***ไอเดียนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหลายโพสต์ หลายไอเดียเกี่ยวกับชั้นเรียนที่มีปัญหาเรื่องบูลลี่

แต่ทว่าเราจำที่มาไม่ได้แล้ว ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง หื้ออออออ****

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

"ไอ้อ้วน" "โล้น" "....สกปรก"

คำพูดพวกนี้ดูเผิน ๆ เหมือนคำพูดเล่น ๆ ปรกติทั่วไปของเด็ก ๆ ที่หยอกล้อกัน สนุก ๆ

แต่เราว่า มันไม่ใช่ โดยเฉพาะในห้องที่เราเป็นครูที่ปรึกษา

จากที่สังเกตเห็นว่าแค่พูดกันเล่น ๆ ในห้อง เริ่มค่อย ๆ ยกระดับลามจนไปถึงตั้งชื่อในเกม kahoot

หากปล่อยไว้ ก็คงไม่ดีแน่ เลยลองหยิบจับอะไรบางอย่าง มาให้ทุก ๆ คน ได้ลองขบคิด

กิจกรรมนี้ตั้งชื่อว่า "เมื่อคนพูดไม่จำ แต่ทำฉันไม่ลืม" โดยมีขั้นตอนดังนี้

1. ชวนพูดคุยถึงเรื่องปัญหา Bully และ Shaming ว่าเข้าใจกันมากน้อยแค่ไหน อย่างไรที่เรียกว่า Bully และ Shaming

2. ให้นักเรียนลองนึกย้อนทบทวนประสบการณ์ของตัวเองที่เคยถูก Bully หรือ Shaming

3. แจกกระดาษ Post-it คนละ 1 แผ่น จากนั้นให้เขียน คำพูด 1 คำที่รู้สึกว่า คนพูดนั้นไม่จำ แต่ทำให้เรารู้สึกจำฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้

4. ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนที่รู้สึกว่าเราอยากเล่า อยากแบ่งปันความรู้สึกให้เขาเต็มที่ เพื่อแบ่งปันและสลับกันพูดถึงคำ ๆ นั้น โดยมีประเด็นคำถามนำ 3 ข้อคือ

1) คำนั้น คือคำว่าอะไร ?

2) ทำไมเราถึงยังจำคำนั้นได้ไม่ลืม ?

3) คำนั้นยังมีผลต่อชีวิตของเราอยู่หรือไม่ ?

5. แจก QR CODE ข่าวกรณีตัวอย่างให้นักเรียนซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 กรณีคือ

• นักเรียน ป.3 เครียดจะฆ่าตัวตายเพราะโดนเพื่อนล้อ
• นักเรียน ม.1 ถูกเพื่อนล้อว่าเป็นเกย์ ตุ๊ด
• นักเรียน ม.6 ถูกเพื่อนล้อว่าอ้วน

6. หลังจากอ่านข่าวกรณีตัวอย่างให้นักเรียนจับกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันว่ารู้สึกอย่างไรกับข่าวและปัญหาดังกล่าว

7. พูดคุยกันนักเรียนเกี่ยวกับความรู้สึกต่อเหตุการณ์และประเด็นที่เกิดขึ้น จากนั้นให้นักเรียนลองเขียนจดหมายน้อย โดยสมมติว่า

ถ้าฉันบอกกับเขาได้... ฉันอยากจะบอกอะไรกับ “ผู้ถูกกระทำ” หรือ “ผู้กระทำ” ?

สิ่งที่เกิดขึ้นในชั้นเรียน

• "ความเข้าใจ" คือสิ่งที่เกิดขึ้นในชั้นเรียน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เข้าใจความรู้สึกเพื่อนมากขึ้น จากที่เห็นเพื่อนมุมมองเดียว กลายเป็นเห็นเขาในมุมอื่น ๆ ใครจะไปคิดเด็กผู้ชายที่เข้มแข็งคนนึง สามารถนั่งร้องไห้กับเพื่อนอย่างที่ไม่ได้แคร์อะไร เพราะว่าทุก ๆ คนล้วนแล้วแต่มีมุมมอง ความรู้สึกที่ซับซ้อน แม้แต่เราเองในฐานะครู ก็รู้จักและเข้าใจนักเรียนมากขึ้น ภายนอกที่ดูเขาเข้มแข็ง แต่ภายในเขาช่างซับซ้อน ซึ่งก็ต้องช่วยดูแลกันต่อไป

• ทุกคนล้วนเคยเป็นผู้ถูกกระทำ หรือเหยื่อของการ Bully และ Shaming ทุกคนล้วนแต่มีประสบการณ์ตรง รับรู้โดยที่ไม่ต้องมีคำพูดออกมาว่ามันไม่ใช่เรื่องดีเลย บางคนที่คิดว่าเป็นการล้อเล่นสนุก ๆ เขาคิดว่ามันไม่สนุกอีกต่อไป แต่มันคือการสร้างแผลในใจเพื่อนโดยไม่รู้ตัว

• คำบางคำยังคงเป็นคำที่นักเรียนจำไม่ลืม จนถึงทุกวันนี้ บางคนถึงกับนิ่งเงียบไปชั่วระยะใหญ่จนกว่าจะพูด บางคำเราเองได้ยินแล้วก็รู้สึกอึ้ง และดำดิ่งไปไม่น้อย แต่ภายใต้เรื่องราวเหล่านั้นเรารู้สึกได้ถึงความเข้มแข็ง ที่เขาสามารถผ่านจุด ๆ นั้นมาได้

• เมื่อเพื่อนได้ลองเปิดใจกับเพื่อน เพื่อนก็คือแรงใจอย่างหนึ่งที่ช่วยเยียวยากัน ตลอดกิจกรรม เราเห็นการนั่งปลอบกัน พูดคุยกัน กอดกัน ร้องไห้ไปด้วยกัน รวมถึงเห็นการ Unlock อะไรบางอย่างภายในใจของแต่ละคน ซึ่งเราเองก็ยังไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่าสิ่งนั้นเรียกว่าอะไร

• ปัญหา Bully และ Shaming ที่เคยมีแนวโน้มว่าจะมากขึ้น กลับค่อย ๆ ลดลง และเชื่อว่าวันหนึ่งมันจะหายไปจากพวกเขา