื่อน เรียนรู้จากเพื่อนอีกกลุ่มว่าต้องเตรียมข้อมูล ต้องมีความรู้ในการแนะนำลูกค้า"

.

เราตั้งใจออกแบบให้เขาเกิดสมรรถนะ โดยให้ภารกิจให้เขาทำ ถ้าทำสำเร็จ คือ ผ่าน ทำดีกว่าเกณฑ์มีโบนัสให้ ได้รับรางวัลไป

เราเห็นความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ของเด็ก ๆ มากกว่าแต่ก่อน ที่มาเรียนเหมือนไร้จิตวิญญาณทำตามคำสั่ง

เราภูมิใจที่เห็นเขาแสดงออกถึงความสร้างสรรค์

และพยายามที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ

.

จากกิจกรรมนี้ทำให้เรามีไอเดียและมุ่งมั่น

ในการออกแบบห้องเรียนให้เป็นเหมือน Sandbox 

กระบะทรายที่ให้เขาตกลงมาแล้วไม่เจ็บมากนัก 

ให้เขาได้กล้าคิด กล้าทำ กล้าล้ม และลุกขึ้นใหม่

ครูอย่างเราหลังจากสร้างพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ขึ้นแล้ว

ก็คงทำหน้าที่เป็นได้แค่ที่ปรึกษา ให้ข้อคิด และให้กำลังใจ