icon
giftClose
profile

น้ำตาเทียนประกอบร่าง

33363
ภาพประกอบไอเดีย น้ำตาเทียนประกอบร่าง

กิจกรรมทดลองทางวิทยาศาสตร์จากน้ำตาเทียน ที่มีจุดเริ่มต้นการจากสังเกตและการตั้งคำถามของเด็ก ๆ นำไปสู่กิจกรรมการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ใช้ความคิดเห็น ได้ฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่า “คุณค่า” ไปจนถึงการออกแบบเพื่อค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง




“คุณครูคะ มันมีน้ำอะไรที่ไหลออกจากเทียน

แล้วทำไมเวลามันหยดลงไปถึงพื้นแล้วมันก็แข็ง”

“อ๋อ เข้าเรียกว่าน้ำตาเทียน”

“คุณครูคะ ที่มันไหลออกมาเป็นน้ำ แล้วพอนานไปมันก็แข็ง

อย่างนี้ก็เอาไปใช้ได้อีกครั้งหนะสิคะ”

“แล้วหนูคิดว่า จะทำยังไงให้น้ำตาเทียนมันกลับมาใช้ได้อีกครั้ง”

“หนูว่าต้องเอามารวมกันแล้วก็ทากาว”


คำถามที่เด็กคนนึงเดินมาถามที่โต๊ะ ในคาบเรียนของเด็ก ๆ ปฐมวัย

ขณะทำการทดลองวิทยาศาสตร์

ซึ่งในการทดลองนั้นมีเทียนไขเป็นส่วนประกอบของการทดลอง

และน้ำตาเทียนก็จะไหลลงมาตามต้นเทียน


จากคำถามที่เด็กมี ก็กลายมาเป็นคำถามของเราเหมือนกันว่า

จากคำถามของเด็กเนี่ย เราจะหาคำตอบให้กับเขา

โดยที่เขาเป็นคนเจอคำตอบนั้นด้วยตัวเอง เราจะทำยังไง ?

เราเลยนำคำถามของเด็ก มาเป็นประเด็นชวนเด็กหาคำตอบ โดยให้เด็ก ๆ

สังเกตเทียนและน้ำตาเทียน แล้วให้เด็ก ๆ กลับไปหาคำตอบ

โดยการกลับไปถามผู้ปกครอง และคุณครูพาเด็กไปถามครูวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนว่า

ทำยังไงให้น้ำตาเทียมกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ? พร้อมให้หาข้อมูลเพิ่มเติม

โดยเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีด้วยการดู YouTube


หลังจากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาสนทนาร่วมกัน

หลังจากเด็ก ๆ ได้ข้อมูลแล้วนั้น เราให้เด็ก ๆ พูดคุยแสดงความคิดเห็น

ซึ่งสรุปได้เป็น 2 รูปแบบ โดยรูปแบบที่ 1 ให้นำเทียนมาตำแล้วใส่กาว

จากนั้นปั้นให้เป็นรูปทรงคล้าย ๆ เทียน ก็จะสามารถนำมาใช้ได้อีกครั้ง และรูปแบบที่

2 เนื่องจากสังเกตเห็นถึงตอนที่เขียนมันเป็นน้ำไหลออกมา เพราะมีไฟอยู่ปลายเทียน

และพอมันไหลลงมาถึงพื้นพักนึงมันก็แข็งตัว เด็ก ๆ จึงสรุปว่า

ให้เอาไปต้มแล้วเทใส่หลอดดูดน้ำ ก็จะสามารถนำมาใช้ได้อีกครั้ง


จากความเห็นของเด็ก ๆ ทั้งสองแบบนั้น เราทำการแบ่งเด็กออกเป็น 2

กลุ่มเพื่อทำการทดลองตามที่เด็ก ๆ ช่วยกันออกแบบว่าควรจะทำยังไงกับน้ำตาเทียน

เพื่อที่จะนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ซึ่งหลังจากทดลองแล้ว เราชวนพูดคุยเพื่อให้เด็ก ๆ

ได้คำตอบว่าวิธีการไหน ที่สามารถนำน้ำตาเทียนกลับมาใช้ได้อีกครั้ง

ด้วยการหาคำตอบโดยวิธีของเขาเอง

แต่การเรียนรู้ยังไม่จบเพียงเท่านี้

เพราะด้วยความบังเอิญที่มีเด็กคนนึงชอบวาดรูปมาก ๆ เขานำเศษเทียนไประบายสี

แล้วเศษเทียนที่เขานำไประบายเป็นสีส้มอ่อน ๆ เขาก็เลยมีคำถามต่อว่า

“ถ้าเราเอาน้ำตาเทียนมาทำเป็นสีเทียน จะได้ไหมคะ”

ซึ่งเป็นประเด็นคำถามที่ทำให้เรามีการทดลองต่อในครั้งที่ 2


เราเริ่มต้นด้วยคำที่ว่า “เราจะมีวิธีการทำสีเทียนอย่างไรบ้าง ?” เด็ก ๆ

ก็ช่วยกันออกแบบการทำสีเทียน ซึ่งเป็นการต้มน้ำตาเทียนเหมือนเดิม

แต่สิ่งที่ทำให้เกิดสีเขาเสนอว่าให้ใช้เป็นสีผสมอาหาร โดยที่เด็ก ๆ รู้จักสีผสมอาหารนั้น

เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เด็ก ๆ เคยใช้ในการทำกิจกรรมการเรียนรู้อื่น ๆ ก่อนหน้านี้ เช่น


