icon
giftClose
profile

การสื่อสารอย่างสันติ

154887
ภาพประกอบไอเดีย การสื่อสารอย่างสันติ

เรียนรู้ที่จะสื่อสารอย่างสันติด้วยสถานการณ์จำลอง



เราเคยไปเข้าคลาสสั้น ๆ ในงานของ EDUCA หัวข้อ การสื่อสารอย่างสันติ เข้าแล้วรู้สึกสะเทือนใจมาก (ฮ่าๆ) 

เพราะได้ย้อนมองการสื่อสารของตัวเองที่มีกับนักเรียน มันไม่ค่อยสันติเท่าไหร่ (ฮ่าาาา) แล้วก็ตระหนักได้ว่า


“ จริง ๆ แล้วปัญหาหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น ความไม่เข้าใจกัน จุดเริ่มต้นก็มาจากการสื่อสารนี่แหละ ” 


เลยอยากจะเอา concept ของการสื่อสารอย่างสันติมาจัดกิจกรรม

ในค่ายส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม 



STEP 1 เปิดหัวข้อด้วยการพาเล่นเกม


Round 1

(1) ให้ผู้เรียนรู้จับคู่ (14-17 ปี) ทำท่าแสดงอารมณ์

(2) ให้คู่ทาย ว่ารู้สึกอย่างไร แล้วสลับคู่ไปเรื่อย ๆ


Round 2 

(1) พูดคำที่พูดบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน

(2) ให้เพื่อนทายว่ารู้สึกอย่างไร เช่น "เบื่อจัง", "ไอ๊ยะ", “ว่าซั่น”, “อะไรก็ฉัน”



STEP2 เนื้อหาการสื่อสารอย่างสันติ


(1) เข้าสู่เนื้อหาเรื่องของการสื่อสารแบบคร่าว ๆ เช่น การสื่อสารคืออะไร องค์ประกอบของการสื่อสาร ปัญหาของการสื่อสาร เน้นการยกตัวอย่างเยอะ ๆ

(2) พูดถึงเรื่องของการสื่อสาร

  • การสื่อสารอย่างสันติคืออะไร 
  • ทำไมต้องสื่อสารอย่างสันติ


“การสื่อสารอย่างสันติ” ใจความหลักของมันคือการสื่อสารที่ไม่ใช่การตอบโต้เพื่อเอาชนะ แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เราได้ย้อนมองถึงความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง และที่สำคัญต้องไม่ทำร้ายความรู้สึกของคนอื่น เป็นการสื่อสารที่ต้องพยายามเข้าใจคนอื่น มองให้เห็นถึงเจตนา สาเหตุ มีความเมตตา


วิธีการการสื่อสารอย่างสันติ

1. สังเกตโดยไม่ตีความ คือสังเกตว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น

2. รู้ทันความรู้สึก คือ รู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร 

3. บอกความต้องการ คือ ที่เรารู้สึกแบบนั้น เพราะจริงๆแล้วเราต้องการอะไร

4. การร้องขอ คือ ขอร้องให้คนฟังตอบสนองกับสิ่งที่เราต้องการ



Key สำคัญคือ การเข้าใจความรู้สึก+รับรู้ความต้องการ อย่ารีบตัดสินใครจากพฤติกรรม ให้มองให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเค้ารู้สึกหรือต้องการอะไร 

ถึงมีพฤติกรรมนั้นออกมา


(3) แนะนำวิธีการแปลงสาร จากสารปกติ ให้เป็น สารที่มีความสันติ โดยแจกแจงวิธีการเป็นข้อ ๆ 

  1. บอกการสังเกต
  2. บอกความรู้สึก
  3. บอกความต้องการ
  4. บอกการร้องขอ


ตัวอย่าง...


“พักนี้เราเห็นเธอพูดน้อยลง” (การสังเกต)


“เรารู้สึกกังวลใจ” (ความรู้สึก)


“เราอยากให้เธอไว้ใจ” (บอกความต้องการ)


“ถ้าเธอมีปัญหา เธอช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยได้มั้ย” (การร้องขอ)


(4) ยกตัวอย่างสถานการณ์ที่ผู้เรียนรู้อาจพบเจอได้ เช่น เล่าปัญหาให้เพื่อนฟังแล้วเพื่อนไม่ฟัง จะมีวิธีการสื่อสารอย่างสันติได้อย่างไร

เด็ก ๆ มีความสนใจกับโจทย์มาก เพราะเหมือนเป็นเรื่องใกล้ตัวที่พวกเขาเจอกันจริง ๆ เลยมีความกระตือรือร้นในการแก้ไขสถานการณ์ โดยการใช้การสื่อสารอย่างสันติ


