“ทุกสิ่งที่มีในตัวฉัน ในตัวเธอมีเหมือนกันหรือเปล่า?”
“ระหว่างความรู้สึกกับความเชื่ออะไรเกิดขึ้นก่อนกัน?”
“สิ่งใดที่ทำให้ชีวิตเรามีความสุข ความรัก? คำชื่นชม?”
ตัวอย่างคาบที่ 1
ชื่อกิจกรรม “ รู้เขา รู้เรา ยอมรับ แก้ไข”
คาบเรียนนี้จะพานักเรียนไปทำความรู้จักกับตนเอง เพื่อเข้าใจยอมรับและเห็นคุณค่าในตัวเอง จนนำไปสู่การแก้ไขและพัฒนา ไม่ใช่แค่เพียงแต่ตนเองเท่านั้น แต่รวมไปถึงการมีทักษะมนุษย์สัมพันธ์ที่ต้องเข้าใจและยอมรับผู้อื่นถึงความแตกต่าง โดยใช้กิจกรรมเป็นตัวกลางในการเรียนรู้
PART 1
ครูชวนนักเรียนเล่มเกมด้วยการ “ค้นหาคุณสมบัติของเพื่อน ที่เหมือนหรือแตกต่างกับตัวเรา”โดยนำชื่อและคำตอบของเพื่อนมาใส่ในตาราง 9 ช่อง อย่างละ 5 คำตอบ ซึ่งมีคำถามดังนี้
เมื่อถึงคำถามในช่องที่ 9 ให้นั่งกับเพื่อนที่จับคู่ จากนั้นเขียนคำตอบของตนเองลงในสมุด ว่า
1. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมแล้วรู้สึกอย่างไร? เช่น สนุก เหนื่อย ตื่นเต้น
2. ทักษะที่ใช้ในเกม? เช่น ทักษะการสื่อสาร ทักษะการสังเกต ทักษะการจด
3. ถ้าเปรียบเทียบเกมนี้คือโลกมนุษย์และชีวิตของมนุษย์ เกมนี้กำลังสอนอะไรบ้าง และเมื่อเขียนเรียบร้อยแล้ว ให้แลกเปลี่ยนคำตอบทั้ง 3 ข้อกับเพื่อนที่จับคู่? เช่น การลองเรียนรู้ผู้อื่นในมุมใหม่ๆ การไม่ด่วนตัดสินใจ การเปิดใจ
PART 3
ให้ทำการจับกลุ่มกับเพื่อนคู่ข้างๆ แล้วแลกเปลี่ยนคำตอบข้อที่ 3 จากนั้นเลือกคำตอบที่อยากนำมานำเสนอหน้าชั้นเรียนให้เพื่อนๆในห้องเรียนได้ฟัง
ตัวอย่างคาบที่ 2
ชื่อกิจกรรม : ร้านของวิเศษวัดใจ
PART 1
เริ่มต้นด้วยการให้ครูทำการสวมบทบาทเป็นเจ้าของร้านขายของวิเศษ ที่นักเรียนต้องเอาหัวใจจำนวน 50 ดวง มาเลือกซื้อของ สินค้าที่มีขายในร้านของวิเศษไม่ว่าจะเป็น ชีวิตที่เป็นอมตะ บ้าน รถ เกรด4 ความสุข เพื่อนแท้ ประกันสุขภาพให้ครอบครัว เป็นต้น
PART 2
หลังจากร้านปิดให้นักเรียนนับจำนวนหัวใจที่เหลืออยู่ เพื่อหาคนที่มีจำนวนหัวใจเหลือมากที่สุดและเหลือน้อยที่สุด และถามการตัดสินใจในการเลือกซื้อของวิเศษของนักเรียน ว่าเพราะอะไรเราถึงแตกต่างจากเพื่อน
PART 3
ให้นักเรียนทำการจำแนกประเภทของวิเศษที่นักเรียนซื้อมา เช่น ซื้อให้ตนเอง ซื้อให้ผู้อื่น ซื้อปัจจัย 4 ซื้อความสุข ซึ่งครูจะให้อิสรภาพนักเรียนในการตอบ
จากนั้นทำการอธิบายเหตุผลของการเลือกซื้อของวิเศษแต่ละชนิด พร้อมอธิบายเหตุผลว่าของวิเศษที่เลือกมานั้นแสดงถึงลักษณะนิสัยและบุคลิกภาพของตนเองอย่างไร โดยที่ครูต้องเคารพการตัดสินใจของนักเรียน และพยายามหามุมที่ดีในเหตุผลนั้น เช่น นักเรียนตอบว่าซื้อของที่ให้ความสุขตนเอง ครูให้การตอบกลับว่า นักเรียนเป็นคนที่รู้จักความสุขของตนเอง
