icon
giftClose
profile

ครูนักเล่าเรื่อง

17794
ภาพประกอบไอเดีย ครูนักเล่าเรื่อง

เรื่องราวนั้น คือมนต์ขลังอันกำเนิดจากภาษา มาดูกันว่าเทคนิคการเล่าเรื่องของนอตแนตเป็นอย่างไร! ^ ^

วันนี้จะขอแบ่งปันไอเดียเกี่ยวกับการเล่าเรื่อง หลาย ๆ คนอาจยังไม่ทราบว่า การเล่าเรื่องนี้มีบทบาทกับสังคมอย่างไร? บางครั้งการเล่าเรื่องอาจจุดประกายความคิดของนักเรียนที่เราสอน ทั้งอนาคต และจินตนาการ


แล้วจะเล่าอย่างไรให้กินใจดีล่ะ?


มาดูทริกการเล่าเรื่องของนอตแนตกัน~



การเล่าเรื่องที่ดีต้องเริ่มจากการเตรียมตัวของครู

บางครั้งครูอาจจะคิดว่าตัวเองโม้เก่ง แต่อย่าลืมว่า โม้ กับ เล่าเรื่อง มันคนละแนวทาง ดังนั้นการเตรียมกำลังใจให้ตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ ครู จำเป็นต้องยอมรับว่า หากเราจะเล่าเรื่องราว เราจำเป็นต้องสวมบทบาท อาจรวมถึงการแต่งองค์ทรงเครื่องประกอบการเล่า อย่าทำให้เรื่องสนุกไม่สุดเนื่องจากขาดสิ่งดึงดูดหรืออารมณ์ของครูนะครับ~



ครูยอดนักเล่า

เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงของการเล่า จำเป็นต้องสวมบทบาท แต่ก่อนที่จะเล่าจริง ครูจำเป็นต้องมีสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้


1. ชื่อ

"ชื่อที่ดี ต้องมีความสอดคล้องกับปัจจุบัน" หากจะตั้งชื่อให้สามารถชักจูงผู้ฟังต้องอิงปัจจุบันเอาไว้ก่อน ตัวอย่างเช่น ขณะนี้มีละครเรื่องวันทอง กำลังมาแรง เราก็ตั้งตัวละครว่า พี่แผน กับวันทอง ก็จะสามารถทำให้นักเรียนจดจำได้ง่ายนั้นเอง

ชื่อเรื่อง อีกประการหนึ่ง ต้องเป็นชื่อที่มีมุมมองและอยากให้เด็ก ๆ สงสัย อันจะทำให้ เกิดคำถามขึ้นมาในใจเด็ก เช่น ใครฆ่าวันทอง ฯลฯ

2. โคลงบทละคร

จะเล่าเรื่องประการใดต้องมีบท เหมือนกับการจะเขียนสิ่งใดต้องมีการจรดปลายปากกา เพราะอย่างนั้น จึงจำเป็นต้องมีโคลง

"โคลงที่ดีต้องมีเพียงโคลง" เพราะหากคุณครูท่านใดเขียนบทอย่างละเอียด ต้องเดินกี่ก้าว ต้องพูดคำว่าอะไร ต้องตวัดมือซ้ายขวา โอ๊ย! มันไม่มีทางจดจำได้หรอกครับ ดังนั้น มีเพียงโคลงพอ เช่น เริ่มต้นเราจะไปตลาด ไปตลาดเสร็จจะเข้าบ้านทำขนม ทำขนมเสร็จเอาไปขาย ฯลฯ เห็นไหมครับว่า เขียนโคลงเท่านี้เราก็ทราบเรื่องราวแล้ว ^ ^


3. ปมละคร

เรื่องเล่าที่ดีควรมีปม หรือจุดพีค เช่น วันทองขายขนมเสร็จ แล้วอยู่ดี ๆ ก็ร่ำร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสายเลือด ฯลฯ หาปมหรือข้อขัดแย้งให้พบ แล้วเด็ก ๆ จะอยากติดตามตอนต่อไป


4. น้ำเสียงและอารมณ์

สิ่งนี้ขาดไม่ได้ หากจะเล่าเรื่องราวอะไร ตลก ดราม่า แอคชั่น ต่อสู้ ฟิ้ว ๆ ~ ต้องใช้น้ำเสียงและท่าทางประกอบ จะทำให้เด็ก ๆ ตื่นเต้นไปกับฉาก ฉากนั้นนั่นเอง


หลายสิ่งอื่นใด ขาดไม่ได้คือการเชื่อมโยงเนื้อหาเข้าสู่บทเรียน ครูอาจเล่าเรื่องแล้วค่อยสอนเนื้อหาทีหลัง หรือแทรกเนื้อหาที่จะสอนเข้าไปในบทโคลงเรื่องเลยก็ได้ สำหรับเด็ก ๆ แล้ว อะไรที่แปลกใหม่ หรือครูที่มีแนวคิดที่จะริเริ่ม จึงจะสามารถสร้างเสริมประสบการณ์ทั้งเราและนักเรียนได้ ขึ้นอยู่ที่เราจะกล้าที่จะทำหรือไม่


"หากครูกล้า เดี๋ยวเด็กก็จะกล้าตาม"

นอตแนต

เป็นกำลังใจให้ครูทุกท่านครับ ^ ^


รีวิว
(0)
ดาวน์โหลด
(0)
เก็บไว้อ่าน
(2)