เป้าหมาย เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อม+ความเชื่อที่มีผลต่อวัฒนธรรมอาหาร และการผสมผสานทางวัฒนธรรมของคนในและคนนอก
เปิดคำถามพร้อมสไลด์
ใครไม่แดกข้าวบ้างในชีวิต ?
ทำไมในลำลูกกาถึงปลูกข้าวจำนวนมาก?
เปิดภาพพร้อมชวยคุยแลกเปลี่ยนจากสิ่งใกล้ตัว
คำตอบมีหลายเหตุผลก็ว่ากันไป
ถ้าย้อนไปอดีตคนสยามกินข้าวเหมือนกับเราปัจจุบันไหม หรือเขาบริโภคอะไร ?
บ้างก็ว่ามี บ้างก็ว่าไม่น่าจะ จากนั้นเปิดหลักฐานลาลูแบร์ (จากบทความ อ.กฤชใน way) ฉายให้เห็นวัฒนธรรมการบริโภคข้าวปลาอาหารของคนสยามในสมัยอยุธยา
แล้วประเทศในอาเซียน มีการกินข้าวปลาอาหาร เหมือนกันคนไทยเราไหม ?
แลกเปลี่ยนกับนนักเรียน พร้อมขยายประเด็นสู่ "วัฒนธรรมการกินปลาเน่า" โดยการเปิดคำศัพท์การเรียกปลาเน่าในของคนในอาเซียน เพื่อให้เห็นวัฒนธรรมอาหารที่นอกจากข้าว
อาม็อก ห่อหมกกัมพูชา
ฉายภาพขึ้น (ทีแรกยังไม่บอกว่าคืออะไร) นักเรียนส่วนใหญ่เอ่ยทันทีว่ามันคือห่อหมก
ถัดมาชวนตั้งคำถามต่อไปว่า
"แล้วในอาเซียนมันมีข้าวปลาอาหารอะไรที่คล้ายกับไทยอีกไหม "
สำรวจ แจกเมนูอาหารให้นักเรียนแต่ละคู่ แล้วศึกษาเมนูอาหารของตนเองที่ได้รับว่า มาจากที่ไหน ลักษณะเป็นอย่างไร ส่วนประกอบที่สำคัญมีอะไรบ้าง และคล้ายกับอาหารอะไรของไทบ
แชร์ หลังจากแต่ละคู่ศึกษาเสร็จให้มีการแลกเปลี่ยนเมนูอาหารเพิ่มอีก 2-3 เมนู เมื่อเสร็จแล้วให้กลับมาสำรวจว่า
"อาหารทั้ง 3-4 เมนูส่วนประกอบวัตถุดิบอะไรที่คล้ายกัน "
พริก กระเทียม แป้ง มะนาว คือคำตอบหลักที่นักเรียนหลายห้องเอ่ย เพราะอะไรถึงมีสิ่งนี้คล้ายกัน ?
วิเคราะห์ แจกบทความวัฒนธรรมอาหารชาวอาเซียน ให้นักเรียนศึกษา แล้วร่วมกันวิเคราะห์
เพื่อตอบคำถาม
1) สิ่งใดที่ทำให้อาหารเซียนมีความเหมือนหรือต่างกัน ?
2) วัฒนธรรมอาหารของชาวอาเซียน มีจุดร่วมอย่างไร
3) วัฒนธรรมอาหารอาเซียนได้รับอิทธิพลจากนอกภูมิภาคไหม
สุดท้าย สรุปประเด็นคำตอบแต่ข้อของแต่ล่ะกลุ่มคร่าวๆ ชั่วโมงหน้ามาขยายประเด็นจากคำถามกันต่อ แล้วมาสืบหาหากันว่าสงกรานต์ วัฒนธรรมน้ำนี้เป็นของใคร ?
สอน8 ห้องรู้เลยว่า วิชา 0.5 หน่วยกิต + เดินเรียนเอาเข้าจริง ๆ แทบจะได้สอนแค่ 30-40 นาที(จาก50นาที) เลยมีบางห้องที่กระบวนไปไม่ถึง บางห้องไปถึง
นอกจากนี้นักเรียนแต่ละห้องก็ต่างกัน
ทำคนละจุดหรือบางช่วงได้ดีคนละแบบ
คงต้องปรับการสอน
หลังจากนับเวลา มี6 ห้อง
ที่คงได้สอนอีกแค่4-5 คาบ
ก่อนสอบกลางภาค