เกรด ความเข้าใจ และการใช้พลังบวก
เคยไหม ในวันหนึ่งที่นักเรียนของเราขาดความมั่นใจ เพราะ "ตัวเลขลำดับห้องเรียน"
...
เคยไหมคะทุกคน ที่นักเรียนของเราเดินเข้ามา แล้วพูดว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ห้องท็อปแล้ว
หรือไม่ใช่นักเรียนก็ได้ค่ะ อาจจะเป็นชีวิตเพื่อนๆ พี่ๆ หรือชีวิตของน้องๆเอง ที่ในทุกๆวันของการเรียน มีสิ่งเดิมพันคือ "เกรด"
...
รายชื่อนักเรียนดังต่อไปนี้ คือรายชื่อนักเรียนห้อง 5/1
....
อันดับสุดท้าย นาย ฮอฮูก เกรดเฉลี่ย 3.01
ตัวเนตรเองไม่เคยได้ประสบเหตุการณืแบบนี้กับตัวเอง แต่ได้พบเหตุการณ์แบบนี้บ้างในชีวิตการเป็นครู แรกเริ่มเดิมทีเนตรเห็นข้อดีของการจัดห้องเรียนแบบนี้เยอะมากๆ และในขณะเดียวกัน เนตรก็มั่นใจว่าไม่ใช่แค่เนตรเองที่มองเห็นจุดที่เป็นข้อเสียของการจัดอันดับห้องเรียนโดยใช้มาตรวัดความเหมาะสมผ่าน เกรดเฉลี่ย
ในสภาพแวดล้อมการเรียน ที่ผู้เรียนควรได้เรียนรู้ เด็กๆควรได้สนุก และมีความสุขกับการเรียน การได้ใช้สังคมร่วมกับเพื่อนๆ โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการเรียนรู้ พัฒนา และใช้เวลาในช่วงชีวิตแห่งการเรียนรู้อย่างเต็มที่ ทุกสิ่งอย่างดำเนินไปอย่างนั้น กระทั่งสัปดาห์ก่อนสอบ...
"ซุ่มว่ะ..."
"หนูเหลือกี่คะแนนจะถึงเกรด 4 คะ"
"หนูมีงานค้างอะไรไหม?"
"เพื่อนคนไหนจะได้เกรด 4 บ้างอ่ะคะ?"
เหล่านี้คือประโยคที่เนตรได้ยินในกลุ่มห้องเด็กที่มีผลการเรียนปานกลาง ดี ไปจนถึงดีมาก
และในขณะเดียวกันเด็กในกลุ่มห้องท้ายๆ หรือกลุ่มเด็กที่มีผลการเรียนต้องประบปรุงกลับ..
"ปล่อยพวกเด็กเก่งทำไปเถอะครู"
"จะเอาอะไรกับพวกผม ได้เท่านี้ก็ดีแล้ว"
"ผมขอให้ไม่ 0 ก็พอแล้ว"
เนตรไม่ได้จะพูดว่าการจัดห้องเรียนแบบเรียงเกรด เป็นต้นเหตุของแนวความคิดแบบนี้ของนักเรียนในห้องท้ายๆนะคะ แต่ตัวเนตรเองคิดเสมอว่า ถ้าเราจะผลักดันให้เด็กๆในกลุ่มที่มีผลการเรียนรั้งท้าย หรือที่หลายๆคนเรียกพวกเขาว่าเด็กห้องบ๊วย ให้มีแนวคิดแบบ Growth Mindset หรือเชื่อมั่นว่าตัวเขาเองพัฒนาได้ ไม่ในแนวทางใดก็แนวทางหนึ่ง
เนตรเชื่อว่าเด็กๆหลายคนรู้ และยอมรับจุดอ่อนของตัวเองได้
แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยผลักดัน เสริมแรงบวก และมอบโอกาสให้เขาได้พัฒนา
หลายๆครั้ง เด็กๆของเนตรเผชิญ และเรียนรู้ที่จะรับมือกับปัญหา
ทว่าเขายังขาดแรงสนับสนุนและกำลังใจ ซึ่งลำพังเพียงเนตรคนเดียวไม่สามารถเติมเต็มตรงนั้นได้ แม้จะพยายามอย่างที่สุดแล้ว
คำชมคือสิ่งที่ดี
แต่การเรียนรู้ที่มีคุณค่า คือแรงผลักดันที่จะทำให้การพัฒนาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
เช่นเดียวกับทุกๆความสำเร็จ
เป้าหมายที่มั่นคง และชัดเจน คือหลักใบสำคัญถึงปลายทางที่จะเดินจะเหยียบยืน แต่อย่าปล่อยให้เด็กๆลืมว่าทุกก้าวย่างของเขานั้นก็ล้วนแล้วแต่สำคัญ
เหล่านี้คือสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ตัวเนตรเองพยายามผลักดันมาตลอด ในเด็กทุกๆกลุ่ม
และแน่นอนค่ะว่า ณ ตอนนี้ เนตรยอมรับว่า ไม่ประสบความสำเร็จ...
แต่อย่าได้กังวลไปค่ะทุกคน~
เนตรเองก็เป้นคุณครูสายอึด! ถึก! ทน! (นี่มันคุณสมบัติเด่นของคนทำอาชีพครูเลยนี้นะ....แหะๆ) ความผิดหวังพุ่งชน ก็ห้ามถอดใจค่ะ!
แต่ท้อได้ใช่ไหมคะ...?
ท้อได้เถอะเนอะ~
ท้อเสร็จแล้ว ก็ค่อยๆเปลี่ยนความท้อทั้งหลายทั้งมวลให้กลายมาเป็นการเรียนรู้ที่มีคุณค่า เพื่อที่เราจะได้พัฒนาต่อไปได้กันดีกว่า~
เวิ่นเว้อมายาวนานราวๆสามหน้ากระดาษเอสี่ ขอปิดท้ายด้วยการเสริมพลังบวกสวยๆสักประโยคนะคะ ฮาาาาาาาาาาา
ก่อนจะจบบทความนี้ลงไป
เนตรขอชวนแชร์ 3 ประเด็นค่ะ
จะคอมเม้นจะเขียนแชร์ใต้บทความก็ได้นะคะ เผื่อเพื่อนๆ พี่ๆ คุณครูท่านใดที่แวะผ่านมาจะได้ลองอ่าน ลองนำไปคิดต่อกัน~
หรือจะลองนำประเด็นเหล่านี้ไปทบทวนกับตัวเองกันก็ได้นะคะ ไม่ว่ากันจ้าาาา
เอาล่ะ!
ประเด็นที่ 1 ปัญหา Fixed Mindset เกี่ยวกับ เกรด ผลการเรียน และการทำงานของนักเรียน (ทั้งกลุ่มเรียนดี และกลุ่มเรียนอ่อน )
ประเด็นที่ 2 การสร้างความเข้าใจพื้นฐานในการเสริมสร้างการพัฒนาตนเอง (การสร้าง Growth mindset ทั้งกลุ่มเรียนดี และกลุ่มเรียนอ่อน)
ประเด็นที่ 3 พลังบวก...Soft Power ที่มากกว่าการชมเชย แต่เป็นการสร้าง Moment แห่งการตระหนักรู้ แล้วคุณครูมีวิธีเสริมแรงยังไงบ้างน๊าาาา ??
อย่าลืมมาแชร์กันนะคะทุกคน ><
แล้วก็~ ถ้าชอบบทความนี้ก็อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ กดสับตะไคร้(...?) เพื่อรับแจ้งเตือนบทความใหม่ๆกันนะคะ~
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!