กิจกรรมการทำแป้งโดว์หรือกิจกรรมการทำ Cooking

เป็นเหมือนการนำประสบการณ์การเรียนรู้เดิม มาประยุกต์ใช้กับการทดลอง

ที่ทำให้เกิดเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ใหม่

เราร่วมกันทำการทดลอง แต่ด้วยสีผสมอาหารที่ใช้ในการทดลองนั้นเป็นแบบผง

ซึ่งมีคุณสมบัติที่มีลักษณะเหมือนเป็นเนื้อตรงข้ามกับเทียน

จึงทำให้เมื่อผสมแล้วไม่เป็นเนื้อเดียวกัน และไม่ออกสีเหมือนสีเทียน

สีที่ได้จากทดลองมีลักษณะออกมาเป็นสีน้ำตาล


มีเด็กส่วนหนึ่งเสนอว่า “คุณครูคะ สีเทียนที่หักเป็นอันเล็ก ๆ

เอามาต้มกับน้ำตาเทียนได้ไหม” เราก็เลยทำการทดลองอีกครั้ง

โดยการนำเศษสีเทียนมาต้มรวมกับน้ำตาเทียน

ผลการทดลองครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะ

เมื่อนำมาต้มรวมจนเป็นเนื้อเดียวกัน ทำให้สีเทียนที่หักและไม่สามารถใช้ได้แล้ว

กลายเป็นสีเทียนใหม่ที่มีสีตามต้องการ จากนั้นเด็ก ๆ ก็นำสีเทียนที่ทดลองกันเอง

มาช่วยกันใช้ไม้บรรทัดวัดขนาดว่าสีไหนมีความยาวเท่าไหร่

และทดลองนำไปใช้ประกอบการวาดภาพระบายสี


ซึ่งผลลัพธ์จากการทดลองที่นอกจากเหนือจากการที่ทำให้เด็ก ๆ

รู้ที่มาที่ไปและกรรมวิธีการทำสีเทียน ยังทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ถึง “คุณค่า”

เพราะสำหรับเด็กปฐมวัย เขาจะเห็นคุณค่าของทุกสิ่งทุกอย่าง

ที่เขาเป็นคนทำหรือว่ามีส่วนร่วมในการทำหรือผลิตขึ้นมา

เขาจะใช้ของสิ่งนั้นอย่างมีคุณค่า และถนอมเพื่อให้มันยังอยู่ได้นานที่สุด ดังนั้น

แม้ว่าความเข้มของสีจะจางกว่าสีเทียนที่ซื้อมา แต่เด็ก ๆ กลับใช้อย่างระมัดระวัง

ทะนุถนอมและใช้อย่างเห็นคุณค่า

และในกิจกรรมการทดลองนี้ เรายังได้สอดแทรกทักษะชีวิตอื่น ๆ

ที่เราต้องการให้เขาเรียนรู้ โดยเฉพาะการให้เด็กช่วยเหลือตนเอง


เราออกแบบระบบที่เป็นส่วนประกอบของกิจกรรม เพื่อให้นักเรียนได้ช่วยเหลือตนเอง

เช่น การเตรียมเก้าอี้มานั่งเป็นครึ่งวงกลมรอเตรียมพร้อมที่จะเรียน

โดยมอบหมายให้พี่อนุบาล 3

(เนื่องจากเป็นโรงเรียนขนาดเล็กและบุคลากรไม่เพียงพอ

ทำให้การจัดการเรียนรู้ระดับปฐมวัยเป็นแบบคละชั้น ตั้งแต่อนุบาล 1 - 3)

คอยตรวจความเรียบร้อยและคอยจัดเก้าอีกให้เป็นรูปทรงครึ่งวงกลม

เพื่อให้ทุกคนมองเห็นคุณครูได้อย่างชัดเจน

ในระหว่างเรียนเด็กจะไม่ลุกไปดื่มน้ำหรือเข้าห้องน้ำยกเว้นกรณีปวดหนัก


และหลังจากสั่งงานแล้ว เด็ก ๆ จะเข้าแถวเพื่อปั๊มสัญลักษณ์ หยิบใบกิจกรรม สี ดินสอ

ด้วยตนเองทุกคน คุณครูจะเป็นเพียงผู้เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการเรียนรู้ให้พร้อมเสมอ

และการทำกิจกรรมจะไม่ตะโกนแข่งกับเด็ก แต่จะใช้เพลงเป็นตัวดำเนินกิจกรรม เช่น

การสั่งนั่ง เดิน ถอยหลัง ล้างมือ เข้าแถว เก็บของเล่น ฯลฯ


จากกิจกรรมน้ำตาเทียนประกอบร่าง กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ที่เกิดจากจุดเริ่มต้นมาจากความสงสัยของนักเรียน ทำให้เด็ก ๆ

ได้ออกแบบการทดลอง ได้เรียนรู้และค้นหาคำตอบด้วยตนเอง

ได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิดที่เป็นขั้นตอน

ประยุกต์ประสบการณ์การเรียนรู้เดิมมาปรับใช้กับประสบการณ์ใหม่

ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ชิ้นงาน

จากสิ่งที่เหลือใช้เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลากหลายรูปแบบ ได้ฝึกทักษะชีวิต

ผ่านการที่เด็กที่มีอายุมากกว่า ช่วยดูและและสอนน้องที่อายุน้อยกว่า

เพื่อปฏิบัติกิจกรรมไปด้วยกันอย่างทั่งถึง ไปจนถึงการทำให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ถึง

“คุณค่า” ผ่านสิ่งที่เขามีส่วนร่วมในการสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง

รีวิว
(0)
ดาวน์โหลด
(9)
เก็บไว้อ่าน
(8)