"การที่เธอผิวคล้ำไม่ได้หมายความว่าเธอไม่สวย เธอก็สวยในแบบของเธอ ถ้าเธอรู้สึกกังวลใจที่เพื่อนมาพูดแบบนั้น เธอสามารถมาคุยกับเราได้ทุกเมื่อนะ"
คำพูดจากนักเรียนคนนึง ที่ให้กำลังใจเพื่อนที่โดนบูลลี่
ที่ไม่ได้พูดแค่ประโยคว่า “สู้ ๆ นะ”
“ผมเชื่อว่า อาชีพครูผู้สอน เป็นอาชีพที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้
เพราะการศึกษาสามารถทำให้มนุษย์เจริญงอกงามได้”
ดังนั้น ผมจึงเลือกมาทำอาชีพนี้ และผมก็เชื่อว่าสิ่งที่ผมทำ
ก็น่าจะเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ตัวหนึ่งที่กำลังช่วยขับเคลื่อนให้ปาฏิหาริย์บังเกิดอีกครั้ง
ปาฏิหาริย์เล็ก ๆ ที่การบูลลี่จะหมดไป และเด็ก ๆ ได้สายตาแห่งความเท่าเทียม
มองทุกคนเท่าเทียมกัน คิดถึงจิตใจของเขาและจิตใจของเรา ช่วยเหลือกันและกัน
ผมเลยออกแบบคาบเรียนเริ่มจาก
คลิปนวล
ผมเริ่มจากการเปิด Clip VDO ของ นวล เรื่อง การกลั่นแกล้ง (Bullying)
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเกม RPG ถึงชีวิตของตัวละครเด็กมัธยมคนหนึ่งที่ถูก Bully
ให้นักเรียนดู
Link >> https://fb.watch/226yb8CVNy/
(ขอขอบคุณเพจนวลมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
แบ่งปันประสบการณ์
จากนั้น แจกใบงานให้นักเรียนเขียนประสบการณ์ของตนเองเกี่ยวกับ Bully
ไม่ว่าจะในฐานะผู้ถูกกระทำ ผู้กระทำ ผู้เห็นเหตุการณ์
หรือผู้ได้ยินเรื่องราวมา โดยที่ไม่ต้องเขียนชื่อในใบงาน
สลับกันเขียนให้กำลังใจ
ผมเก็บใบงานนักเรียนเป็นแถว แล้วสลับให้กับอีกแถวหนึ่ง
นักเรียนจะได้ใบงานของเพื่อนคนอื่นโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร
จากนั้นให้นักเรียนเขียนชื่อ-สกุลในใบงาน
และให้นักเรียนเขียนให้กำลังใจเพื่อนหรือบุคคลที่อยู่ในเรื่องราวของการถูก Bully (หรือเพื่อนที่สำนึกผิดไปแล้วที่ Bully คนอื่น)
เปิดโลกแนวทาง
โดยผมได้แนะนำแนวทางการใช้คำพูดหรือภาษา ที่ให้กำลังใจเพื่อนตามหลักจิตวิทยาให้คำปรึกษา (Counseling Psychology)
เช่น จะยกตัวอย่างคำพูดที่ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าอย่าง
สู้ ๆ นะ หรือ เลิกเศร้าได้แล้ว
และแนวทางที่จะใช้คำพูด ไม่ควรเอาความคิดหรือความรู้สึกของเราไปครอบเพื่อน แต่ให้ทำตัวเป็นเพื่อนร่วมทาง ยอมรับทุกความคิดและความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเพื่อน
สิ่งที่สำคัญก็คือ ให้ใช้แนวทางคำพูดให้เพื่อนรู้สึกว่า เราอยู่ข้าง ๆ เธอเสมอ และไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร เรายินดีที่จะอยู่ตรงนี้เพื่อเป็นกำลังใจช่วยเหลือเธอเสมอนะ
จากการอธิบายขยายความ นักเรียนหลาย ๆ คนก็จะเข้าใจ เพราะตัวนักเรียนเองก็รู้ดีที่สุดว่าเวลาที่ถูกกลั่นแกล้ง คำพูดหรือสิ่งที่พวกเขาต้องการปลอบโยนจิตใจมากที่สุด คือคำพูดแบบไหน ลองชวนนักเรียนสลับเป็นผู้ถูกบูลลี่ ว่านักเรียนอยากได้ยินประโยคแบบไหนจากคนรอบข้าง ก็จะช่วยให้นักเรียนคิดแนวทางในการใช้คำพูดออกมาได้ดีขึ้นมากครับ
แบ่งปัน
จากนั้น ก็ให้มีการนำเสนอเพื่อให้เจ้าของเรื่อง (ซึ่งไม่เปิดเผยตนแต่นั่งอยู่ในห้อง) ได้รับฟังกำลังใจจากเพื่อน ๆ ในห้อง
หลังจบคาบนี้...
รู้สึกหัวใจพองโต ดีใจที่เด็ก ๆ เข้าใจว่าการบูลลี่เป็นเรื่องที่ไม่ดีและไม่ควรเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น และหากมีเพื่อนคนใดที่ถูกบูลลี่มา เด็ก ๆ ก็พร้อมที่จะช่วยสื่อสารให้กำลังใจเพื่อน ๆ ในการเยียวยาจิตใจเพื่อน ๆ ได้
ผมได้ตรวจภาษาที่นักเรียนได้ใช้ในการสื่อสารให้กำลังใจเพื่อนในใบงาน และพบว่านักเรียนหลาย ๆ คนเลือกใช้คำพูดได้ถูกต้องตามหลักจิตวิทยาให้คำปรึกษา
ขนาดผมซึ่งเป็นครูผู้สอนได้อ่าน ยังรู้สึกได้ถึงเจตนาดีของเด็กคนหนึ่งที่มีให้กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ในฐานะครูที่เห็นนักเรียนทุกคนเข้าใจวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ ก็มองเห็นถึงอนาคตของชาติและของโลกที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น การบูลลี่ที่จะต้องลดลงจนหมดไป และมีแต่การเห็นอกเห็นใจเห็นทุกคนเท่าเทียมกัน
“สำหรับผมนักเรียนในฐานะผู้เรียนรู้ ได้เรียนรู้ทักษะการสื่อสาร เมื่อได้ให้กำลังใจผู้อื่นก็ได้รู้สึกถึงการเห็นคุณค่าในตนเอง (Self-Esteem) ที่ได้ช่วยเหลือเยียวยาจิตใจเพื่อน ๆ ส่วนเพื่อนที่ได้รับคำพูดให้กำลังใจก็ได้รับการเยียวยาจิตใจจากเพื่อน ๆ ในห้อง ทำให้เกิดความสุขและความพึงพอใจในชีวิตมากยิ่งขึ้น”
“นักเรียนในฐานะพลเมืองที่เข้มแข็ง ได้รู้จักที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเรา ได้ทำจิตอาสาในการให้กำลังใจเยียวยาช่วยเหลือจิตใจผู้อื่น เมื่อนักเรียนรู้จักเห็นใจผู้อื่น เข้าอกเข้าใจจิตใจเพื่อนหรือบุคคลอื่น ๆ ที่ถูกกลั่นแกล้ง นักเรียนก็จะไม่ปฏิบัติตนเช่นนั้นกับบุคคลอื่น และทำให้นักเรียนได้เห็นบุคคลอื่นเท่าเทียมกันกับตนเองด้วย”