1
ขณะกำลังพานักเรียนถอดคำประพันธ์จากวรรณคดี
บรรยากาศในห้องดูไม่ค่อยสดใสเท่าไร เนื่องจากตัวบทยาก ยาว และเยอะ
ไม่นานเกินรอ ก็มีคำถาม...
นักเรียนคนหนึ่ง ตั้งคำถามขึ้นมาว่า
"เราจะเรียนภาษาไทยกันไปทำไมครับ"
"โดยเฉพาะวรรณคดียาก ๆ เก่า ๆ หลักภาษาที่ซับซ้อนมาก ๆ อีก"
"เราไม่ได้เรียนเพื่อแค่ให้อ่านออกเขียนได้ก็พอเหรอครับ"
ในฐานะอาจารย์สอนรายวิชาภาษาไทย ที่ไม่เคยเกิดคำถามแบบนั้นกับตัวเอง
แต่วันนี้เราต้องมาถามและสกัดความเข้าใจและเชื่อมั่นของตัวเองออกมาให้นักเรียนเข้าใจ
...อย่างไรดี
2
ผมไม่ได้ตอบนักเรียนไปในทันที
ผมกลับมาทบทวนกับตัวเอง และลองจัดการออกแบบกิจกรรมให้นักเรียนเข้าใจ และได้คำตอบนั้นด้วยตนเอง
โอเค คงไม่พ้นการ จัดกลุ่ม สร้างประสบการณ์ และหาคำตอบร่วมกัน
มันง่าย ๆ อย่างนั้น... ลองมาดูวิธีกันครับ
3
กิจกรรม "โลกที่ไม่มีเธอ"
1.แบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม (จะด้วยการจับฉลาก สุ่ม หรือความสมัครใจ) แต่ละกลุ่มจะมีชื่อเผ่าของตัวเอง (แล้วแต่ครูจะตั้งก็ได้) คือ 1)เผ่าอ้อแอ้ 2)เผ่าอืมอืม 3)เผ่าตรงหน้า 4)เผ่าอ้าวเฮ้ย และกำหนดให้มีหัวหน้าของแต่ละเผ่า เพื่อพาลูกเผ่าทำภารกิจ
2.กำหนดคุณสมบัติของเผ่า คือ
- เผ่าอ้อแอ้ ไม่สามารถพูดภาษาปกติได้ ใช้ได้แต่คำว่าอ้อแอ้ และภาษาท่าทาง
- เผ่าอืมอืม ฟังหัวหน้าเผ่าได้อย่างเดียว และตบได้แค่อืมอืม ตั้งคำถามกลับไม่ได้ ฟังและทำตามอย่างเดียว
- เผ่าตรงหน้า สามารถพูดคุยกันได้แค่ประโยคพื้นฐาน ไม่มีการเล่าอดีต ไม่มีการพูดถึงปัจจุบัน มีแค่เรื่องตรงหน้าล้วน ๆ
- เผ่าอ้าวเห้ย ทั้งเผ่าสามารถสนทนากันได้ ขัดแย้งกับหัวหน้าเผ่าได้ เล่าเรื่องอดีตได้ พูดถึงอนาคตได้ ร้องเพลง เล่านิทาน ฯลฯ
3.จากนั้นมอบภารกิจให้ทั้ง 4 เผ่า ปฏิบัติ ได้แก่
- หัวหน้าเผ่าเตือนภัยว่าจะมีพายุใหญ่ถล่มหมู่บ้าน
- หัวหน้าเผ่าอธิบายเส้นทางไปยังขุมทรัพย์
- หัวหน้าเผ่าชวนคุยเรื่องการเมืองในปัจจุบัน
- หัวหน้าเผ่าชวนลูกเผ่าระบายความอัดอั้นในใจ
- หัวหน้าเผ่า มอบหมายให้ลูกเผ่าสารภาพรักกัน
- ฯลฯ
4.ความชุลมุน มันเกิดแล้วครับ
- เผ่าที่วุ่นวายสุด คือ เผ่าอ้อแอ้ ภารกิจเฟลหมด เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แต่ดันเป็นกลุ่มที่สนุกสนาน มั่วนิ่มที่สุด 555555
- เผ่าที่ทำตามได้เร็ว แต่ไม่มีความสุขเลย คือ เผ่าอืมอืม เพราะรอป้อนคำสั่งรัว ๆ
- เผ่าที่อึดอัดและจืดชืดที่สุด คือ เผ่าตรงหน้า เพราะไม่สามารถเรียบเรียงอดีตและอนาคตได้
- เผ่าที่หลากหลายที่สุดคือ เผ่าอ้าวเห้ย คือเถียงกันตั้งแต่พายุมา (น่าจะตายเพราะโดนพายุถล่มนี่แหละ) ไปจนถึงเถียงกันตอนสารภาพรัก และบางคนก็ร้องเพลงจีบ
5.สรุปกิจกรรม
- เราให้ตัวแทนกลุ่มออกมาเล่าความรู้สึกของการมีชีวิตในเผ่าตัวเอง และเชื่อมโยงกับความสำคัญของภาษา
- เราถามเขาง่าย ๆ ว่า จากกิจกรรมนี้มีหรือไม่มีภาษาทำให้เราคิดอะไรบ้าง ?
- เผ่าอ้อแอ้บอกว่า การไม่มีภาษามันลำบาก น่าจะตายเร็วสุด
- เผ่าอืมอืม บอกว่า การฟังอย่างเดียวทำให้อึดอัด เราอยากสื่อสารและบอกความต้องการของเราบ้าง
- เผ่าตรงหน้า บอกว่า บางทีเราอยากเล่าเรื่องที่เค้าคิด เรื่องที่รู้สึก เหตุการณ์ที่ไม่แฟร์ เป็นการระบายบ้าง แสดงความเห็นบ้าง
- เผ่าอ้าวเฮ้ย บอกว่า การมีภาษาเป็นเรื่องวิเศษ และภาษาไม่ใช่แค่เรื่องของการสื่อสาร มันมากกว่านั้น...
4
ผมไม่ได้อธิบายนักเรียนเพิ่มเติม
ว่าภาษามันสำคัญอย่างไร และเราเรียนภาษากันไปทำไม
พวกเขารับรู้
จากการที่เราลองดึงสิ่งที่มีอยู่ของเขา ออกมาจากเขา
เขาจะรู้ว่า การไม่มีอยู่ มันสำคัญ...อย่างไร
5
กิจกรรมครั้งนี้ สามารถนำไปประยุกต์กับอะไรได้บ้าง
- การเรียนเรื่องอวัจนภาษา และวัจนภาษา
- การสื่อสาร พัฒนาการของภาษา
- พันธกิจของภาษา
"อาจารย์ครับ ผมรู้แล้วว่าเราเรียนภาษาไทยกันไปทำไม..."
ลองนำไปปรับใช้ และเล่าสู่กันฟังนะครับ
ได้แรงบันดาลใจการปรับไอเดียจาก
ครูน้องขวัญที่แยกโลกเด็กที่มีดนตรีกับไม่มีดนตรีออกจากกัน