ตลาดนัดสุด cool ชวนรู้เศรษฐศาสตร์ !

การสอนเรื่องเศรษฐศาสตร์จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป !

.

.

ไอเดียการสอน ตลาดนัดชอปสุดคุ้ม เราจุดประกายมาจากงานเวิร์คชอป ครูปล่อยแสง ที่จัดไปเมื่อเดือนที่แล้ว

โดยเรามองว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับวิชาได้หลากหลาย ซึ่งเราเลือกกิจกรรมนี้มาบูรณาการวิชาสังคมกับวิชาคณิตศาสตร์

.

.

กิจกรรมตลาดนัดชอปสุดคุ้ม เป็นส่วนหนึ่งของการสอนวิชาสังคม

หน่วยการเรียนรู้ เศรษฐศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ตัวชี้วัด

มาตรฐาน ส 3.1   เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง  เพื่อการดำรงชีวิตอย่างมีดุลยภาพ

วัตถุประสงค์การเรียนรู้

• เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักรู้ถึงการบริหารและใช้ทรัพยากรที่มีอย่างคุ้มค่า
• เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ และความเข้าใจถึงการเลือกซื้อสินค้าอย่างเหมาะสม
• เพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันเพื่มมากขึ้น

.

.

ขั้นตอนที่หนึ่ง เริ่มเข้าคลาสด้วยการเช็คอิน

คุณครูชวนเด็กๆ เช็คอินด้วยคำถามที่ว่า " ให้ลองนึกถึงสิ่งของรอบตัวที่เจอวันนี้ให้ฟังหน่อย ว่าเราเจออะไรบ้างระหว่างทางมาโรงเรียน หรือตั้งแต่ตื่นเช้ามาเราเจออะไร ? "

โดยให้เด็กจับคู่กันแบ่งบันเรื่องราวระหว่างกัน ผลัดกันเป็นผู้พูดและผู้ฟังคนละหนึ่งรอบ ให้เวลารอบละ 3 นาที

.

เมื่อแชร์เสร็จแล้วให้คุณครูถามเด็กๆ สุ่มบางคู่ที่พร้อมแชร์ให้เพื่อนๆทั้งห้องฟัง และชวนต่อไปว่าสิ่งของเ่านั้นที่เจอ เป็นของประเภทอะไร? ใครรู้จักบ้าง? เป็นต้น

.

ขั้นตอนที่สอง เข้าสู่กิจกรรมหลัก ตลาดนัดชอปสุดคุ้ม

คุณครูให้เด็กๆ จับคู่กับเพื่อน และตั้งโจทย์ให้แต่ละคู่หารือกันว่าจะเลือกสิ่งของอะไรมาขายในตลาดนัด

โจทย์พูดคุย " วันนี้ห้องเราจะมาจัดตลาดนัดกันน ! " " ตลาดนัดควรมีอะไรมาขายบ้างนะ ? แล้วเด็กๆเคยเดินตลาดนัดกันบ้างไหม " " และหากเราเป็นแม่ค้าพ่อค้าจะเอาสินค้าหรือของอะไรมาขายดี ? " " แต่ๆ ให้ทุกคนลิสต์รายการที่อยากขายมา 2-3 อย่าง และตั้งราคาสินค้ามาด้วยนะ เอาตามที่เราคิดว่าเหมาะสมได้เลย ! " เป็นต้น

.

โดยคุณครูให้เวลาพูดคุย 10 - 15 นาที และให้นักเรียนจดคำตอบสิ่งของที่อยากเอามาขายในตลาดนัด เพียง 2-3 อย่างพร้อมราคาที่ตั้งขึ้น ลงบนกระดาษหรือโพสอิทที่แจกให้

.

คุณครูเขียนหัวข้อ "ตลาดนัดสุดคูล" บนกระดานดำ

และแจกโพสต์อิท หรือกระดาษให้นักเรียนเขียนคำตอบที่พูดคุยกัน

.

Note : ระหว่างให้เด็กพูดคุยกัน คุณครูเดินเข้าหาแต่ละคู่ เผื่อเด็กต้องการความช่วยเหลือหรือตามคุณครูไม่ทัน และกระตุ้นให้เด็กๆพูดคุยกันมากขึ้น ด้วยการเข้าไปชวนเด็กและตั้งคำถามในเรื่องใกล้ตัวกับเด็กๆ เช่น แล้วตลาดแถวบ้านเรา เราเคยเห็นของอะไรบ้าง หรือเราเคยซื้อของอะไรบ้างมั้ย ? เป็นต้น

.

ขั้นตอนที่สาม เมื่อครบกำหนดเวลา ให้เด็กๆนำคำตอบของแต่ละคู่ที่เขียนมาได้นำมาแปะไว้บนกระดานหน้าห้อง แล้วครูให้เด็กๆทั้งห้องลุกขึ้นมาเดินดูคำตอบของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรบ้าง และมีอะไรที่เหมือนกันหรือแปลกๆน่าซื้อบ้าง เมื่อเด็กๆดูครบกันหมดแล้ว

.

