" สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น

เราจะสอนอย่างไรที่จะให้ผู้เรียนได้ตระหนักถึงความหลากหลายทางเพศในสังคม การเห็นคุณค่าของมนุษย์ และสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข "

ภายใต้สังคมที่ข้อมูลข่าวสาร มีจำนวนมาก มีทั้งข่าวสารที่จริงและเท็จ ผู้เรียนควรได้รับ การพัฒนาทักษะการคิดเพื่อช่วย   ในการแยกแยะข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จและเป็นโทษออกจากข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง และมีประโยชน์ เพราะทักษะการคิดส่งผลให้นักเรียนนำข้อมูล ความรู้ มาจัดวางอย่างสมเหตุสมผล จนสามารถตัดสินใจเลือกรับข้อมูลที่ดีที่สุด ทักษะการคิดที่จำเป็นแก่ผู้เรียน ในกรณีที่ต้องเลือกรับข้อมูลข่าวสารนั้น คือ ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รวมถึงสังคมที่มีความหลากหลายทางเพศ นักเรียนต้องจำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องของเพศวิถีศึกษา ซึ่งการเรียนรู้เพศวิถีศึกษาจะช่วยให้เข้าใจเกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางเพศ ความพึงพอใจทางเพศ พฤติกรรมทางเพศ พัฒนาการทางเพศในแต่ละช่วงวัย การมีสัมพันธภาพกับผู้อื่น การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล สุขภาวะทางเพศ และมิติทางสังคมวัฒนธรรมที่ส่งผลกระทบต่อเรื่องเพศ ในแง่ของผลกระทบการเรียนการสอนเพศวิถีศึกษาต่อสถาบันทางสังคม เช่น ครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน ครูและผู้เกี่ยวข้องควรศึกษาและตระหนักในบทบาทหน้าที่ที่ต้องจัดการเรียนรู้แก่ผู้เรียนให้เหมาะสม 

ผู้สอนจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด ( Open Approach ) ร่วมกับ กรณีศึกษาเป็นฐาน ( CBL ) โดยใช้หน่วยการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ เรื่อง“ เพศวิถีกับสังคมไทย ”กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563  โรงเรียนบ้านจอหอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 จำนวน 2 ห้องเรียน รวม 41 คน

 โดยซึ่งผู้สอนคาดหวังว่า นักเรียนสามารถนำความรู้ และ ทักษะที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของตนเองได้ อีกทั้งสร้างความตระหนักให้แก่ผู้เรียนเข้าใจและตระหนักถึงความหลากหลายทางเพศในสังคมไทยเพื่อการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข อีกทั้งเป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอนในการจัดทำหน่วยการเรียนรู้แบบบูรณาการ

โดยหน่วยการเรียนรู้บูรณาการสหวิทยาการ  เป็นหน่วยการเรียนรู้ที่มีลักษณะ การบูรณาการระหว่างวิชา หรือกลุ่มสาระการเรียนรู้ ประกอบด้วย กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน(กิจกรรมแนะแนว) กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา และพลศึกษา และ ความรู้ตามกรอบแนวคิดของเพศวิถีศึกษา โดยมีการนำเอาสาระการเรียนรู้จากหลายกลุ่มสาระมาเชื่อมโยงให้เป็นเนื้อเดียวกันเพื่อจัดการเรียนรู้ภายใต้หัวเรื่องเดียวกัน ในที่นี้ ผู้สอนได้สร้างหน่วยการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ เรื่อง “ เพศวิถีกับสังคมไทย ” กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด( Open Approach ) ร่วมกับ กรณีศึกษาเป็นฐาน ( CBL ) เป็น 1 หน่วยการเรียนรู้ มี 9 แผนการจัดการเรียนรู้ ซึ่งมีการใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด( Open Approach ) ร่วมกับ กรณีศึกษาเป็นฐาน ( CBL )

โดยกระบวนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด( Open Approach ) ร่วมกับ กรณีศึกษาเป็นฐาน ( CBL ) หมายถึง กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ให้นักเรียนได้มีประสบการณ์อย่างหลากหลายกับโดยใช้กรณีศึกษา และใช้ปัญหาปลายเปิด ซึ่งเกิดจากกระบวนการแก้ปัญหาหลากหลายวิธี โดยผู้สอนได้สังเคราะห์จากการศึกษาเอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เป็นขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นที่ 1 กิจกรรมเตรียมความพร้อม เป็นขั้นที่ให้นักเรียนได้เกิดความสนใจในการเรียนรู้ โดยใช้สื่อ หรือกิจกรรมเพื่อนำเข้าสู่บทเรียน

ขั้นที่ 2 กิจกรรมนำเสนอกรณีปัญหา เป็นขั้นที่ครูให้นักเรียนได้ศึกษากรณีศึกษาที่เกิดขึ้น โดยให้นักเรียนทบทวนสิ่งที่ได้ศึกษาด้วยตนเอง

กระบวนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด( Open Approach ) ร่วมกับ กรณีศึกษาเป็นฐาน ( CBL )

ขั้นที่ 3 กิจกรรมสร้างแนวทางแก้ปัญหา เป็นขั้นที่ครูให้นักเรียนได้ทำการคิดหาแนวทางแก้ปัญหาจากรณีศึกษาที่กำหนดให้ โดยนักเรียนมีอิสระในการคิดแก้ปัญหา ผ่านการกระตุ้นด้วยคำถามปลายเปิด

