ในวิชาโครงงาน ที่เราต้องอธิบายความหมายของนวัตกรรม

ที่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เด็ก ๆ รู้สึกว่าไกลตัว ต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่

หรือว่าไม่ก็นึกถึงแค่สิ่งประดิษฐ์ ของที่จับต้องได้ ทำยังไงเราถึงจะขยายสิ่งที่เค้ารู้ได้มากขึ้น

เราเลยกลับมาพร้อม “ไข่” ในคาบนี้ 

แจกให้แต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 3 ฟอง ทั้งไข่ต้ม ไข่ดิบ 

แต่ไม่บอกว่าใน 3 ฟ้องนั้น ได้ไข่ต้ม ไข่ดิบ อย่างละกี่ใบ

นักเรียนจะต้องทำการทดลองว่า ไข่ที่กลุ่มได้ เป็นไข่ดิบกี่ฟอง สุกกี่ฟอง

โดยที่ห้ามทำไข่แตกก่อนพิสูจน์

เริ่ม

นักเรียนก็ประชุมกันและสืบค้นว่าทำอะไรได้บ้าง

รวบรวมวิธีการให้ได้เยอะที่สุด

มีทั้งส่องไข่ เขย่า เอามาทำอะไรหลาย ๆ อย่าง 

หลังจากหมดเวลา ทุกกลุ่มผลัดกันนำเสนอ 

หลังนำเสนอจบ เราถามตบท้าย

“แล้ววิธีการไหน นำเสนอ ที่เป็นวิธีการคิดขึ้นเอง ไม่ได้ซ้ำกับไปเสิร์ชมา”

เด็กบอก “ก็มีทุกอันที่พูดมาเลย ไม่มีอันไหนใหม่ ไม่ได้ต่อยอดมาจากอันไหน”

เราก็ชวนคุยต่อว่า 

เราสามารถใช้ฐานความรู้เดิม มาต่อยอดขึ้นไปได้ มันก็เป็นนวัตกรรม

ทำให้เด็กเห็นภาพ จากโครงงานที่คิดว่ายาก ๆ เป็นเรื่องง่ายขึ้น

เรายกตัวอย่างเพิ่ม (ได้ตัวอย่างนี้มาจากโครงการเพาะพันธ์ปัญญา)

เวลาทำไข่เจียว ครูมีไข่ให้ กระบวนการ ทำยังไงให้ไข่ฟองนี้ กลายเป็นไข่เจียว 

คิดว่ากระบวนการ ขั้นตอนไหน เป็นขั้นตอนสำคัญ ?

“ตีไข่ ถ้าไม่ตีไข่ก็กลายเป็นไข่ดาว” 

แล้วถ้าไม่ตีไข่ แต่ทำยังไง ให้ยังได้ไข่เจียวอยู่ ?

ถ้าเราค้นพบตรงนี้ได้ ก็เป็นนวัตกรรม

นวัตกรรม ก็สามารถเป็นขั้นตอนใหม่ ๆ ได้

ที่เราเลือกใช้ไข่ในการให้นักเรียนทำกิจกรรมเพราะว่า

เราต้องเลือกสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคย มีประสบการณ์ร่วมกัน

ไม่งั้นจะไปต่อไม่ได้

และนักเรียนได้เรียนรู้เรื่องสถานะ ของเหลว ของแข็ง มาก่อนหน้านี้แล้ว

นอกจากนี้เรายังใช้วิธีการ สร้าง idol คือพารุ่นพี่ที่ได้ทำโครงงานปีที่แล้ว

มาคุยกับน้อง ๆ ว่าเค้าผ่านอะไรมาบ้าง 

เด็กเค้าเห็นรุ่นพี่คนนี้ดูไม่เห็นจะตั้งใจเรียน แต่ทำนวัตกรรมได้น่าสนใจมากเลย

เค้าก็มีแรงบันดาลใจว่า

“เค้าก็ทำได้”

อีกอย่างเราจะพูดกับเด็กเสมอ เราไม่ได้โครงงานเพื่อเกรด เราลงแรง ครูก็ลงแรงเหมือนกัน งานของหนูมีคุณค่า เรามาทำให้เต็มที่กัน ในแบบที่ตัวเองยอมรับกับผลงานตัวเองที่ออกมาได้ ถึงแม้ผลลัพธ์สุดท้าย ถ้ามันไม่ดี เราก็จะได้ feedback ได้การเรียนรู้ นี่แหละปลายทาง 

---

เป็นแมวมองเขียนให้ครูศักดิ์ โรงเรียนดํารงราษฎร์สงเคราะห์