ต่อมาคุณครูให้เด็กแต่ละคู่เดินเลือกซื้อสินค้าที่อยากได้ ด้วยงบคนละ 200 บาท โดยถามว่า " คุณครูจะให้เงินคู่ละ 200 บาท แต่ละคู่จะซื้อของอะไร และจะจัดการเงินนี้อย่างไรตามใจทุกคนได้เลย จะกี่ชิ้นก็ได้ แต่ต้องใช้ภายในเงินที่ให้ไปเท่านั้น "

.

โดยคุณครูแจกกระดาษให้แต่ละคู่เขียนสิ่งที่ซื้อ ราคาของ เหตุผลที่ซื้อของนั้น รวมถึงตารางเงินที่ใช้ไป และเงินคงเหลือ

หากเด็กๆไม่เข้าใจ ให้คุณครูเข้าไปหาและอธิบายอีกรอบในแต่ละคู่ โดยให้เวลาในการจดคำตอบ 10-15 นาที

.

ขั้นตอนที่สี่ เมื่อครบเวลาแล้ว ให้แต่ละคู่นำคำตอบที่ได้มาแบ่งบันให้เพื่อนๆฟังหน้าชั้นเรียน ว่าทำไมเราถึงเลือกซื้อสินค้านั้นๆ แล้วเราเหลือเงินเท่าไร อธิบายตารางที่เราทำ โดยคุณครูคอยช่วยเหลือคู่ที่อาจมีปัญหาด้านการสื่อสาร หรือยังสงสัย ด้วยการกระตุ้นด้วยคำถามเพื่อให้เด็กๆรู้สึกสบายใจ อยากที่จะแบ่งบัน

.

เมื่อเด็กออกมาแบ่งบันหมดแล้ว ให้ครูถอดกิจกรรมด้วยการเกริ่นถึงของสิ่งรอบตัวที่เรานำมาขายนั้น คือสิ่งของในชีวิตประจำวันเราทั้งนั้น ยกตัวอย่างสิ่งของมาสามสี่อย่างให้เด็กเห็นภาพมากขึ้น ว่าเราทุกคนล้วนเห็นมาทั้งหมด

และชวนคุยไปถึงเหตุผลที่แต่ละคนเลือกซื้อล้วนแต่มีความสำคัญ ตั้งแต่เลือกซือเพราะเราจำเป็นต้องใช้ อย่างของอุปโภคบริโภค เช่น สบู่ แชมพู อาหาร ฯลฯ เพราะเราทุกคนต้องการปัจจัยสี่ เป็นต้น

.

โดยคุณครูพยายามดึงเอาประเด็นที่เด็กสะท้อนมาเชื่อมโยงกับเนื้อหาการเลือกซื้อสินค้าที่ไม่ควรเลือกเพราะเราชอบเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาตามความเหมาสะมตามหลักเกณฑ์

.

และตารางการใช้เงินที่แต่ละคู่เขียนมา ให้คุณครูเชื่อมโยงกับการคิดเลข การทำตารางรายรับรายจ่าย โดยครูเลือกตารางที่เด็กๆ เขียนมายกตัวอย่างที่ดีและควรเขียนอย่างไรถึงจะดี ให้เด็กๆทุกคนได้เห็น

.

และชวนให้เด็กๆเห็นถึงความสำคัญของการทำตารางจัดการเงินให้ใช้อย่างคุ้มค่า ว่ามีเงินเท่านี้ควรซื้อของอย่างไรให้เหมาะสม ไม่ใช้เงินเกินอย่างไร ความสำคัญของเงินด้วย

.

ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อการถอดกระบวนการ คุณครูชวนเช็คเอ้าท์ ด้วยการให้เด็กๆ เขียนอารมณที่เกิดขึ้นด้วยอิโมจิ พร้อมกับเขียนสิ่งที่ได้เรียนภายในวันนี้ได้อะไรบ้าง และเราจะนำสิ่งที่เรียนไปใช้อย่างไรบ้าง

.

คุณครูแจกโพสอิทหรือให้เด็กๆเขียนคำตอบลงในสมุดการบ้าน เพื่อให้คุณครูสามารถตรวจคำตอบและเขียนตอบนักเรียนได้

.

.

ไอเดียการสอนนี้คิดว่าคุณครูสามารถนำไปใช้ได้ และเกิดประโยชน์แก่ทุกท่านนะคะ

หรือจะนำกิจกรรมนี้ไปดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับวิชาอื่นๆได้เหมือนกันนะคะ เพราะกิจกรรมหลักสามารถนำไปใช้กับวิชาการงาน วิชาคณิต ฯลฯ ได้เหมือนกันค่า หวังว่าคุณครูทุกคนจะชอบกันนะคะ 🥰🙏🏼