‘ตั้งกติกา’ ในห้องไป

เด็กก็ทำตามบ้างไม่ทำบ้าง

แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเด็ก ๆ ได้ตั้งกติกากันเอง ได้ความรู้สึกมีส่วนร่วมในการดูแลห้องเรียนนี้ให้มีความสุขไปตลอดเส้นทาง...

(ครูเดินเข้าห้อง ครูแจกโพสอิท ให้โจทย์)

ห้องเรียนที่ดี

1.ครูจะต้อง...

2.นักเรียนจะต้อง...

(นักเรียนเขียนคำตอบ)

(ครูให้โจทย์ต่อ)

และเพื่อไปให้ถึงห้องเรียนแบบนั้น

นักเรียนคิดว่า 'กติกาอะไรบ้างที่ครูและนักเรียนควรจะต้องใช้ร่วมกัน'

(นักเรียนเขียนคำตอบ)

(ครูเก็บโพสอิท และนำมาเป็นข้อตกลงร่วมกันตลอดเทอม) 

มาฟังเสียงตัวเองกัน

วันนี้สอนเป็นยังไงบ้าง 

ถ้ามีเวลาทบทวนตัวเอง (AAR) สั้น ๆ หลังจบคาบ

แล้วจดโน้ตไว้น่าจะดี

จะได้รู้ว่าคาบหน้าต้องปรับยังไงบ้าง

พอจบแต่ละคาบ

ลองถามตัวเองง่าย ๆ ด้วย 4 หัวข้อ

1) I like

2) I wish

3) Flow

4) Energy

I like 

ชอบอะไรในคาบนี้ ? อะไรที่ทำได้ดี ? การออกแบบกระบวนการ/กิจกรรมไหนที่ทำมันดีจัง ?

I wish 

ถ้าเพิ่ม/ปรับตรงไหนอีกนิด จะเยี่ยมยอดไปเลย ?

Flow 

ให้คะแนนความลื่นไหลหน่อย

ความไหลลื่นของคาบนี้เป็นยังไง ? ติดลมบนไหม ?

ตรงไหนที่ติดขัด ?

Energy 

วัดดูหน่อยว่าใช้พลังงานไปมากน้อยแค่ไหน

คุ้มไหมกับการทุ่มพลังไปขนาดนั้น

จดโน้ตไว้สั้น ๆ กันลืม

แล้วคาบต่อ ๆ ไปก็มาพัฒนากัน

สามารถเอาการ AAR นี้ไป PLC ต่อกับเพื่อนครูได้ด้วยนะ

กิจกรรม ไฟจราจร Traffic Light 

เช็คความเข้าใจเด็กๆ

.

ท้ายคาบ คุณครูจะเอาไฟจราจร มาติดบนกระดาน

แล้วแจก post it 3 สี คือ สีชมพู สีเหลือง สีเขียว

.

สีเขียว

ถ้าเด็กคนไหน เข้าใจบทเรียนได้ดี ให้เขียนการเรียนรู้ของตนเอง (I learn) ลงในกระดาษสีเขียว

.

สีเหลือง

ถ้าเด็กคนไหนเข้าใจบทเรียนเป็นส่วนใหญ่ ให้เขียนเรื่องที่ยังสงสัยลงในกระดาษสีเหลือง

.

สีชมพู

ถ้าเด็กคนไหน ไม่เข้าใจเลย ให้หยิบกระดาษสีชมพู มาเขียนสิ่งที่ตัวเองยังไม่เข้าใจ

.

แล้วนำมาแปะตามสีของไฟจราจาร

สิ่งที่ คุณครูได้จากกิจกรรมนี้คือ...

คุณครู ได้มีหลักฐานเชิงประจักษ์

ว่านักเรียนในห้องมีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน

.

ข้อมูลจากใบสีเขียว ทำให้ครูทราบว่านักเรียนเข้าใจถูกต้องหรือไม่

.

ข้อมูลจากใบสีเหลือง ทำให้ครูรู้ว่ามีประเด็นไหนที่ควรต้องอธิบายเพิ่มเติม

.

ข้อมูลจากใบสีชมพู ทำให้คุณครูทราบว่า คาบหน้าจะต้องปรับการสอนตัวเองอย่างไร

ลองนำไปใช้แล้วเป็นอย่างไร กลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ

เทคนิค "ครูรอ 100% นะ"

.

ครูกำลังเห็นทุกคนมองมาทางครูอยู่

อ๊าาา ตอนนี้อยู่ที่ 90% แล้ว

ครูรอ 100% นะ

เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังนะลูก

โอเค 98% แล้ว

อีกนิดๆ ช่วยเตือนกันหน่อย

(จ้องตาเขม็ง)

อ๊าา ครบ 100% แล้ว เริ่มได้!