ขั้นที่ 4 กิจกรรมอภิปรายขยายปัญหา เป็นขั้นที่ครูให้นักเรียนได้เข้ากลุ่ม ในการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังผู้อื่นนำมาซึ่งความคิดของกลุ่ม และนำมาอภิปรายหน้าชั้นเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน

ขั้นที่ 5 กิจกรรมสรุปผลการเรียนรู้ เป็นขั้นที่ครูให้นักเรียนได้สะท้อนความรู้ ความคิดเห็น และสิ่งที่ได้รับจากการเรียนรู้หลังจากทำกิจกรรม

โดยการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการพิจารณาอย่างรอบคอบ และมีความสมเหตุสมผล มีหลักเกณฑ์ในการคิด เพื่อการตัดสินใจ หรือหาข้อสรุปของสถานการณ์หรือปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีองค์ประกอบของทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 4 ด้าน ดังนี้ (อรพิณ พัฒนผล ,2551)

ด้านที่ 1 การนิยามปัญหา หมายถึง ความสามารถของนักเรียนในการระบุปัญหา กำหนดคําถามที่เหมาะสมในแต่ละะสถานการณ์ เมื่อกำหนดสถานการณ์ให้

ด้านที่ 2 การตัดสินข้อมูล หมายถึง ความสามารถของนักเรียนในการพิจารณาตัดสิน ความน่าเชื่อถือของข้อมูล แหล่งข้อมูล ความสอดคล้องและความเพียงพอของข้อมูล จําแนกข้อมูล ออกเป็นข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็น และสามารถระบุข้อตกลงเบื้องต้น จากข้อมูลที่กำหนดให้ได้

ด้านที่ 3 การระบุสมมุติฐาน หมายถึง ความสามารถของนักเรียนในการกำหนดแนวทาง หรือพยากรณ์คําตอบ โดยอาศัยข้อมูลและข้อตกลงเบื้องต้น รวมทั้งเลือกสมมุติฐานที่เหมาะสมโดย พิจารณาถึงความเป็นเหตุเป็นผลของปัญหาและผลที่จะเกิดขึ้น

ด้านที่ 4 การสรุปอ้างอิง หมายถึง ความสามารถของนักเรียนในการสรุปอ้างอิง แบบนิรนัย อุปนัย จากข้อมูลหรือสถานการณ์ที่กำหนดให้อย่างสมเหตุสมผล

ผลการสอน พบว่า

         1) ผลการพัฒนาหน่วยการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ เรื่อง“ เพศวิถีกับสังคมไทย ” กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

         พบว่า ได้หน่วยการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ เรื่อง“ เพศวิถีกับสังคมไทย ” กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้สอนได้พัฒนาขึ้น และพบว่า มีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.38 โดยในประเด็นที่มีความเหมาะสมมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม ความสอดคล้องของสาระสำคัญ กับมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ และ ระยะเวลา ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม

         ซึ่งสามารถอภิปรายผลได้ว่า หน่วยการเรียนรู้ที่ผู้จัดทำได้สร้างขึ้นมีการเชื่อมโยงมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดอย่างถูกต้องตามหลักการ มีการบูรณาการอย่างรอบด้าน

  2) ผลการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด( Open Approach ) ร่วมกับ กรณีศึกษาเป็นฐาน ( CBL ) โดยใช้หน่วยการเรียนรู้แบบสหวิทยาการเรื่อง “ เพศวิถีกับสังคมไทย ” กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

         พบว่านักเรียนจำนวน 15 คน จาก 20 คน ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ตามที่ได้กำหนดไว้ คิดเป็นร้อยละ 75 ของนักเรียนทั้งหมด และนักเรียนคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนทั้งหมด ได้เท่ากับ 15.25 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 76 ตามเกณฑ์ที่กำหนด 

         ซึ่งสามารถอภิปรายผลได้ว่า การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด              ( Open Approach ) ร่วมกับ กรณีศึกษาเป็นฐาน ( CBL ) ได้มีส่วนในการช่วยส่งเสริมในการคิดอย่างมีวิจารณญาณโดยผ่านการพิจารณาเหตุการณ์ กรณีศึกษา และการกระตุ้นให้นักเรียนได้คิดโดยใช้คำถามปลายเปิด รวมถึงการแสดงความเห็นในการอภิปรายร่วมกัน

 3) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้วิธีการแบบเปิด ( Open Approach )               ร่วมกับ กรณีศึกษาเป็นฐาน ( CBL ) โดยใช้หน่วยการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ เรื่อง “ เพศวิถีกับสังคมไทย ” กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70

         พบว่านักเรียนจำนวน 14 คน จาก 20 คน ได้คะแนนผ่านเกณฑ์ตามที่ได้กำหนดไว้ คิดเป็นร้อยละ 70  ของนักเรียนทั้งหมด และนักเรียนคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนทั้งหมด ได้เท่ากับ 21.14 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 70.46 ตามเกณฑ์ที่กำหนด  

         ซึ่งสามารถอภิปรายผลได้ว่านักเรียนได้เรียนรู้เนื้อหาของบทเรียนจากกรณีศึกษา จากการทำใบกิจกรรม และจากการใช้คำถามปลายเปิดกระตุ้น

ขอขอบพระคุณ

ครูยุทธเดช อันทอง