สำหรับวัยเด็ก การละเล่นเป็นอีกหนึ่งกิจรกรรมที่นอกจากจะได้ความสนุกแล้ว ยังจะช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากประสบการณ์เล่น เราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ชอบทำกิจกรรม ลงมือปฏิบัติมากกว่าการเรียนในห้องเรียน เพราะประสบการณ์จะทำให้เรายิ่งจำ
แต่ถ้าเด็กที่ไม่พร้อมทั้งคุณทรัพย์ เวลาพักผ่อน มอบเวลาส่วนใหญ่ให้กับการหารายได้เพิ่ม เวลาการเล่นของพวกเขาก็จะลดน้อยลง และด้วยที่บางครั้งพวกเขาก็อาจจะรู้สึกว่า "ไม่อยากจะสนใจเรียน" แต่เด็กยังไงก็เป็นเด็ก เขาก็ยังรู้สึกที่อยากจะเล่นอยู่เสมอ
แล้วที่บอกว่างานวัดเนี่ย เป็นงานวัดอย่างไร เกี่ยวกับโปรเจ็กต์ไทล์ได้ยังไง?
ความที่ทรัพยากรที่โรงเรียนก็จำกัด จะให้เด็กออกไปชู้ตลูกบาสลูกบอลที่โรงยิมก็คงทำไม่ได้ เพราะอาจจะมีห้องเรียนอื่นกำลังใช้อยู่ ดังนั้นทางเลือกที่มีไม่มากนี้ก็ต้องจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในห้องเรียนแล้วละ!
ซึ่งคุณครูอีฟ (ธนัชพร ฉันทาภิสิทธิ) ได้มาแชร์ไอเดียการทำงานวัดจำลอง โดยการนำกิจกรรมปาเป้าเข้ามาใช้ในห้อง เหตุผลที่เลือกกิจกรรมนี้ เพราะนอกจากจะได้เข้าเนื้อหาเรื่องโปรเจ็กไทล์แล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่เกิดการกระทบกระทั่งกันน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่ชอบเข้าสังคม หรือไม่ชอบเข้าสังคมก็เล่นได้ เนื่องจากกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่เล่นคนเดียวได้ พวกเขาสามารถเลือกที่จะตัดสินใจเองได้ว่าจะเล่นรอบเดียวหรือหลาย หากต้องการเล่นหลายรอบก็จะให้ต่อแถวใหม่ ถ้าไม่อยากเล่นแล้วก็อาจจะร่วมเชียร์อัปเพื่อน ๆ มีการจัดเป็น Tournament และอาจจะสร้างบรรยายกาศให้เด็ก ๆ เข้าถึง Feeling งานวัดอย่างเต็มรูปแบบด้วยการเปิดเพลงตื๊ด ๆ มันส์ ๆ ประกอบ
นอกจากนี้การจัดกิจกรรมนี้ยังเป็นกิจกรรมที่เสริมความมั่นใจให้พวกเขาได้กล้าที่จะตัดสินใจ ได้ทดลอง ได้เรียนรู้ ว่าปาระยะนี้จะถึงเป้าไหม รอบต่อไปต้องใช้ความแรงเท่าไหนถึงจะถึงเป้ากันนะ ใช้เวลา Remind การยืนใกล้ยืนไกลน้อย และทำให้วิชาไม่น่ากลัว
เด็ก ๆ บางคนที่ไม่ค่อยมีความกล้าก็ปาในระยะที่เขากล้า
คนที่ไม่ชอบเล่นก็จะมาเชียร์อัปเพื่อน ๆ หรือ คนที่กล้าก็จะปาหลายระยะ หลายครั้ง
เด็กบางคนที่ไม่กล้า ขี้เขิน ก็ลุกมาขอเล่นด้วย
ได้ Recognize เพื่อน ๆ ในห้อง ได้รู้จักกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น
แล้วเมื่อถึงการสอบหรือตอนที่นึกถึง “โปรเจ็กต์ไทล์” พวกเขาก็จะนึกถึงเหตุการณ์เหล่านี้แทน
และสำหรับกิจกรรมนี้
ที่ได้มากกว่าความรู้ คือ มิตรภาพ และการได้รู้จักกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง