เรียนรู้ผ่านการเล่นในห้องเรียนปฐมวัย ประเทศไต้หวัน
โดย อาจารย์ ดร.จุฬินฑิพา นพคุณ
อาจารย์ประจำหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ในเดือนมีนาคม 2562 อาจารย์ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่โรงเรียนนิว เชีย เม่ย (New Chia Mei) เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน เป็นโรงเรียนเอกชน ซึ่งเปิดสอนในระดับปฐมวัย และระดับประถมศึกษาค่ะ ในครั้งนี้อาจารย์ได้มีโอกาสดูการจัดกิจกรรมในห้องเรียนของเด็กปฐมวัยอายุ 0-3 ปี จึงอยากจะแบ่งปันประสบการณ์เล็กๆน้อยๆให้กับเพื่อนๆครูอาจารย์ เผื่อจะสามารถนำไปต่อยอดไอเดียในการจัดกิจกรรมให้กับเด็กปฐมวัย และทำให้เห็นถึงความเหมือนและความต่างในการจัดกิจกรรมและมุมประสบการณ์ในห้องเรียนของเด็กอายุ 0-3 ปี ในไต้หวันกับในเมืองไทยบ้านเราค่ะ
โรงเรียนนี้จะมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กปฐมวัย ไม่มีการอ่านเขียน เด็กอายุ 0-3 ปี โรงเรียนจะมุ่งเน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่น (Play-Based Learning) เด็กอายุ 3-6 ปี โรงเรียนจะมุ่งเน้นจัดการเรียนการสอนแบบโครงการ (Project Approach) โดยโรงเรียนได้ระบุความสามารถที่เด็กอายุ 3-6 ปีควรมี คือ การอ่าน การเล่าเรื่องราว และการวาดรูปเพื่อสื่อสาร แต่สำหรับการอ่านเขียนโรงเรียนจะให้เริ่มอ่านเขียนในประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจะให้เรียนภาษาจีนแมนดาริน (จีนกลาง) ซึ่งเป็นภาษาราชการ และภาษาจีนไต้หวัน ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น การสอบเข้าประถมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนจะไม่มีการสอบเข้า ดังนั้นเด็กประถมที่นี่จะเป็นเด็กที่ช่างคิด ช่างถาม
โรงเรียนให้ความสำคัญกับการรับรองคุณสมบัติของครู ครูทุกคนมีใบประกอบวิชาชีพครู และจบตรงทางการศึกษาปฐมวัย ครูดูแลเด็ก 3-4 ปี ต้องมีอนุปริญญาทางการศึกษาปฐมวัยเป็นอย่างต่ำ
ตารางกิจกรรมประจำวัน
ห้องเรียนที่อาจารย์มีโอกาสไปดูงานครั้งนี้ คือห้องเรียนของเด็กอายุ 0-3 ปี ซึ่งโรงเรียนจะมีตารางกิจกรรมแบ่งเป็นช่วงเวลา ดังนี้
8.00 – 9.00 น. กิจกรรมกลางแจ้ง
9.00 - 10.00 น. กิจกรรมเสรี
10.00 – 10.30 น. ทานขนม
12.00- 13.00 น. ทานอาหารกลางวัน
13.00- 14.00 น. นอน
14.00 น. เป็นต้นไปกลับบ้าน
สำหรับกิจกรรมเสริมประสบการณ์ ครูจะนำเอาสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการทำกิจกรรมเสรีมาพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เช่น ครูเห็นเด็กสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ๆ ก็จะนำมาพูดคุย หรือมุมไหนไม่มีค่อยมีเด็กเข้าไปเล่นก็จะเอามาพูดคุยกัน
สภาพแวดล้อมนอกห้องเรียน
สภาพแวดล้อมนอกห้องเรียน ด้านหน้าห้องเรียนมีที่แขวนเสื้อกันหนาว ชั้นวางรองเท้า ชั้นวางหนังสือนิทาน และโต๊ะอ่านหนังสือนิทานเตี้ยๆ สำหรับเด็ก รอบๆ โรงเรียนมีกรงเลี้ยงสัตว์ เช่น กระรอก และมีการเลี้ยงเต่า และปลา
สภาพแวดล้อมในห้องเรียน
สภาพแวดล้อมในห้องเรียนของเด็กอายุ 0-3 ปี เป็นพื้นไม้ มีพื้นที่กว้างให้เด็กทำกิจกรรม มีชั้นวางกระเป๋านักเรียนติดผนัง มีที่วางแปรงสีฟันยาสีฟันติดผนัง ผนังห้องเรียนจะมีผลงานเด็กจัดแสดง มีโต๊ะทำงานของครู มีตู้เก็บสื่อการสอน สำหรับเด็กอายุ 3 ปีจะเรียนรู้ผ่านการเล่นตามมุมประสบการณ์ที่หลากหลายโดยทั้งหมดจะเรียกว่า “กิจกรรม Let’s Play” ในแต่ละมุมมีสื่ออุปกรณ์การเล่นที่เพียงพอต่อเด็ก บางมุมเช่นมุมศิลปะจะมีผลงานของเด็กจัดแสดง โดยแบ่งเป็นมุมต่างๆทั้งหมด 6 มุมประสบการณ์ ได้แก่
1. มุมของเล่น (Toy Area)
ครูจะเตรียมอุปกรณ์การเล่นไพ่ไว้ให้เด็กๆทำกิจกรรมกลุ่มเพื่อสอนเรื่องจำนวน และของเล่นอื่นๆ เช่น ตุ๊กตา เลโก้ ตัวต่อ จิ๊กซอว์ เป็นต้น
หมายเหตุ : กิจกรรมการเล่นไพ่เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ แต่อาจารย์ไม่แน่ใจว่าจะเหมาะกับบริบทและสังคมไทยหรือไม่นะคะ เนื่องจากกฎหมายไทย การเล่นไพ่ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่หากเป็นกิจกรรมทางการศึกษาไม่แน่ใจว่าเมืองไทยทำได้หรือไม่ค่ะ
2. มุมการเย็บ (Sewing Area)
กิจกรรมการเย็บรองเท้ากระดาษ
อุปกรณ์
1. กระดาษ ดินสอ สีเทียน เข็ม กรรไกร ไหมพรม อุปกรณ์ตกแต่ง
2. ผ้ากันเปื้อน
วิธีการทำ
1.ครูให้เด็กรูปวาดรองเท้าแตะบนกระดาษ และใช้กรรไกรตัดตามรอย
2. ร้อยไหมพรมไปในรูเข็มเพื่อเนาตามขอบ
3. ใช้อุปกรณ์ตกแต่งรองเท้าให้สวยงาม
4. เมื่อทำเสร็จครูจะนำผลงานตกแต่งบริเวณด้านหลังมุม
นอกจากนั้นในมุมนี้จะมีผลงานของเด็กจะมีผลงานที่เด็กนำรูปทรงเรขาคณิตนำมาต่อกันและสร้างเป็นรูปร่างต่างๆ ตามจินตนาการ
3. มุมวิทยาการคำนวณ (Computer Science / Science and Technology)
กิจกรรมการพับกระดาษ
อุปกรณ์
1. กระดาษสีหลายสีตัดเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าใส่ในตระกร้า
2. ตัวอย่างขั้นตอนการพับกระดาษรูปปลา และรูปเรือ ที่ติดไว้บนกระดาษแข็ง
วิธีการเล่น
ให้เด็กเลือกระดาษสีที่ตนเองชอบ ดูตัวอย่างสังเกตขั้นตอนการพับกระดาษที่ครูทำเตรียมไว้ให้เพื่อดูแบบแล้วพับตาม เมื่อพับเสร็จแล้วให้ใส่ตระกร้าไว้ ขณะที่เด็กทำครูให้อิสระเด็กในการทำ
4. มุมเกม (Game Area)
เกมเขาวงกต
อุปกรณ์ทำเขาวงกต
1.กระดาษแข็งสีขาวใหญ่ 2 แผ่น
2.กรรไกร
3.สก็อตเทป
วิธีทำเขาวงกต
1. ใช้กระดาษแข็งแผ่นที่ 1 ตัดเป็นเส้นยาวๆ แล้วตัดออกเป็นแฉกๆด้านล่าง เพื่อนำมากางออกบนแผ่นกระดาษแข็งแผ่นที่ 2
2. ใช้กระดาษแข็งแผนที่ 2 นำมารองด้านล่าง จากนั้นนำเอาแฉกๆกางออกให้แนบกับกระดาษแข็งแผ่นใหญ่ที่รองด้านล่าง ขดให้เป็นเขาวงกต แล้วใช้สก็อตเทปติดให้แน่น
วิธีการเล่น
1. ให้เด็กนำลวดหนีบกระดาษ มาหนีบกับกระดาษที่เด็กพับเป็นรูปปลา และรูปเรือข้างต้น
2. นำแม่เหล็กเลื่อนด้านล่าง ทำให้กระดาษที่เด็กพับเป็นรูปปลา และรูปเรือวิ่งได้ตามร่องของเขา
วงกต เด็กๆหาทางออกจากเขาวงกตร่วมกัน
3. ให้เด็กๆสร้างกติการ่วมกันว่าจะเล่นอย่างไร ถึงจะหาทางออกจากเขาวงกตให้ได้ เช่น ใครที่
สามารถพาปลาออกไปจากเขาวงกตได้เร็วกว่ากันคนนั้นเป็นผู้ชนะ
4. ครูคอยช่วยเหลือให้คำแนะนำ และส่งเสริมจินตนาการเด็ก เช่น ในขณะที่เด็กพับและเล่น ให้เด็ก
เอาหมวกชาวประมงที่ประดิษฐ์ขึ้นเองมาใส่ เพื่อสมมติว่าตนเองว่าอยู่ในเหตุการณ์การตกปลาในเรือ
5. มุมบล็อก (Block Area)
กิจกรรมการเล่นบล็อก
อุปกรณ์
