กระบวนการผลิตนวัตกรรม
ขั้นตอนที่ 1 สำรวจปัญหา โรงเรียนวัดสิงห์ เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใกล้กับถนนสายหลัก (บางระจัน - ค่ายบางระจัน) อยู่ใกล้กับโรงงานน้ำตาลมิตรผลสิงห์บุรี ทำให้มีรถสัญจรผ่านเป็นจำนวนมาก โดยนักเรียนส่วนใหญ่เดินทางมาโรงเรียน โดยผู้ปกครองใช้รถจักยานยนต์มาส่ง และขี่รถจักรยานมาโรงเรียนเอง เมื่อพิจารณาข้อมูลในระดับปฐมวัย พบว่า ผู้ปกครอง จำนวน 26 คน และนักเรียนระดับปฐมวัยทั้ง 26 คนไม่สวมหมวกกันน็อกมาโรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 100 และจากการจากการที่นักเรียนในระดับปฐมวัยได้เรียนหน่วยการเรียนรู้เรื่อง ปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งคุณครูได้สอดแทรกเนื้อหาความรู้ในการขับขี่ปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ขั้นตอนที่ 2 ปรึกษาขอคำแนะนำ โรงเรียนดำเนินการประสานขอความอนุเคราะห์เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีความรู้ความเชียวชาญโดยตรงมาอบรมให้ความรู้แก่ ผู้ปกครอง ครู และนักเรียน เป็นกระบวนการปรึกษาขอคำแนะนำ สร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการดำเนินการจัดกิจกรรม
ขั้นตอนที่ 3 ระดมสมองคิด คณะครูร่วมกันระดมสมองคิดจัดกิจกรรม เพื่อให้ความรู้ สร้างความตระหนักและประสบการณ์ในการใช้ถนนอย่างถูกต้อง ปลอดภัย รักษาวินัยจราจร และส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติการใช้ถนนที่ถูกต้อง ปลอดภัยตามกฎจราจรจากสถานการณ์จำลอง โดยเน้นกิจกรรมบูรณาการในการจัดการเรียนการสอนเป็นสำคัญ มุ่งให้นักเรียนสร้างประสบการณ์ด้วยตนเอง ผ่านสถานการณ์จำลองและการลงมือปฏิบัติ โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ และการเรียนรู้แบบ Active Learning” รายละเอียดดังนี้ 1. วัฏจักรการสืบเสาะ 2. Active Learning
ขั้นตอนที่ ๔ การจัดกิจกรรม ครูผู้สอนให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้รถ ใช้ถนน อย่างไรให้ปลอดภัยและการมีความรับผิดชอบบนท้องถนน โดยครูนำสื่อ และเกมมาเป็นนวัตกรรมช่วยสร้างความรู้ที่ดีให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็น จนเกิดเป็นคำถาม และข้อสงสัยครูอภิปรายกับเด็กถึงสิ่งที่เด็กรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับคําถามหรือหัวข้อนั้น และความคิดหรือข้อสันนิษฐานที่เด็กมี รวมถึงให้เด็กคิดวิธีการในการหาคําตอบของคําถามนั้น ๆ เป็นต้นนอกจากความรู้ที่เด็กได้เรียนรู้จากครูผู้สอนนั้นแล้ว การเชิญวิทยากร หรือผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้กับเด็ก ๆ นั้นทำให้เด็กเกิดความตื่นเต้น และกระตือรือร้นทำให้อยากที่จะเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเด็กยังได้รับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและป้ายจราจรอย่างละเอียดเหมาะสมตามวัย และเกิดความสนุกสนานระหว่างทำกิจกรรม
คำถามที่ 1 ข้ามถนนอย่างไรให้ปลอดภัย
ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ จากการที่เด็ก ๆ ได้เรียนหน่วยการเรียนรู้เรื่องปลอดภัยไว้ก่อน โดยครูนำเสนอเหตุการณ์อุบัติเหตุในโรงเรียน ที่เป็นเหตุการณ์ใกล้ตัวเด็กๆ ทำให้เด็กๆ เกิดความอยากรู้อยากเห็น เกิดความสงสัยว่าข้ามถนนอย่างไรให้ปลอดภัย ครูจึงตั้งคำถามให้เด็ก ๆ สืบเสาะหาคำตอบ
ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน ครูถามคำถามที่เด็กๆ อยากรู้ข้างต้น เพื่อกระตุ้นให้เด็กๆ คิดหาวิธีการข้ามถนนให้ปลอดภัย จากความรู้และประสบการณ์เดิมของนักเรียน โดยเด็ก ๆ มีวิธีการข้ามถนนให้ปลอดภัยโดยข้ามบนสะพานลอย ข้ามบริเวณทางม้าลาย ข้ามโดยมองรถและให้รถไปก่อน เป็นต้น
ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ จากการที่เด็ก ๆ ต้องการหาคำตอบว่าทำอย่างไรจึงจะข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย ครูจึงตั้งคำถามว่า เราจะหาคำตอบได้ที่ไหน ใครสามารถบอกได้บ้าง จากนั้นครูและเด็ก ๆ
จึงออกแบบวิธีการสืบเสาะหาคำตอบ โดยเชิญตำรวจที่มาสอนหนังสือที่โรงเรียนเป็นประจำทุกวันศุกร์ มาให้ความรู้
ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย เด็ก ๆ ฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และครูอธิบายด้วยความตั้งใจ ครูคอยสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล เด็ก ๆ บันทึกข้อมูล โดยการวาดภาพระบายสีไฟจราจรและเครื่องหมายจราจรต่างๆ
ขั้นที่ 6 อภิปรายผล ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันสรุปข้อค้นพบ เด็กๆได้นำเสนอผลงาน
