ในคาบวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมของนักเรียนม.ต้นนั้น เรามีเป้าหมายให้เขาสร้างบอร์ดเกมจากความรู้ที่ได้เรียนมาในปีนี้ เพื่อให้เด็ก ๆ ที่ต้องเน้นเรียนอย่างเดียวได้ผ่อนคลายทฤษฎี นำเนื้อหามาประยุกต์และต่อยอด
ช่วงกลาง: การออกแบบทดลอง
1.เราเลือกเอา board game ต่าง ๆ และ uno มาให้เด็ก ๆ เล่น
(กลายเป็นว่าเราต้องมาศึกษาว่าเด็กอายุเท่านี้เขาเล่นอะไรกันบ้าง
อะไรเรียกว่าสนุกสำหรับเขา vangard คืออะไร...)
2.ชวนนักเรียนวิเคราะห์ และถอดกลไกของเกม ว่า
สนุกอย่างไร พอเล่นแล้วแสดงออกอย่างไร
จับให้ได้ว่าเกมอยากให้รู้สึกอย่างไร อยากให้เราทำอะไร !
3.เราชวนตั้งคำถามว่า
“แล้วถ้าอยากเล่นเกมไปด้วย ได้ความรู้ไปด้วย เราออกแบบอย่างไร”
ช่วงกลาง: การออกแบบทดลอง
1.ในการออกแบบเกม เราชวนเด็ก ๆ ต่อยอดเกมที่ชอบ
เช่น ถ้าอยากใช้ UNO
ก็ต้องคิดว่าเราจะเอาเรื่องไหนมาใส่ดีนะ
ไพ่แต่ละใบมีอะไรบ้าง สถิติเป็นอย่างไร
2.เมื่อเด็ก ๆ เริ่มออกแบบและสร้างชิ้นงาน
หน้าที่ของเราเป็นคนที่คอยรับฟัง
“ ครู...อยากทำ… ”
“ ครู...ทำยังไงดี… ”
“ ครู...ถ้าอยากแบบนี้ครูโอไหม ”
เราจะใช้คำถามตอบกลับ ให้เด็ก ๆ ได้คิดเอง
3.เวลาสร้างเกม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการลองเล่น
เราให้เวลาเด็ก ๆ เล่นกันเองในกลุ่ม
และคอยถามให้สะท้อนว่า
“ คิดว่าเกมดียังไง ”
“ ถ้าอยากให้สนุกกว่านี้ต้องปรับอะไรบ้าง ”
พอปรับแล้วก็กลับมาเล่น พอเล่นโอเคแล้ว ให้เพื่อนคนอื่นลองเล่น ให้เพื่อนสะท้อน แล้วเอากลับไปทำใหม่
วน ๆ กันไปค่ะ
*** เราเลือกการสร้างเกมมาให้เด็ก ๆ ทำ เพราะเราเคยสร้างมาก่อนกับที่ก่อการครู และทำให้เข้าใจว่าในกระบวนการออกแบบและสร้างนั้น ทำให้ต้องคุยและสื่อสารในทีมเยอะมาก นอกจากนี้ การทำเกมเป็นทีม เป็นการฝึกการลดตัวตนของเรา
ช่วงโชว์ : ของจริง !
นอกจากเด็ก ๆ จะได้ทำงานที่ไม่เครียดร่วมกันเพื่อสร้างสัมพันธ์แล้ว
ครูก็ไปเจอความพอดีอีกอย่าง ที่เป็นเวทีที่เพอเฟคสำหรับเด็ก ๆ กลุ่มนี้
ที่โรงเรียนนั้นมี open house ซึ่งเด็ก ๆ อาสาทำบูท และจัดการแสดงเกมของตัวเองด้วยความกระตือรือล้น
เราได้ค้นพบว่า เด็ก ๆ ที่มุ่งแต่เรียน แทบจะไม่ค่อยมีโอกาสแสดงศักยภาพอื่น ๆ ของเขาออกมาเลย
แต่เมื่อเขามีพื้นที่และเวที
เขาสามารถแสดงและพัฒนาความเป็นผู้นำ การนำเสนอต่อสาธารณชน และการกล้าแสดงออก
เขาได้แนะนำเกมให้เด็กเล็ก ๆ ที่เดินมาเข้าบูทฟัง ได้สนทนากับคนแปลกหน้า และได้ออกจากกรอบเดิม