icon
giftClose
profile

บรรยากาศการใช่ไม้หนีบสร้างพันธะ +แผนการสอน

18199

ทำอย่างไรจะให้นักเรียนเข้าใจว่าไดแซ็กคาไรด์เกิดจากมอโนแซ็กคาไรด์2 หน่วย เชื่อมต่อกันด้วยพันธะอีเธอร์ (ether bond) เรียกว่า พันธะไกลโคซิดิก การใช้ไม้หนีบช่วยทำให้นามธรรมยากๆ เป็นรูปธรรมง่ายๆได้ค่ะ


อยากให้ห้องเรียนบรรยากาศสนุกสนานก็ใช้กระบวนการเกมได้ค่ะ










จากนันนำน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวมาต่อกันตั้งแต่ 10 หน่วยขึ้นไป

โดยใช้กระดาษมาต่อกันด้วยลวดเย็บกระดาษ

ลวดจึงเปรียบเสมือน พันธะอีเธอร์ (ether bond) เรียกว่า พันธะไกลโคซิดิก 

เชื่อมโมเลกุลกลายเป็นพอลิแช็กคาไรด์ เรียงตัวเป็นสารต่างๆ



หากต้องการสไลด์หรือแผนการสอนไปปรับใช้ ทิ้งเมล์ไว้ได้เลยนะคะ ยินดีแบ่งปันค่ะ


1) เป้าหมาย สอนเรื่องน่ำตาลโมเลกุลเดี่ยว น้ำตาลโมเลกุลคู่

2) กระบวนการ ใช้ Analogy โดยไม้หนีบผ้า

3) หลักการทางวิทยาศาสตร์คือ    

ไดแซ็กคาไรต์ (Disaccharide) หรือน้ำตาลโมเลกุลคู่เป็นน้ำตาลที่เกิดจากน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวสองโมเลกุลมาเชื่อมต่อกันด้วยพันธะเคมี สามารถละลายน้ำได้ โดยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวได้ 2 โมเลกุล น้ำตาลโมเลกุลคู่ที่สำคัญมีดังนี้

น้ำตาลมอลโทส (moltose) พบได้มากในข้าวมอลต์ เมล็ดข้าวที่กำลังงอก น้ำนมข้าว และข้าวโพด เมื่อถูกย่อยสลายจะได้น้ำตาลกลูโคส 2 โมเลกุล

น้ำตาลแลกโทส (lactose) เป็นน้ำตาลซึ่งมีรสหวานน้อย ย่อยสลายได้ยากกว่าน้ำตาลโมเลกุลคู่อื่น ๆ พบมากในน้ำนม เมื่อย่อยสลายจะได้น้ำตาลกาแลกโทส และน้ำตาลกลูโคส อย่างละ 1 โมเลกุล เป็นน้ำตาลที่พบในน้ำนม จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำตาลจากนม (milk sugar)

  น้ำตาลซูโครส (sucrose) หรือน้ำตาลทราย หรือน้ำตาลอ้อยพบได้มากในอ้อย ตาล มะพร้าว ผลไม้ที่มีรสหวานทุกชนิด เมื่อถูกย่อยสลายจะได้น้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟลุกโทส อย่างละ 1 โมเลกุล


โพลีแซ็กคาไรด์ , หรือ โพลีคาร์โบไฮเดรตมีมากที่สุด

เกิดจาก dehydration ของ monomer 11 โมเลกุล ขึ้นไปเชื่อมด้วยพันธะไกลโคซิดิก

1. แป้ง อะไมโลส (ไม่แตกกิ่ง ไม่มีแขนง) อะไมโลแพคติน (แตกกิ่ง มีแขนง)

2. glycogen (ไกลโคเจน) อาหารสะสมในเซลล์ตับและเซลล์กล้ามเนื้อลาย

(ไกลโคเจน แตกกิ่งจำนวนมาก มีแขนงจำนวนมาก)

ไฟล์ที่เกี่ยวกับไอเดีย

ไฟล์ที่ 1 จากทั้งหมด 1

ชื่อไฟล์​: แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องคาร์โบไฮเดรต.pdf

ดาวน์โหลดแล้ว 53 ครั้ง


รีวิว
(0)
ดาวน์โหลด
(7)
เก็บไว้อ่าน
(5)