คำตอบของเด็ก ๆ เองก็มีทั้งที่ใช้ได้เลย และแบบที่อาจจะยังไม่ค่อยถูกตามหลักการสักเท่าไหร่ แต่นั่นยิ่งทำให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจว่า การสื่อสารอย่างสันติไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย

ดังนั้นถ้าอยากเป็นคนที่สื่อสารได้ดีต้องฝึกฝนบ่อย ๆ



STEP 3 ลองสื่อสารอย่างสันติ


(1) ให้ผู้เรียนได้ลองสื่อสารอย่างสันติ ผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้น เช่น 

  • ถูกแม่ไล่ให้ไปเปลี่ยนชุดทุกครั้งที่จะออกจากบ้าน
  • เพื่อนมักมาสายทุกครั้งที่นัดทำงานกลุ่ม
  • จู่ ๆ เพื่อนสนิทก็ไม่คุยด้วย 
  • ฯลฯ


(2) ให้ผู้เรียนเขียนข้อความ ที่เป็นการสื่อสารอย่างสันติใส่กระดาษโน๊ต

(3) นำไปแปะไว้ตามป้ายสถานการณ์ต่าง ๆ ที่กำหนด 

(4) ศึกษาร่วมกัน อันไหนดี อันไหนต้องปรับตรงไหน แล้วก็สรุปร่วมกัน


เด็ก ๆ ได้ใช้เวลาอยู่พักนึง กว่าจะเขียนถ้อยคำที่ต้องการสื่อสารอย่างสันติ ผ่านสถานการณ์ที่กำหนดให้ หลาย ๆ คนมีท่าทางที่จริงจังและใช้ความคิดพอสมควร


หลังจากกิจกรรม...

จากการสอบถามและสังเกต กิจกรรมนี้ผู้เรียนค่อนข้างได้ใช้สมาธิ เพราะคิดว่า ต้องคิดทบทวนกับสถานการณ์ต่าง ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเขียนคำพูดนั้นลงไป 

ถือว่าผู้เรียนได้ฝึกการคิดให้รอบคอบ คิดก่อนพูด เอาใจเขามาใส่ใจเรา และนึกถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่จะตามมา เพียงเพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดไปมากขึ้น


หลังจากทำกิจกรรมได้ถามถึงความเข้าใจและความรู้สึกของเด็ก ๆ 

เด็ก ๆ บอกว่า...


“ ได้เข้าใจผู้ปกครองมากขึ้นว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่ผู้ปกครองจะสื่อคืออะไร ถ้ามองข้ามเรื่องอารมณ์ และจะพยายามใช้วิธีการสื่อสารอย่างสันติมากขึ้น ไม่ว่าจะกับผู้ปกครอง ครู หรือเพื่อน” 


เด็ก ๆ ได้รู้วิธีที่จะนำไปใช้



ตัวอย่างคำพูดของเด็ก ๆ


“ เวลาหนูจะออกจากบ้าน คุณแม่บอกให้หนูไปเปลี่ยนชุดบ่อย ๆ หนูรู้สึกขาดความมั่นใจ หนูต้องการการสนับสนุนและเป็นตัวของตัวเอง คุณแม่อนุญาตให้หนูแต่งตัวตามที่หนูต้องการได้มั้ยคะ ”


คาบนี้เป็นคาบที่ประทับใจ เพราะนอกจากจะเป็นการสอนผู้เรียนแล้ว เราเองก็ยังได้ย้อนมองตัวเองจากหัวข้อนี้ ตั้งแต่ตอนเตรียม ตอนสอน และมีความระมัดระวังมากขึ้นในการสื่อสาร ไม่เหมือนมาสอน เหมือนเป็นการมาช่วยกันทบทวนตนเอง และช่วยกันแก้ไขการสื่อสารที่อาจจะผิดพลาดได้


สารที่อยากส่งต่อ

อยากเป็นกำลังใจให้คุณครูทุกท่านที่มีความตั้งใจในการสอน การพัฒนาตนเอง การสอนเด็ก ๆ ในทุกวันนี้อาจจะยากขึ้น กระแสสังคมมีพูดถึงคุณครูมากขึ้น

ก็ขอให้ไม่ย่อท้อต่อการทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีใครเห็นแต่ตัวเราเองที่เห็น ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในทุก ๆ วัน แล้วเราจะไม่มีอะไรต้องเสียใจค่ะ

รีวิว
(0)
ดาวน์โหลด
(29)
เก็บไว้อ่าน
(31)