What is Active Learning ?
ประเทศเรา พูดเรื่องการศึกษาแบบ Active Learning รวมแล้วน่าจะประมาณมากกว่า 5 ปี แต่เหตุไฉนจึงยังไม่เป็นรูปธรรมสักทีนะ
- เรื่องนี้เป็นการบันทึกไอเดียของทีมงาน InsKru ที่ได้ไปอบรมกับคุณ Paul Collard ร่วมกับกสศ.-
ในภาคกการศึกษามักจะพูดกันเสมอ ๆ ว่าควรให้เด็กมี Creative และต้องให้เด็กเป็นผู้สร้างองค์ความรู้ ต้องเป็น Child-Center แล้วก็เป็น Active Learning ด้วย โดยเฉพาะการจัดการเรียนรู้ระดับปฐมวัยที่ถูกกดดันให้สร้างทักษะเหล่านี้ให้กับเด็ก ๆ คุณครูหลาย ๆ ท่านพยายามเสาะหาการอบรมหรือเครื่องมือในการสอนแบบ "Active Learning" เพื่อให้เด็กมี Activity และ Creativity
เราจะมาพาคุณครูมองย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ทำว่า Active Learning ของคุณครู เด็ก ๆ นั้นได้ "Learning" จริงหรือเปล่า
คุณ Paul เล่าให้ฟังถึงเรื่องห้องเรียนระดับชั้นประถมในประเทศอินเดีย วันนี้คุณครูจะสอนเรื่อง "ไฟฟ้า"
-- ชวนคิด : หากคุณครูจะสอนเรื่องการต่อวงจรไฟฟ้าให้เด็ก ๆ แบบ Active Learning คุณครูจะทำอย่างไร --
.
..
...
....
คุณครูในห้องเรียนของประเทศอินเดียพาเด็ก ๆ เรียนรู้เรื่องวงจรไฟฟ้า โดย "ครูเตรียม" ถ่ายไฟฉาย หลอดไฟ และตัวนำไฟฟ้าหลายรูปแบบ เช่น เส้นลวด หญ้า หลอด จากนั้นคุณครูก็ให้เด็ก ๆ ต่อวงจรไฟฟ้าโดยเปลี่ยนตัวแปรของตัวนำไฟฟ้าไปเรื่อย ๆ จนเด็ก ๆ พบว่า อ้อ ถ้าเป็นเส้นลวดหลอดไฟจะติด และจบ 1 คาบ
-- คำถาม จากกิจกรรมนี้คุณครูคิดว่า Active หรือไม่ และเป็น Active Learning หรือไม่ --
.
..
...
.....
คุณ Paul เล่าให้ฟังต่อว่าจากนั้นเป็นตัวคุณ Paul เองบ้างที่สอนเรื่องวงจรไฟฟ้าให้กับเด็ก ๆ โดยที่คุณ Paul เตรียมแค่ ถ่ายไฟฉาย และหลอดไฟจำนวน 3 หลอด ให้กับเด็ก ๆ -> จากนั้น "เด็กเป็นผู้เสาะหา" ตัวนำไฟฟ้าจากในชั้นเรียนเอง มาลองต่อหลอดไฟด้วยตัวเอง ผลปรากฏว่าเด็ก ๆ แต่ละกลุ่มต่อวงจรไฟฟ้าแบบกระแสสลับได้ โดยคุณ Paul ไม่ต้องชี้แนะ แถมยังสามารถอธิบายให้เพื่อน ๆ ฟังได้อีกด้วยว่าเขาต่อวงจรอย่างไร
-- คำถาม : ลองเปรียบเทียบกิจกรรมของคุณครูก่อนหน้าและคุณ Paul ดูหน่่อยว่าเด็ก ๆ ได้ Learning แตกต่างกันอย่างไร --
.
..
...
เราในฐานะผู้เข้าอบรมสามารถสรุปได้ว่าการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning แบบที่ต้องมี Child Center อย่างที่เราพูด ๆ กัน ผลลัพธ์สุดท้ายที่เด็กได้ไม่ใช่เพียงแค่ลงมือทำและรู้ในสิ่งที่ลงมือทำตรงหน้าเพียงอย่างเดียว แต่เด็ก ๆ ต้องตระหนักรู้ในสิ่งที่เขากำลังเรียน ภาษาวิชาการเขาเรียกว่า Meta-Cognition โดยบทบาทของครูมีเพียงไม่กี่อย่าง คือ
- วางเป้าหมายที่ต้องการให้เด็กรู้ในแต่ละคาบ แต่ละหน่วยการเรียนรู้
- จัดอุปกรณ์ "บางส่วน" เพื่อให้เด็กเกิดการตั้งคำถามและเสาะหาคำตอบด้วยตนเอง
- ครูต้องรู้จักใช้คำถามในการกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กในชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสม - ไม่บอกทุกอย่างให้เด็กรู้ แต่แนะให้เด็กทำอย่างแนบเนียน
- เปิดโอกาสให้เด็กได้เป็นผู้บอกเล่าสิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมที่ Active นี้ เพราะเด็กแต่ละคนผลสุดท้ายแล้วอาจจะได้ข้อสรุปการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ซึ่งพวกเขาสามารถนำมาถกเถียงเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันต่อไปอีกได้
บทความนี้ขอให้เป็นบทความในการกระตุกต่อมคิดให้คุณครูหลาย ๆ ท่านที่กำลังวางแผนการสอนแบบ Active Learning นะคะ ส่วนวิธีที่จะสร้างกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning อย่างไรทีมงาน insKru ขอมาแชร์ในครั้งต่อ ๆ ไปแล้วกันนะคะ ^^
ขอให้คุณครูทุกคนมีความสุขค่ะ
ปล.ขออภัยที่ไม่มีภาพประกอบและ Slide เพราะเราได้อบรมแบบ Active Learning จึงตกตะกอนความรู้โดยไม่ได้ถ่ายภาพไว้เลย