1. ไม้บล็อกรูปร่างรูปทรงหลายขนาด แยกประเภทของขนาด รูปร่าง รูปทรง จัดไว้ใน
ตระกร้า มีสก็อตเทปชื่อของรูปทรงนั้นติดไว้
2. หมวกวิศวะกรเหมืองแร่ ที่เด็กๆเคยทำ แล้วมาวางในมุม หมวกวิศวะกรเหมืองแร่ ทำจาก
กระดาษแข็งตัดเป็นเส้นยาวๆให้พอดีศรีษะเด็กเพื่อนำมาคาดศรีษะเด็ก ไฟฉายที่อยู่ตรงกลางที่คาดศรีษะเด็กทำจากกระดาษแข็งตัดเป็นเส้นแล้วคดเป็นวงกลม ใช้แม็กเย็บติด แล้วนำกระดาษแก้วหลายสีมาติดให้ไฟฉาย
วิธีการเล่น
1. ให้เด็กเล่นอิสระ เด็กส่วนใหญ่จะเล่นสร้างเมืองร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่ และสมมุติเหตุการณ์ด้วย
ตนเอง
2. เมื่อเล่นเสร็จให้เก็บเข้าที่โดยแยกใส่ตระกร้าให้ถูกต้องตามเดิม
6.มุมโบล์ลิ่ง (Bowling Area)
กิจกรรมโยนโบล์ลิ่ง
อุปกรณ์
1. ขวดน้ำพลาสติกที่ไม่ใช้แล้วนำมาตกแต่งให้สวยงามทำเป็นพินโบล์ลิ่ง
2. กระดานติดคะแนนทำจากกระดาษแข็ง (ดังตัวอย่างด้านล่าง) ตัวเลขที่ติดคะแนนสามารถทำได้ตามใจชอบแต่ควรให้เด็กแปะ หรือแขวนเองได้
3. ลูกบอล
วิธีการเล่น
1. ครูอธิบายวิธีการวางขวดว่าสามารถวางได้หลายแบบ (ตามกระดานด้านล่าง) เช่น วางเรียงเป็นแถวยาว วางเรียงเป็นวงกลม และให้เด็กนำลูกบอลโยนตามรางให้ขวดโบว์ลิ่งล้มลง และนับจำนวน
2. เมื่อเด็กทำขวดโบล์ลิ่งล้มลง ให้เด็กนับจำนวนและเอาตัวเลขมาติดที่กระดาน
3. ครูคอยสังเกตเด็ก ครูสรุปคะแนนของทั้ง 4 คนอีกครั้งหลังโยนเสร็จ ว่าใครได้มากกว่าหรือน้อยกว่ากัน
(มีภาพร่างให้ดูใน file)
จะเห็นได้ว่ากิจกรรมในมุมประสบการณ์ของเด็กปฐมวัยอายุ 0-3 ปีของโรงเรียนในไต้หวันนั้นนั้นการเรียนรู้ผ่านการเล่นเป็นสำคัญ กิจกรรมส่วนใหญ่ให้เด็กได้ใช้จินตนาการ เช่น การเล่นบล็อกที่มีหมวกวิศวะกรให้ใส่ เด็กๆจะสนุกมาก กิจกรรมสอดแทรกทักษะต่างๆไว้มากมาย รวมทั้งคุณธรรมจริยธรรม เช่น การเก็บของให้เป็นที่ดังตัวอย่างบล็อกที่มีสติ๊กเกอร์ติดให้เด็กแยกประเภท เด็กได้ทั้งคุณธรรมการเก็บของให้เป็นระเบียบและยังได้ทักษะวิทยาศาสตร์ในเรื่องการจำแนกแยกแยะไปในตัวอีกด้วย การทำเกมเขาวงกต ที่ครูสามารถนำเอากระดาษแข็งที่มีอยู่มาดัดแปลงเป็นเกมสนุกๆให้เด็กได้เล่น นอกจากนั้นทางด้านทักษะทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ก็มีให้เห็นอยู่ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นไพ่ การเล่นโบล์ลิ่ง การพับกระดาษตามทิศทางที่ครูเขียนบอกไว้ (เป็นลักษณะเหมือน Coding) รวมทั้งการทำงานเป็นทีม ที่ให้เด็กได้ทำกิจกรรมกลุ่มเกือบทุกกิจกรรม เช่น เกมเขาวงกต
ท้ายนี้อาจารย์หวังว่าสิ่งที่นำมาฝากเล็กๆน้อยๆนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับครูอาจารย์ที่สนใจบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ จริงๆแล้วการมีภาพถ่ายประกอบน่าจะทำให้คุณครูมองเห็นภาพได้ชัดขึ้นค่ะ แต่ภาพอาจมีลิขสิทธิ์ จึงไม่สามารถนำมาฝากได้ค่ะ
หมายเหตุ : สำหรับคุณครูหรือาจารย์ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับการสอนแบบ Project Approach สำหรับเด็กปฐมวัยในไต้หวัน อาจารย์ได้เคยเขียนบทความทางวิชาการเพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ค่ะ หากสนใจสามารถเข้ามาสอบถามได้นะคะ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!