inskru

การใช้กระบวนการนิติบัญญัติในการสอนหน้าที่พลเมือง

8
2
ภาพประกอบไอเดีย การใช้กระบวนการนิติบัญญัติในการสอนหน้าที่พลเมือง

จากกระแสความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปและความต้องการของผู้เรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่มีต่อความต้องการในการที่จะขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงสภาพทางระเบียบวินัยของโรงเรียน เกี่ยวกับเครื่องแบบเป็นอย่างมาก ผมจึงเห็นว่า คุณครูสังคม น่าจะเอามาใช้ในการสอนวิชาหน้าที่พลเมืองครับ

สวัสดีครับคุณครูทุกท่าน ผม นายกันตินันท์ วิริยะสวัสดิ์ นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณครูทุกท่านครับ


คงจะเป็นประเด็นร้อนแรงในหลายสถานศึกษาไม่ใช่น้อย กับการเรียกร้องเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียนในสถานศึกษาหลายแห่ง ที่มีความต้องการให้เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและวินัยของโรงเรียน โดยเฉพาะการเปิดอิสระให้สามารถใส่ชุดสุภาพ (หรือที่หลายแห่งเรียกว่าชุดไปรเวท) มาเรียนได้

ดูเป็นเรื่องไม่ใหญ่ก็คงไม่ใหญ่ แต่ถ้าพูดถึงทางออกสำหรับข้อเรียกร้องและเหตุการณ์นี้ กับเด็กๆวัยมัธยมที่ค่อนข้างมีอารมณ์รุนแรงนั้น ก็นับว่ายากเหมือนกันสำหรับคุณครูอย่างเราๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายวินัย ครูประจำชั้น หรือครูสังคมศึกษาอย่างพวกเราเอง ที่ทั้งต้องสอนและจัดกิจกรรมการเรียนรู้เนื้อหาพื้นฐานในการใช้ชีวิตของนักเรียนเป็นจำนวนมาก และก็ต้องทำให้เกิดความเข้าใจอันดี ความสร้างสรรค์ และความก้าวหน้าไปพร้อมกัน


ในวันนี้ ผมจะมานำเสนอไอเดียที่ผมกำลังจะนำมาทำเป็นการวิจัยให้กับคุณครูทุกคนครับ แนวคิดเบื้องต้น มาจากการเรียนวิชาเอกเกี่ยวกับกฎหมายในระดับอุดมศึกษา ให้ลองมองกฎระเบียบของโรงเรียน เป็นเหมือนกับกฎหมายฉบับหนึ่งๆ เป็นลายลักษณ์อักษร มีการรับรอง และมีผลบังคับใช้กับเรื่องหนึ่งๆ ในพื้นที่หนึ่งๆอย่างชัดเจน การเปลี่ยนแปลงกฎหมายหรือกฎระเบียบใดๆ ก็เป็นสิ่งที่ย่อมทำได้ในการเปลี่ยนแปลงให้มีความเหมาะสมตามยุคสมัย หรือข้อเรียกร้องของนักเรียน ซึ่งต้องใช้ชีวิตภายใต้กฎเหล่านั้น ดังนั้น การเรียกร้องของเด็กๆ จึงเป็นโอกาสที่สำคัญที่พวกเขาจะมีความสนใจและเราสามารถใช้เป็นโอกาสในการสร้างการเรียนรู้ให้นักเรียนได้


มาตรฐานและตัวชี้วัดที่ใช้ในการออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้ตามแนวคิดนี้ คือมาตรฐานที่ ส. 2.2 สาระหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม - เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธาและธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


มาตรฐานที่ ม.2/1 อธิบายกระบวนการในการตรากฎหมาย ซึ่งถ้าเราตรวจสอบจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร์ไทย พุทธศักราช 2560 จะพบว่า กระบวนการนิติบัญญัติ ในการตรากฎหมาย จะมีกระบวนการเบื้องต้นดังนี้ครับ (ขอบคุณภาพกราฟฟิกจากiLawด้วยนะครับผมมมม)




จะพบว่า มีบทบาทของกลุ่มคนและองค์กรที่อยู่ในกระบวนการนิติบัญญัติที่สำคัญๆ อยู่ 4 กลุ่ม คือ สส. สว. ศาสรัฐธรรมนูญ และพระมหากษัตริย์ โดยลายลักษณ์อักษรที่สำคัญคือกฎหมายครับ


ในการออกแบบกิจกรรม เราก็จะมอบหมายให้ผู้เรียนทำ "กฎระเบียบของห้อง" ขึ้นมาฉบับหนึ่ง ตามเนื้อหาที่แต่ละห้องให้ความสนใจ โดยให้นักเรียนประชุมกัน ศึกษากฎระเบียบที่สูงกว่ากฎระเบียบของห้อง ที่จะนำมาใช้เป็นแม่บทหรือต้นทางในการจัดทำร่างกฎระเบียบของห้อง (ที่เปรียบได้กับร่างกฎหมาย) โดยสิ่งที่สูงกว่ากฎระเบียบของห้อง คือกฎระเบียบเกี่ยวกับนักเรียนต่าง ๆ ของโรงเรียน กฎหรือระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือแม้แต่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หรือรัฐธรรมนูญ ตามแต่ว่าเนื้อหาในร่างกฎที่นักเรียนสนใจเกี่ยวข้องกับอะไร


