จริงๆ ไอเดียของการสร้างกิจกรรมนี้มาจากที่เราดู live การเข้าสลายการชุมนุมทางการเมืองที่กองทัพภาค 1 วิภาวดีรังสิต การกระทำของฝ่ายความมั่นคงของชาติที่ปฏิบัติต่อการสลายการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงนั้น ทำให้เรานึกถึง "ความเป็นคน" ขึ้นมา เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในการเป็นมนุษย์คนนนึงในสังคมโลกนี้ และหลักสูตรทั้งหลายไม่ได้มีการให้ความสำคัญกับประเด็นนี้อย่างชัดเจน เราจึงเริ่มมันด้วยการสร้างกระบวนการหรือกิจกรรมในห้องเรียนของตนเอง เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจความหมายของ "ความเป็นคน" ที่ไม่ควรทำร้ายกัน ไม่ว่าจะทางจิตใจหรือร่างกาบ และอยู่ร่วมกันกับทุกคนที่มีความแตกต่างหลากหลายในสังคมใหญ่ โดยจำลองผ่านสังคม "ห้องเรียน" จริงของพวกเค้า
ความเป็นมนุษย์ที่อาจจะอธิบายให้เห็นภาพได้ดีที่สุดเรื่องนึงในวัยนี้ คือ "การบูลลี่"
.
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการปฏิบัติเช่นนี้ยังคงมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ในปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมีอยู่มาก
.
ขะทำอย่างไรให้ผู้เรียนได้เจอกับข้อมูลเหล่านี้ และนำไปสู่การปฏิบัติจริง เพื่อสร้างสังคมที่ไม่ควรมีการเกลียดชัง อันนำไปสู่การใช้ความรุนแรงได้
.
.
.
.
.
กิจกรรมส่วนแรก
1.เราเริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามนำ "ทำไมคนถึงแตกต่างกัน?" (5 นาที) โดยแบ่งประเด็นย่อยออกเป็น
ข้อมูลที่ได้จากการแลกเปลี่ยนตรงนี้ คือ การนำเสนอให้ผู้เรียนเห็น Fact หรือ ข้อเท็จจริง ของคนทั่วๆ ไป เช่น สีผิว ขนาดของร่างกาย เพศ เพศสภาพ ความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ
2.คำถามต่อมา "อะไรที่ทำให้คิดแบบนั้น" โดยแบ่งประเด็นย่อยออกเป็น
ข้อมูลที่ได่จากการแลกเปลี่ยนตรงนี้ คือ การนำเสนอให้ผู้เรียนเห็น Opinion หรือ ความคิดเห็น ของคนทั่วๆ ไปที่น่าจะมีต่อคนๆ นึง เช่น ผิวดำเป็นคนสกปรก ไม่น่าไว้วางใจ
.
กิจกรรมที่สอง
1.เปิดคลิปของคุณซูซี่ https://www.youtube.com/watch?v=ZNFksOtIOiM (10 นาที) 2 รอบ โดยในแต่ละรอบให้บันทึกรายละเอียดที่สามารถบอกได้ว่าอะไรคือ ข้อเท็จจริง หรือ ความคิดเห็น ที่ได้จากคลิปวิดีโอ ได้แก่
2.หลังจากที่ผู้เรียนได้ข้อมูลมาแล้ว ครูนำชวนคุยแลกเปลี่ยนในแต่ละประเด็นที่ผู้เรียนได้มา เพื่อหา topic หรือ สิ่งที่คลิปวิดีโอนี้ต้องการนำเสนอ ซึ่งผู้เรียนบางคนอาจเข้าใจถึงความหมายแฝงที่เกิดขึ้นในคลิปวิดีโอได้ ตัวอย่างเช่น
ใครอยู่ในคลิปนี้ คุณซูซี่ ข้อเท็จจริง เป็นลูกครึ่งไทย-แอฟริกา เรียนและมีครอบครัวอบู่ในประเทศไทย เป็นผู้หญิงผิวสี
ความคิดเห็น เป็นคนไม่มีมั่นใจในตัวเองตั้งแต่เด็ก เสียใจจากการโดนบูลลี่ เสียความรู้สึก
ไม่อยากอยู่ในประเทศนี้อีกแล้ว
ใครที่ถูกกล่าวถึง เช่น ครู ข้อเท็จจริง ครูที่โรงเรียน เป็นคนบูลลี่ เป็นคนสร้างความไม่มั่นใจให้คุณซูซี่
ความติดเห็น
.