ซึ่งในกิจกรรมนี้ครูจะต้องมีความเป็นกลาง มีความยุติธรรม และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของเด็กนักเรียน เพื่อให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย ทำให้นักเรียนมีความกล้าที่จะพูดในสิ่งที่ตนเองเชื่อ
จากนั้นทำการถามนักเรียนว่าในการเลือกของวิเศษนั้น เลือกยากหรือไม่ เลือกยากเพราะอะไร หรือ เลือกไม่ยากเพราะอะไร แล้วนักเรียนรู้สึกอย่างไรต่อคำถาม สุดท้ายในขณะที่เราฟังเพื่อนที่มีการเลือกต่างจากเรา เราใช้คุณสมบัติใดบ้างในการฟังเพื่อน
PART 4
หลังจากนั้นครูบอกกับนักเรียนว่าของวิเศษแต่ละชนิดที่ซื้อมานั้น ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตัวนักเรียนได้อีกแล้ว…
และนักเรียนยังต้องเผชิญกับคำถาม 2 ข้อสุดท้ายที่เป็นคำถามวัดใจ! ให้เลือกระหว่าง ข้อที่1 และข้อที่ 2 พร้อมเหตุผลประกอบ
1. ช่วยชีวิตพ่อแม่ แต่นักเรียนเรียนและลูกหลานต้องเสียชีวิตทันที
2. ช่วยชีวิตนักเรียนและลูกหลาน แต่พ่อแม่ต้องเสียชีวิตทันที
ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และช่วยกันอภิปรายหัวข้อที่ว่า
“ระหว่างความรู้สึกกับความเชื่ออะไรเกิดขึ้นก่อน”
PART 5
สรุปประเด็นในการอภิปรายรวมถึงการชี้ให้เห็นว่าความเชื่อนั้นเกิดขึ้นก่อนและได้รับมากจากสื่อ ค่านิยม สิ่งรอบตัวที่หลากหลาย หล่อหลอมให้คนเรามีความคิด และการแสดงออกที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทุกคนต้องเคารพความแตกต่างทางความคิดของกันและกัน
ตัวอย่างคาบที่ 3
หลังจากทำกิจกรรมใน 2 คาบที่แล้ว คาบนี้ครูจะมาชวนสรุปกิจกรรม และมาเรียนรู้หลักคิดเรื่องซาเทียร์
โดยใช้สื่อหนังสั้นมาเป็นเรื่องราวให้เด็กๆ ได้วิเคราะห์ และในคาบเรียนนี้ได้เลือกเป็นหนังสั้นเรื่อง ‘น้องอ้อย’ มาชวนเด็กๆพูดคุย อภิปรายร่วมกันผ่านหลักคิดซาเทียร์ ภูเขาน้ำแข็ง ในแต่ละประเด็นที่เกิดขึ้นในหนังสั้น
เพื่อให้นักเรียนได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น แล้วชวนมาไตร่ตรองทบทวนตนเอง
ตัวอย่างคาบที่4
ในคาบเรียนนี้ชวนนักเรียนมารู้จักกับ อาหารใจ หรือ ความต้องการทางด้านจิตใจ แล้วมาทดลองทำกิจกรรม
เริ่มต้นด้วยการให้นักเรียนทบทวนความสุขผ่านอาหารใจ ว่าความรู้สึกเต็ม 100 นักเรียนมีความรู้สึกกับอาหารใจในแต่ละข้อเท่าใด และได้อาหารใจนั้นจากใครบ้างในชีวิตเราหรือจากตัวเราเอง โดยให้นักเรียนประเมินตนเองจาก 3 เดือนที่ผ่านมา จากนั้น ให้หยิบอาหารใจที่นักเรียนมองว่าสิ่งนั้นจะช่วยให้นักเรียนมีความสุขมากขึ้น และอาหารใจด้านใดที่ขาดหายไปจากใจของเรา พร้อมเหตุผลประกอบการเลือกตัดสินใจ
จากนั้นให้นักเรียนทุกคนแลกเปลี่ยนความคิด และให้นักเรียนรับฟังเหตุและผลของเพื่อนๆโดยไม่ตัดสินและตีตรา พยายามทำความเข้าใจผ่านโมเดลภูเขาน้ำแข็งของซาเทียร์ ให้เกิดการยอมรับ ตระหนักในคุณค่าในตนเองและของเพื่อน