work balance กับครอบครัวเด็กพิเศษ

การทำงานร่วมกับครอบครัวเด็กพิเศษ เป็นการทำงานที่ต้องใช้ใจทำงานร่วมกัน จุดสำคัญที่ควรทำ คือ การตั้งเป้าหมายในการพัฒนาศักยภาพนักเรียนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สร้างข้อตกลงร่วมกัน และร่วมกันติดตามพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

ครอบครัวเด็กพิเศษ เป็นครอบครัวที่แตกต่างจากครอบครัวของเด็กปกติ จากประสบการณ์ของผู้ปกครองที่ต้องผ่านการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปัญหาด้านสุขภาพของนักเรียน ปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ปัญหาด้านการเรียนรู้ ฯลฯ และการยอมรับสภาพความพิการของนักเรียนที่เกิดขึ้น สภาพจิตใจของครอบครัวเด็กพิเศษบางครอบครัวมีความเข้มแข็งในระดับนึงจากการยอมรับสภาพความพิการของบุตรหลานของตนเองได้ และพยายามส่งเสริมพัฒนาการให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่ในบางครอบครัวที่ไม่สามารถยอมรับสภาพความพิการของนักเรียน และมีความเชื่อว่าลูกของตนเองมีความปกติเหมือนเด็กทั่วไป

การทำงานร่วมกับครอบครัวเด็กพิเศษถือว่าค่อนข้างยาก ต้องใช้ soft skill และหลักจิตวิทยาในการสื่อสาร และเข้าถึงครอบครัว เพื่อให้ผู้ปกครองเปิดใจ เปิดรับ ในการส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ให้กับนักเรียน

จากการ Work Shop สามารถนำหลัก 3 ป. มาประยุกต์ใช้ ได้ดังนี้

1. ปรับมุมมอง โดยการให้ครอบครัวได้เปิดโลกทัศน์ เปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนทัศนคติในการมองเด็กพิเศษ
2. เปลี่ยนวิธีสื่อสาร ใช้วิธีสื่อสารที่จะทำให้ครอบครัวเปิดใจ เข้าใจในกระบวนการและเป้าหมายร่วมกัน เน้นการให้กำลังใจครอบครัวเด็กพิเศษ
3. เปลี่ยนกิจกรรม ใช้กิจกรรมที่เน้นการปฏิบัติกิจกรรม ลงมือทำผ่านประสบการณ์จริง

อย่างไรก็ตามจากแนวคิดของ Positive Psychology (การมองโลกตามความเป็นจริงอย่างมีความหวัง) พบว่า สุดท้ายแล้วการทำงานร่วมกับครอบครัวเด็กพิเศษ แม้จะเป็นการทำงานที่ค่อนข้างยาก แต่ถ้าครูและครอบครัวมีความหวัง ความศรัทธาและความเชื่อ ร่วมกันว่า "เด็กทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ตามศักยภาพของแต่ละคน" จะทำให้การทำงานร่วมกับครอบครัวเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น