“เจนมองว่า นักเรียนชั้น ม.1 ควรมองเห็นตัวเองให้ได้มากที่สุด
เพื่อวางเป้าหมายในการพัฒนาตัวเองต่อ ในระดับชั้นที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ”
.
ในขณะที่เรามีการประเมินนักเรียน มีตัวชี้วัดมากมายที่รวบรวมส่งให้ผู้ใหญ่
แต่ข้อมูลเหล่านั้นกลับไม่ถูกแจกแจงให้เด็กซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลได้รับรู้
.
เจนสอนวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม มีอิสระในการออกแบบการเรียนรู้ประมาณหนึ่ง
เจนจึงเริ่มคาบแรกจากการ ‘ให้เด็กเลือกเองว่าอยากเรียนเรื่องอะไร’
โดยตรวจสอบสิ่งที่ทางโรงเรียนอยากให้เด็กรู้ บวกกับสิ่งที่เด็กอยากรู้
จากนั้นแยกเป็นตัวชี้วัดออกมา แล้วออกแบบการเรียนรู้โดยแบ่งเป็น
1.กิจกรรมเดี่ยว 2.กิจกรรมที่ครูจับกลุ่มให้ และ 3.กิจกรรมที่เด็กจับกลุ่มกันเอง
สำหรับกิจกรรมกลุ่ม จะมีการวางบทบาทหน้าที่แต่คนอย่างชัดเจน
ซึ่งเป็นหน้าที่ที่เหมาะสมกับเขาและเขายินยอม
เมื่อผลงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะมีการให้เด็ก ๆ ให้คะแนนแต่ละหน้าที่
จากนั้นจึงให้เขาได้สะท้อนตัวเอง
โดยยึดหลักการ reflect 3 ลำดับ นั่นคือ..
‘รับรู้ผล -> พิจารณาอดีต -> ตั้งเป้าหมายสิ่งที่จะทำเพื่อพัฒนา’
กระทั่งทำให้เด็กพบว่า เขามีสไตล์การเรียนรู้หรือการทำงานแบบไหน
มีอะไรเป็นอุปสรรคหรือสิ่งที่ช่วยสนับสนุนเขาได้บ้าง
และเขารับมือกับสิ่งที่เขาไม่ถนัดอย่างไรเพื่อรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง ฯลฯ
.
มากกว่าการที่เราแค่ตัดสินผลลัพธ์เป็นตัวเลขเกรดหรือคะแนนรวม
(Summative Assessment)
นักเรียนแต่ละคนจะมีแฟ้มรวบรวมผลงาน
และข้อมูลการวิเคราะห์ความสามารถทางวิชาการ,
ทักษะที่จำเป็น และคุณลักษณะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ อย่างละเอียด
ทำให้เด็กได้รู้ว่าตัวเองถนัด / ไม่ถนัดอะไร
ควรพัฒนาตรงไหนอย่างไร เป็นพฤติกรรมตลอดเทอม
ให้เขาได้เห็นพัฒนาการการเติบโตของเขาเอง
(Formative Assessment)
ส่วนครูและผู้ปกครองก็สามารถแลกเปลี่ยน ส่งต่อข้อมูล
และช่วยกันพัฒนาเด็กแต่ละคนต่อไป
.
พฤติกรรมที่เราเห็นชัดเจนเลย คือ
1. เด็กสามารถระบุได้ว่าไสตล์การเรียนรู้ของตัวเองเป็นแบบไหน กระทั่งสามารถบอกเหตุผลที่มาที่ไปชัดเจนว่าชอบหรือไม่ชอบเพราะอะไร มากไปกว่านั้นบางคนยังไปถึงจุดที่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่ขัดกับความต้องการของตนเอง
2. เด็กมีความพยายามมากขึ้นในการพัฒนาตัวเองให้ต่อเนื่อง รู้ตัวว่าทุกคนอยู่ในสายตา ทำแล้วครูมองเห็นในทุกคาบ อยากทำให้ได้ตามที่ตัวเองและครูคาดหวัง ตั้งเป้าหมายร่วมกันเอาไว้
.
เพียงแค่นำตัวชี้วัดที่ครูใช้ประเมินนักเรียนอยู่เดิม
แต่อาจไม่เคยนำมาอธิบายให้นักเรียนได้ทำความเข้าใจนั้น
มาสรุปด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ให้นักเรียนได้เห็นพฤติกรรมตัวเองชัดขึ้น
ได้เห็นว่าทุกชิ้นงานทุกการกระทำของเขานั้นมีค่า
นำมาสู่การเห็นคุณค่าในตัวเองผ่านการเห็นพัฒนาการด้านต่าง ๆ
และอยากเรียนรู้อยากพัฒนาตนเองจากการเห็นจุดที่ตัวเองยังขาดไปด้วยตัวเอง
.
ครูเจน
เจนจิรา มะอินทร์
อดีต ครู โรงเรียนไทยนิยมสงเคราะห์ กรุงเทพฯ
ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ช่วยปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
.
สัมภาษณ์และเรียบเรียง โดย ครูไวท์