เราก็จะนำมาเป็นการบัาน ให้ศึกษาร่วมกัน แล้วนำมาสร้างกฎระเบียบที่เป็นลายลักษณ์อักษรของแต่ละห้อง จากความเห็น การอ้างอิง และความต้องการของกลุ่มผู้เรียน เสมือนกับเป็นการประชุมของแต่ละห้องเพื่อร่างกฎระเบียบใหม่ของห้องได้ เป็นการได้เรียนรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเองไปในตัว และอาจบูรณาการความรู้เกี่ยวกับการจัดการประชุมมาใช้ในการจัดกิจกรรมได้ด้วย ก็เปรียบเสมือนเป็นกระยวนการของ สส.ในการนิติบัญญัติ


เมื่อได้ร่างกฎหมายที่นักเรียนพอใจแล้ว ก็ต้องส่งต่อร่างกฎหมายให้กับ สว. ซึ่งในที่นี้ เราจะแทนบทบาทด้วยที่ประชุมของครูประจำชั้น วินัยสายขั้น คุณครูประจำวิชา มานักตรวจสอบความเรียบร้อยครับ ถ้ามีปัญหาหรือรายละเอียดอะไรต้องเปลี่ยนแปลง ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการตามแผนภาพเลยครับ


เมื่อผ่านทั้ง สส. และ สว, แล้ว ขั้นต่อไปคือต้องผ่านศาลรัฐธรรมนูญ ในขั้นนี้ คนที่จะมาเปรียบได้กับศาล อาจจะเป็นการให้คุณครูฝ่ายปกครอง หรือฝ่ายกิจการนักเรียน เป็นคนตรวจสอบ หากต้องแก้ไข ก็Comment มาให้นักเรียนแก้ไขเรื่อยๆ เพราะเราพยายามจะให้เกิดชิ้นงานขึ้นจริง และไม่ต้องการให้ร่างกฎถูกตีตกครับ โดยในกระบวนการตรวจสอบนี้ คุณครูประจำวิชาหรือตัวแทนนักเรียน อาจมีส่วนเข้าไปอธิบายหลักการหรือสร้างความเข้าใจได้

เมื่อเนื้อหาของกฎระเบียบถูกแก้ไขเรียบร้อย และเป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย ก็ให้ทุกฝ่ายลงนามเอาไว้ครับ โดยทุกๆขั้นตอนที่ผ่านมา ผู้เรียนต้องตรวจสอบ รับรู้ความคืบหน้าและบันทึกวาระการประชุม เพื่อรวบรวมเป็นรายงานในตอนสุดท้ายด้วย


จากนั้น ก็จะเข้าสู่กระบวนการที่เปรียบเทียบได้กับการลงพระปรมาภิไธย ก็คือการลงนามรับรองกฎนี้โดยผู้อำนวยการโรงเรียนครับ ก็ให้ท่านตรวจสอบตามที่กระบวนการในรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เมื่อกฎของห้องถูกลงนามและมีผลบังคับใช้สมบูรณ์ ก็ให้แต่ละห้องจัดทำรวบรวมเป็นรูปเล่มรายงานว่ากิจกรรมที่ทำตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงกฎถูกลงนามขั้นสุดท้ายมีอะไรบ้าง มีปัญหา อุปสรรค การจัดสรรงานกันอย่างไร แล้วเราอาจจะสรุปองค์ความรู้ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง


เด็กๆก็จะได้เรียนรู้กระบวนการนิติบัญญัติผ่านการปฏิบัติ และบูรณาการกับความรู้อื่นๆที่จำเป็นและเกี่ยวข้องได้ ผ่านการนำมาใช้จริงครับ ว่าง่ายๆ ก็เหมือนการสร้างข้อตกลงในชั้นเรียนนั่นแหละครับ แค่ใส่กระบวนการในการเรียนรู้เข้าไปด้วยก็เท่านั้นเอง


คุณครูของผู้เรียนในวัยประถม อาจนำกระบวนการนี้มาใช้โดยลดความซับซ้อนลงก็ได้นะครับ สนุกๆ แถมยังได้องค์ความรู้ที่ยั่งยืนด้วยนะครับ



ขอบคุณทุกคนมากครับผมมมม

ไฟล์ที่แบ่งปัน

    visual possibleสังคมศึกษาCreative-Critical Thinkingครูปล่อยของมหาสารคามกระบวนการนิติบัญญัติหน้าที่พลเมือง

    ไอเดียนี้เป็นไงบ้าง?

    8
    ได้แรงบันดาลใจ
    2
    ลงไอเดียอีกน้า~
    แบ่งปันโดย
    กันตินันท์ วิริยะสวัสดิ์
    Assisting teacher……First jobber

    อยากร่วมแลกเปลี่ยน?

    please login

    แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru

    เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย

    icon-please-commentมาเป็นคนแรกที่แลกเปลี่ยนสิ!
    credit idea

    ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
    บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!

    ไอเดียน่าอ่านต่อ