.

ตอนนี้ไม่ต้องพูดเยอะแล้ว นักเรียนช่วยพูดแทนให้ได้เลย555

.

หรือเวลานักเรียนคุยกันเยอะๆมากๆเราอาจจะพูดขอบคุณนักเรียนส่วนน้อยแทน

"ขอบคุณนักเรียน 20% ของห้อง ที่หันมามองครูอยู่ตอนนี้"

.

หากเราอยากให้เขาทำพฤติกรรมที่ดี

เราอาจเปลี่ยนจากการขยายด้านร้ายของคนที่ไม่ดี

มาสู่การขยายด้านดีของคนที่ทำดี

เพื่อสื่อสารให้เห็นสิ่งที่เราอยากให้เกิดขึ้นแทน 

.

แบ่งปันโดยครูนิรนามหัวเกรียน

ใครมีวิธีดีๆอีกมาแบ่งปันกันค่า

บัตรสีบัดเถลิง 555 เรียกดี ๆ ว่า “บัตรสีสื่อความหมาย มันคือบัตรสีที่ด้านหนึ่งมีสีแดงใช้ในเชิงลบ อีกด้านสีเขียวใช้ในเชิงบวก ทำง่าย ๆ แต่สารพัดประโยชน์

.

1. หน้าที่หลักคือ #ใช้บอกความเข้าใจ คือนร.แต่ละคนจะวางบัตรสีไว้ที่มุมโต๊ะเวลาครูสอนใครไม่เข้าใจจะวางด้านสีแดงขึ้นครูก็จะอธิบายจนกว่าจะเขียว และใครเข้าใจวางเขียวขึ้น

.

2. ใช้ตอบคำถาม คือ ครูตั้งคำถามที่มีให้เลือกเช่น ใช่ /ไม่ใช่ ถูก/ผิด เหมือน/ต่าง เช่น วันนี้ครูหล่อกว่าทุกวันใช่มั้ย ? เด็กก็จะยกสีเขียวให้ครู ที่แปลว่าใช่ 5555

.

3. ใช้บอกความก้าวหน้าของงาน คือ ครูสั่งงานให้ทำ โดยเด็กจะวางบัตรทางสีแดงขึ้น แปลว่ายังไม่เสร็จ ถ้าทำเสร็จแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว เป็นหน้าที่ครูที่จะคอยเดินสังเกตสีของแต่ละคน

.

มีอีกหลาย ๆ อย่างที่บัตรสีใบเดียวสามารถทำได้ แล้วแต่สถานการณ์นั้น ๆ

.

ผมก็ไม่รู้ว่ามันดียังไง รู้แต่ว่ามันเหมือนได้ห้องเรียนใหม่ ห้องเรียนที่ไม่น่าเบื่อกับวิธีการสอนแบบเดิม ๆ ขอบคุณครับ

นักเรียนมีพฤติกรรมก่อกวนห้องเรียน

ทำยังไงได้บ้าง ?

.

นักเรียนบางคนอาจจะรับรู้ได้ดีผ่านการมองเห็น มากกว่าการได้ยิน

หรือบางทีนักเรียนแค่อาจจะลืม ที่ครูเพิ่งพูดเตือนไปหยกๆ

.

บัตรพฤติกรรม

คือการที่เดินไปหานักเรียนและหย่อนบัตรไว้บนโต๊ะ โดยไม่พูดอะไร ถ้าสอนอยู่ก็สอนต่อไป และยืนใกล้ๆ 2-3 วินาที

ส่วนใหญ่นักเรียนจะหยุดพฤติกรรมนั้น ในบัตรจะมีข้อความเชิงบวกให้เด็กได้ทบทวนถึงพฤติกรรมตน

.

หลังจบคาบค่อยเก็บบัตรคืน เวลาเก็บบัตรให้ขอบใจนักเรียนที่หยุดทำพฤติกรรมเหล่านั้น และใช้เวลานั้นพูดคุย ทำความเข้าใจกัน ว่าสิ่งที่ตนทำส่งผลกระทบต่อห้องเรียนอย่างไร

.

ส่วนตัวครูทบทวนวิธีการสอนของตนเอง ว่าจะพัฒนาห้องเรียนให้ดีขึ้นอย่างไรได้อีกบ้าง นักเรียนเรียนรู้และพัฒนา ครูก็เช่นกัน 

.

สำหรับปัญหานี้ ลูกเพจมีวิธีการจัดการยังไงกันบ้าง

มาแบ่งปันกันหน่อยค่า 

.

ดาวน์โหลดบัตรพฤติกรรมได้ที่นี่

https://inskru.com/idea/-LnA_X8NYVWnEA2F3JpQ

บัตร Reflect พฤติกรรม

https://inskru.com/idea/-LmnVN6r5CUmGZqBSgE8

เทคนิคมอบหน้าที่พิเศษให้เด็กก่อกวน

https://inskru.com/idea/-LVZDZfQUoLzEMwyLoaE

เพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณมือ

ด้วย "การนับเวลา"

.

ให้นักเรียนรู้ว่าเวลาในห้องเรียนนั้นมีค่า

หากเราร่วมมือให้เวลากันเต็มที่

เราก็จะเรียนรู้ร่วมกันได้เต็มที่ด้วย

.

รอบนี้เราบอกเด็ก ครั้งนี้ 30 วินะ

ครั้งหน้าที่เราชูมืออีก เราเห็นความพยายามเด็ก

ที่เด็กจะกลับมาอยู่กับเราเร็วขึ้น

ทวงงานแบบยืนสวยๆ ด้วยเทคนิคสี

แบ่งปันโดย คุณครู Praew Share

ใครมีวิธีอื่นๆมาแบ่งปันกันนะคะ 

-ใช้ยังไง

back to basic เราใช้หลายๆวิธีที่กระตุ้นให้นักเรียนส่งงานโดยการไม่ลงโทษ แต่ก็มาจบด้วยวิธีการที่ง่ายและเบสิคที่สุดคือการเช็คการส่งงานโดยใช้สี เมื่อมีการบ้านเข้ามาครูจะเขียนไว้ด้านบนและเป็นตารางสีขาว เมื่อนักเรียนส่งงานแล้ว จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว เมื่อถึง dead line ช่องสีขาวทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เพื่อให้ทราบว่าถ้ายังเป็นสีแดงนาน คะแนนของนักเรียนจะลดลงเรื่อยๆ

ครูจะโชว์ตารางนี้ท้ายคาบทุกคาบ เพื่อให้นักเรียนเห็นสถานะการส่งการของตนเอง และถ้ามีการตกหล่นจะได้รับทราบตรงกัน

*ข้อควรระวัง การจะแสดงตารางและรายชื่อของนักเรียนทุกคน ต้องอยู่บนพื้นฐานของห้องเรียนที่ทุกคนรู้สึกปลอดภัย (ครูสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันก่อน) สำคัญที่สุดห้ามโชว์คะแนนเด็ดขาด เพราะตารางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดูความรับผิดชอบเท่านั้น

*เมื่อนักเรียนส่งงานครูสามารถเปลี่ยนสีให้ได้ทันที

*สีเหลืองคือตกหล่น ครูต้องกลับไปเช็ค

-พฤติกรรมเด็กเป็นยังไง

การทำให้ช่องของตัวเองเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวให้หมด นักเรียนจะรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกม เป็น mission ที่เขาต้องผ่านไปให้ได้ทุกด่าน และเมื่อไม่มีสีแดงอยู่บนกระดานของเขาเลย เขาจะดีใจมาก

-ปัจจัยที่จะทำให้สำเร็จ

อย่างที่บอกว่าการจะใช้วิธีนี้ต้องอยู่บนพื้นฐานห้องเรียนที่ปลอดภัย เราใช้วิธีการสร้างทีม ทั้งห้องคือทีมเดียวกัน เช่น เวลาครูถามต้องตอบถูก 100% จะได้คะแนนทั้งห้อง คนที่อยากได้คะแนนก็จะรีบบอกคำตอบเพื่อน เพื่อนที่ตอบไม่ได้ก็จะกระตือรือร้นหาคำตอบเพื่อให้เพื่อนได้คะแนนด้วย ในช่วงแรกครูอาจจะต้องให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมก่อน ไม่ตำหนิหรือดุเวลาที่เขาไม่ได้หาคำตอบด้วยตัวเอง เมื่อเป็นทีมเดียวกันแล้ว เขาจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่ง และจะต้องพยายามทำด้วยตัวเองมากขึ้น

ถ้านักเรียนที่มีสีแดงค้างอยู่นาน ครูจะให้มารวมกลุ่มกัน นั่งทำงานด้วยกันจนเสร็จ

หรืออาจจะให้ไปจับคู่กับคนที่เป็นสีเขียวแล้ว ให้เพื่อนช่วยเพื่อนแทน

ในระยะแรกต้องบอกให้ทำ แต่เมื่อนักเรียนเริ่มเรียนรู้ เขาจะไปให้เพื่อนช่วยเหลือก่อนที่จะเป็นสีแดง (แต่ถ้าลอกกันมาครูรู้นะจ๊ะ ^^)