กิจกรรมที่สาม
ให้ผู้เรียนเขียนสะท้อนการเรียนรู้ลงในสมุดของตนเอง (10 นาที)
1.จากที่ได้ดูคลิปคิดว่าคุณซูซี่
2.ในฐานะที่นักเรียนเองก็มีโอกาสเจอเหตุการณ์เดียวกัน นักเรียนจะ ...
จากกิจกรรมนี้ สิ่งที่เราต้องการให้ผู้เรียนได้รับ คือ ไม่ว่าใครก็ตาม ก็ต่างเป็น "คน" เหมือนกัน เพียงแตกต่างกันที่ภายนอก แต่ภายในคนทุกคนมีความรู้สึกและความคิดเห็นเหมือนกันทุกคน
.
การบูลลี่ จึงเป็นการปฏิบัตินึงที่ทำร้ายความเป็นคนจากภายในอย่างรุนแรง ยิ่งสะสมเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อทางร่างกายด้วย เช่น การทำร้ายร่างกายตนเองของเด็กที่โดนกระทำ ในฐานะของครู ควรมีส่วนช่วยในการป้องกันไม่ให้มีการบูลลี่ แม้ว่าจะไม่สามารถดูแลหรือจัดการได้ทั่วถึง ครู ก็ต้องเสริมเครื่องมือให้เด็กๆ สามารถป้องกันตัวเองจากการกระทำนี้ได้อย่างสร้างสรรค์ และเป็นเชิงบวก
.
การทำความเข้าใจ "ความเป็นมนุษย์" โดยอาศัยตนเอง เพื่อนๆ และครูในพื้นที่ห้องเรียน ให้เป็นตัวอย่างการเรียนรู้ที่สำคัญ และเริ่ม!!! ตระหนักถึงความสำคัญตรงนี้จากประสบการณ์ร่วมของตนเองที่มีอยู่ ซึ่งผู้เรียนบางคนสามารถสะท้อนได้ว่า ตนเองเป็นทั้งผู้กระทำและผู้โดนกระทำ และจะป้องกันตนเองจากเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร
.
สุดท้าย การสรุปหลังกิจกรรมไม่สามารถอนุมานได้ว่า ผู้เรียนจะไม่บูลลี่กันและกันอีกต่อไป เพราะกิจกรรมนี้เป็นเพียงการปูพื้นฐานความคิดหรือ mindset ให้กับผู้เรียนได้เห็นมุมมองความคิดและแสดงความคิดเห็นของตนเองออกมา ครูควรร่วมสังเกตความเปลี่ยนแปลงภายในสังคมห้องเรียนอย่างต่อเนื่อง คอยแนะนำหรือเตือนผู้เรียนอยู่เสมอ เพื่อให้ความคิดนี้กลายเป็นพื้นฐานที่ดีในชีวิตของตนเองได้ต่อไป
.
.
.
สุดท้ายในสุดท้าย เราก็ยังตอบผู้เรียนไม่ได้อยู่ดีว่า "ครู แล้วถ้าครูบูลลี่เด็ก พวกหนูต้องทำยังไง?" คงเป็นโจทย์ต่อไปให้ครูได้เรียนรู้ตัวเอง และสร้างสังคมในการเรียนรู้ต่อไป
ไฟล์ที่เกี่ยวกับไอเดีย
ไฟล์ที่ 1 จากทั้งหมด 6