ออกนอกห้องเรียน ไป 'สิงคโปร์'

นี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเราว่าสำหรับคนที่มีรายได้ต่ำนั้น เขาก็ไม่กล้าที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะคิดว่ามัน เป็นไปไม่ได้

แต่สำหรับบทความนี้ เราจะพามาฉีกกรอบเดิม ๆ ที่ว่า มีรายได้ต่ำแล้วไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ จากกิจกรรมพานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ “สิงคโปร์” โดยคุณครูเอ็ม (ธนิต แคล้วโยธา) จาก Teach For Thailand ซึ่งมากกว่าการฉีกกรอบในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้แล้ว กิจกรรมนี้เองก็ทำให้ได้เห็นความพยายามของเด็กและได้เปลี่ยนทัศนคติของผู้ปกครอง

แรกเริ่มนั้นมาจากความต้องการที่จะให้เด็ก ๆ นั้นมีชีวิตที่ดีขึ้น เห็นความสามารถและศักยภาพของตนเอง และอยากที่จะพัฒนา!

ทำให้คุณครูเอ็มเลือกที่จะคิดใหญ่ไว้ก่อน และไปให้ไกล โดยเลือกที่จะพานักเรียนไปทัศนศึกษาที่สิงคโปร์ เพราะโรงเรียนที่คุณครูเอ็มดูแลนั้นอยู่ทางภาคเหนือ ดังนั้นสิงคโปร์จึงเป็นตัวเลือกที่จะทำให้ความเชื่อว่า “ไม่ได้” นั้น ทลายลงไปได้ และถูกเติมเต็มด้วยความเชื่อใหม่ที่ว่า “พวกเขาก็ทำได้”

แล้วจะพาเด็กไปทัศนศึกษาได้ยังไงกันล่ะ?

สำหรับกิจกรรมนี้ คุณครูเองก็ไม่ได้มีงบประมาณในการจัดสรรเพื่อให้เด็ก ๆ ได้ไปทัศนศึกษากันทุกคน จึงได้ทำเป็นโครงการที่จะหาเด็กที่อยากเป็นแกนนำ พัฒนาความเป็นผู้นำและเป็นตัวแทนในการไปทัศนศึกษาในครั้งนี้

โดยเริ่มกันที่เปิดรับสมัครเด็กทั้งหมด 60 คน แล้วให้เด็ก ๆ ได้ลองออกมาแชร์ไอเดีย Present ตัวเอง หรือทำอะไรบางอย่างให้คุณครูที่เป็นคณะกรรมการได้เห็นและคัดเลือกตัวแทนออกมา

เมื่อคัดเลือกเสร็จ ผู้ปกครองนั้นจะต้องให้ความช่วยเหลือตรงนี้กับเด็ก

สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ ปัญหาแรกที่พวกเขาจะเจอคือ “เงิน”

ผู้ปกครองเองก็จะรู้สึกว่า เราไม่มีเงินตรงนี้จะให้ลูกไปได้อย่างไร 

แน่นอนว่าการช่วยเหลือที่ว่านี้ “ไม่ใช่” การหาเงินให้เด็กเพื่อไปทัศนศึกษา 

แต่เป็นการสอนอาชีพให้กับเขา ให้พวกเขาสามารถ สร้างรายได้ เองได้

ในระยะ 4-5 เดือนก่อนที่จะไป คุณครูจะให้เด็กนักเรียนได้ตั้งเป้าหมายเป็นจำนวนเงิน ว่าการที่จะไปทัศนศึกษานี้จะต้องใช้งบประมาณเท่าไร แบ่งเป็นนักเรียนแต่ละคนต้องใช้จำนวนเงินเท่าไร และได้วางแผนว่าจะหาเงินอย่างไรให้ได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ขั้นตอนที่จะทำให้ได้ไป “สิงคโปร์”

1. กำหนดงบประมาณที่ต้องใช้ทั้งหมด
2. แบ่งจำนวนงบประมาณว่าแต่ละคนต้องทำการหางบเท่าไร
3. ผู้ปกครองสอนวิชาอาชีพให้เด็ก ๆ
4. คุณครูติดต่อประสานงานสำหรับการพาไปทัศนศึกษา

ซึ่งในครั้งนี้มีเด็กที่ผ่านการคัดเลือก 4 คน แต่ก็ได้มีการร่วมโครงการกับโรงเรียนอื่นอีก 5 โรงเรียน

จะเห็นได้ว่า กิจกรรมนี้ไม่ได้ผลักภาระไปที่ใครสักคนหนึ่ง แต่เป็นการร่วมมือช่วยเหลือกันระหว่าง คุณครู นักเรียน และผู้ปกครอง 

เพราะการที่คุณครูเอ็มให้เด็ก ๆ ได้ลองวางแผนเองในการหางบประมาณ ตั้งเป้าหมายงบ พวกเขาก็จะได้เรียนรู้วิธีการวางแผนงาน และยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานอื่น ๆ ในอนาคตได้

และผู้ปกครองเองก็จะเปลี่ยนพฤติกรรมจากการว่ากล่าวเด็ก ๆ เป็นการพูดชมเด็กแทนว่า พวกเขากำลังทำอะไร เพื่อให้ได้ไปสิงคโปร์

และหลังจากนั้นเด็ก ๆ ก็ได้ไปสิงคโปร์ ซึ่งการที่พวกเขาได้ไปในครั้งนี้พวกเขาก็ได้เรียนรู้ เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของประเทศเพื่อนบ้าน เรียนรู้การแก้ปัญหา หรือวิธีการจัดการที่ประเทศเขาจากปัญหาที่พบเจอในชุมชนของตน โดยคุณครูเอ็มได้มีการติดต่อเด็กไทยในสิงคโปร์ ให้พวกเขาได้สอน ช่วยเหลือ สร้าง Connection

มากกว่าการเที่ยวเล่น คือ การเปิดโลก

แล้วเด็ก ๆ ที่ไม่ได้ไปล่ะ? 

พวกเขาที่ได้เห็นเพื่อน ๆ ได้ไปสิงคโปร์กลับมาเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้ไป 

ต่างก็รู้สึกว่า “การไปสิงคโปร์ ก็แค่นี้เอง ผมก็ไปได้” 

จากที่เคยรู้สึกว่าการไปต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องยากเพียงแค่พวกเขาไม่ได้ลองทำ

ทำให้เป็นการจุดประกายเล็ก ๆ ว่าเขาก็ทำได้เหมือนกัน

ถ้าพัฒนาถูกทางจะทำให้เขาโชว์ศักยภาพ

อยากได้ ต้องสร้างเอง หลาย ๆ อย่างสร้างได้ แม้มีข้อจำกัด แต่ต้องรู้วิธีใช้

หวังว่าจะได้ยินเรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยโครงการนี้เพิ่มอีกนะ