การสอนเด็กให้อ่านและออกเสียงภาษาอังกฤษแบบโฟนิกส์ เป็นสิ่งสำคัญมากในปัจจุบัน งานวิจัยจากหลากหลายแห่งได้พิสูจน์ว่า การเรียน Phonics ทำให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้การอ่านและออกเสียงภาษาอังกฤษได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังช่วงพัฒนาเซลล์สมองของเด็กๆ ทำให้มีการสร้างเส้นใยสมองใหม่ขึ้นอีกด้วย
การสอนโฟนิกส์ จะสอนให้เด็กๆ รู้จักชื่อของตัวอักษร ไปพร้อมๆ กับเสียงของตัวอักษร (phonics) ซึ่งจะทำให้เด็กๆ มีความเข้าใจในการออกเสียง และสามารถนำเสียงต่างๆ ที่เรียนมา ไปประกอบกัน เพื่อช่วยในการอ่านคำศัพท์ใหม่ๆ ได้ง่ายกว่าการท่องจำ แทนทีเด็กๆ จะสะกดโดยใช้ชื่อของตัวอักษร เด็กๆ จะสะกดด้วยเสียงของตัวอักษร เช่น เคอะ (C) แอะ (A) เทอะ (T) แคท แมว, เบอะ (B) แอะ (A) เทอะ (T) แบท ค้างคาว
เสียงในภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 44 เสียง จาก 26 ตัวอักษร ทั้งเสียงพยัญชนะ ตัวอักษรต่างๆ รวมไปถึง เสียงสระ การที่จะสอนเสียงเหล่านี้ให้เด็กๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องยาก สื่อการสอนในรูปแบบเพลง เป็นสื่อที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นสื่อที่ใช้ง่าย ทำให้เด็กๆ จำเสียงได้ง่าย และอย่างเป็นธรรมชาติ
ตัวอย่างเพลงโฟนิกส์
(คลิก>> https://youtu.be/YuRvzlT7LlM เพื่อฟังเพลงตัวอย่าง)
(คลิก>>https://youtu.be/YpxnXkTSiW0 เพื่อฟังเพลงตัวอย่าง)
(คลิก>>https://youtu.be/jTDWje-sUUw เพื่อฟังเพลงตัวอย่าง)
จะสังเกตได้ว่า เพลงโฟนิกส์สำหรับเด็ก จะมีทำนองที่คุ้นเคย ติดหู และร้องตามได้ง่าย รวมไปถึงเนื้อหาของเพลง และคำศัพท์ที่ใช้ก็เป็นคำศัพท์ที่ง่าย เหมาะกับเด็กเล็ก ที่เพิ่งเริ่มเรียนการออกเสียงภาษาอังกฤษ
ขอขอบคุณ https://www.twinkl.co.th/ สำหรับตัวอย่างเพลงและรูปภาพประกอบ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!