คำถามข้อที่ 2 จุดเสี่ยงอุบัติเหตุในโรงเรียน มีตรงไหนบ้าง และจะปฏิบัติตนอย่างไรให้ปลอดภัย
ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมื่อเด็กๆรู้ถึงวิธีการใช้ถนนอย่างถูกต้องปลอดภัย
และความหมายของป้ายจราจรต่างๆ จึงเกิดความอยากรู้อยากเห็น และสงสัยว่าในบริเวณโรงเรียนเรา มีจุดเสี่ยงอันตรายและป้ายจราจรอะไรบ้าง ครูจึงตั้งคำถามให้เด็กๆ สืบเสาะหาคำตอบ
ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน ครูถามคำถามที่เด็ก ๆ อยากรู้ข้างต้น โดยนำแผนผังของโรงเรียนมาแสดง เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนคิดหาจุดเสี่ยงอันตรายในโรงเรียน เด็ก ๆ สามารถใช้ความรู้เดิมบอกจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยการสังเกตจากป้ายเครื่องหมายจราจรในโรงเรียนได้บ้าง
ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันออกแบบวิธีการสืบเสาะ โดยครูและเด็ก ๆ เดินสำรวจจุดเสี่ยงอุบัติเหตุในโรงเรียน ครูจัดทำแบบบันทึกการสำรวจให้เด็ก ๆ บันทึกระหว่างการเดินสำรวจ พร้อมจัดเตรียมสถานที่จำลองที่เป็นจุดเสี่ยงอุบัติเหตุในโรงเรียนให้เด็กๆทดลองฝึกปฏิบัติในการใช้ถนนให้ถูกต้อง ปลอดภัย (การเรียนรู้แบบ Active Learning)
ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ครูคอยบรรยายให้ความรู้แก่เด็กๆ และสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
โดยจัดทำเป็นแบบสังเกตพฤติกรรม
ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล เด็กๆ บันทึกข้อมูลเป็นรูปภาพ จากการสำรวจป้ายจราจรในโรงเรียนและจุดเสี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ ในโรงเรียน
ขั้นที่ 6 อภิปรายผล ครูและเด็ก ๆ ร่วมกันสรุปจุดผลการสำรวจเสี่ยงอุบัติเหตุในโรงเรียน และวิธีการปฏิบัติตนให้ถูกต้องและปลอดภัยในบริเวณจุดเสี่ยงต่าง ๆ ตลอดจนเด็ก ๆ ได้นำเสนอผลงานของตนเอง
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลการดำเนินงาน
หลังการดำเนินกิจกรรม “ลูกวัดสิงห์วัยใส ใช้ถนนอย่างปลอดภัย มีวินัยจราจร” โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ และการเรียนรู้แบบ Active Learning ครูได้ดำเนินการประเมินผล โดยการสังเกตพฤติกรรมนักเรียน และประเมินชิ้นงาน
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ประโยชน์ที่เกิดกับนักเรียน
1) นักเรียนมีจิตสำนึกและพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัยและมีความรับผิดชอบบนท้องถนนและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุของนักเรียน
2) นักเรียนมีพื้นฐานด้านการใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย มีประสบการณ์ในการใช้ถนนเพิ่มมากขึ้น
3) นักเรียนมีพฤติกรรมสอดคล้องกับคุณธรรมอัตลักษณ์ของโรงเรียน ด้านความรับผิดชอบ
2.ประโยชน์ที่เกิดกับครู
ครูมีนวัตกรรมด้านการเรียนการสอนเสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ความรับผิดชอบในการใช้ถนนอย่างปลอดภัย มีวินัยจราจร
3. ประโยชน์ที่เกิดกับโรงเรียน
1) โรงเรียนมีนวัตกรรมสร้างสรรค์คนดี เสริมสร้างคุณธรรมอัตลักษณ์ความรับผิดชอบโดยบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน
2) ผู้ปกครอง ชุมชน มีความพึงพอใจและมีความเชื่อมันในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียน ให้ความร่วมมือ มีเจตคติที่ดีต่อโรงเรียน
บทเรียนที่ได้รับ (Lesson Learn)
จากการดำเนินกิจกรรม “ลูกวัดสิงห์วัยใส ใช้ถนนอย่างปลอดภัย มีวินัยจราจร” โดยใช้วัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ และการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อสร้างความตระหนักและเสริมสร้างประสบการณ์เรียนรู้การใช้ถนนที่ถูกต้องและปลอดภัย โดยอาศัยกระบวนการวางแผนให้ทุกคนมีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมพัฒนา ตามรูปแบบนวัตกรรมด้านการเรียนการสอน โดยจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีความรับผิดชอบบนท้องถนน จนเกิดความตะหนักถึงการใช้รถใช้ถนน และการมีความรับผิดชอบบนท้องถนน ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาอุปสรรคเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ในส่วนของนักเรียนยังได้จัดกิจกรรมสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม และความรับผิดชอบในการเรียนการสอนทั้ง 6 กิจกรรมหลัก โดยความรู้ที่นักเรียนได้รับเกิดจากการลงมือปฏิบัติ ซึ่งส่งผลให้เกิดพฤติกรรมความรับผิดชอบที่คงทนและส่งผลต่อความยั่งยืน
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!