เมื่อคุณมองเห็นนักเรียน
คุณมองเห็นอะไรบ้าง
.
และมีอะไรอีกบ้างที่คุณยังมองไม่เห็น
.
มีโลกอีกกี่ใบในแววตาคู่นั้น
และเสียงแห่งความรู้สึกอีกกี่ playlist
ที่รอให้ใครสักคน
.
ใครสักคนที่จะไม่ตัดสิน
หรือเอาชุดความดีสำเร็จรูปไปครอบ
และเบือนหน้าหนีเหตุที่มาของเสียงเหล่านั้น
.
ผมรู้สึกว่ามันยากมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะออกแบบการเรียนรู้
หรือกระบวนการใด ๆ ให้กับคนที่เรายังไม่รู้จัก และผมรู้สึกว่าการตัดสินไปแล้ว
ว่าเรา "รู้จัก" ใครสักคนโดยที่ยังไม่ได้มีโอกาสได้ "รับฟัง" คน ๆ นั้นจริง ๆ
เป็นสิ่งที่น่ากลัว
.
เพราะแม้ว่าเราจะมีสมุดพก ใบบันทึกพฤติกรรม ภาพถ่าย หรือแม้แต่คลิปวีดีโอ
แต่มนุษย์ (เช่นเดียวกันกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ) ก็มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโต
อยู่ตลอดเวลา ทำให้การรับฟังเพื่อทำความเข้าใจ อาจเรียกได้ว่าเป็นงานที่
ไม่มีวันสิ้นสุด ตราบใดที่เรายังรู้สึกว่าอยากมองเห็นเพื่อนมนุษย์ที่หายใจอยู่ข้างหน้าเรา
.
.
.
Free Writing หรือ "การเขียนโดยอิสระ" เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่นักเรียนจะสามารถ
ส่งเสียงสิ่งที่พวกเขารู้สึก คิด เชื่อ หรือไม่เชื่อ ออกมาผ่านการร้อยเรียงกันของตัวอักษร
โดยมีผืนกระดาษ และตัวพวกเขาเองเป็นผู้รับฟังเสียงนั้นในเบื้องต้น
ก่อนที่กระดาษและถ้อยคำเหล่านั้นจะถูกส่งต่อให้กับคุณครู
.
ความละเอียดอ่อนของการชวนนักเรียนทำ Free Writing มีดังต่อไปนี้
1) การแสดงความเคารพต่อเรื่องราวของนักเรียน ผ่านการการรักษาความลับในเรี่องราวเหล่านั้น
บางครั้งเมื่อนักเรียนรู้สึกปลอดภัยมาก ๆ พวกเขาอาจเลือกที่จะสื่อสารเรื่องราวที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ
ที่นอกจากเรา ซึ่งเป็นครูที่พานักเรียนทำกิจกรรมดังกล่าว พวกเขาอาจยังไม่พร้อมที่จะแชร์กับคนอื่น
ดังนั้น แม้ว่าเราจะมีเจตนาที่ดี แต่ก็ควรจะเก็บเรื่องราวของนักเรียนไว้เป็นความลับ
(เว้นแต่นักเรียนจะให้ความยินยอมว่าสามารถนำไปเล่า หรือแชร์ต่อได้)
2) การละวางซึ่งการตัดสินถูกผิด รวมถึงการพยายามเกรดชิ้นงานดังกล่าว
เป้าหมายของ Free Writing คือการเปิดพื้นที่ให้นักเรียนได้สามารถถ่ายเรื่องราวของพวกเขาออกมา
ไม่ใช่การฝึกทักษะด้านการเขียน ดังนั้นเราจึงไม่ควรตรวจถูกผิด หรือให้คะแนนชิ้นงานดังกล่าว
และชิ้นงานดังกล่าวเป็นงานเพื่อตัวนักเรียนเอง มากกว่าเป็นการเพื่อคุณครูผู้สั่ง
ดังนั้นถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่าไม่เข้าใจ หรืออยากเข้าใจมากขึ้น สิ่งที่สามารถทำได้
คือการเข้าไปชวนนักเรียนพูดคุย และรับฟังเสียงของนักเรียนอีกครั้ง และอีกครั้ง
.
.
.
การชวนทำ Free Writing มีความหลากหลาย
และขึ้นอยู่กับเวลาที่คุณครูแต่ละคนมี โดยหนึ่งในวิธีที่เรียบง่ายที่สุดอาจะเป็นคอมโบ 3 คำถาม
ซึ่งคุณครูทุกคนสามารถทำได้ ดังนี้
.
.
ขั้นเตรียมการ
1) เตรียมกระดาษ A4 ใหม่ (ไม่แนะนำกระดาษ reuse เพราะสิ่งที่อยู่ในอีกหน้าหนึ่ง
ของกระดาษอาจจะรบกวนการลื่นไหลขณะที่เขียนของนักเรียนได้) ไว้ "มากกว่า" จำนวน
ของนักเรียน เผื่อมีนักเรียนขอกระดาษใหม่ระหว่างทาง
2) เช็คก่อนเริ่มว่านักเรียนทุกคนมีเครื่องเขียน ซึ่งถ้าเป็นเครื่องเขียนหัวเล็กสามารถ
ใช้ได้ทุกประเภทเลย ดินสอ ปากกา สีไม้ ได้หมด ขอให้นักเรียนรู้สึกโอเคที่จะเขียน
ด้วยอุปกรณ์นั้น
3) สร้างข้อตกลงเรื่องการเคารพพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน เพราะโดยธรรมชาตินักเรียน
จะมีความอยากรู้อยากเห็นที่จะพาให้พวกเขาชะโงก หรือเดินเข้าไปเพื่อโน้มตัวลงดู
กระดาษของเพื่อน ๆ ซึ่งอาจจะเป็นการรบกวนเพื่อนที่กำลังเขียนได้
ขั้นดำเนินการ
1) ให้นักเรียนนำเครื่องเขียนที่จะใช้ขึ้นมาถือไว้ และแจกกระดาษให้กับทุกคน
2) ให้นักเรียนหาพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง ให้ห่างจากเพื่อนคนที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างน้อย
1 ช่วงแขน (ถ้าพื้นที่ไม่พอ สามารถแก้ปัญหาโดยการให้หันหลังเข้าหากันได้)
3) อธิบายเรื่อง Free Writing ว่า "จากนี้ไปอยากให้ทุกคนลองเขียน โดยครูจะมีคำตั้งต้นให้
หลังจากนั้นไม่ว่าจะมีคำว่าอะไร หรือความรู้สึกแบบไหนที่เกิดขึ้น ขอให้เขียนทุกอย่างลงไป
ในกระดาษที่อยู่ตรงหน้าเรา ไม่ต้องกังวลเรื่องการสะกด ไม่ต้องห่วงว่าครูจะอ่านรู้เรื่องไหม
อยากให้เป็นการเขียนที่เราทำเพื่อสื่อสารแค่กับตัวเองก็พอ"
4) ให้คำตั้งต้น โดยพยายามเรียงลำดับ เบา ไปหาหนัก และกลับมาที่เบา ยกตัวอย่างเช่น
(เว้น 4 นาที เพื่อให้นักเรียนเขียน)
(เว้น 3 นาที เพื่อให้นักเรียนเขียน)
(เว้น 4 นาที เพื่อให้นักเรียนเขียน)
(เว้น ...เท่าที่เวลามีอยู่... เพื่อให้นักเรียนเขียน
ความหนักเบาของแต่ละคำถามอาจจะขึ้นอยู่กับบริบทของนักเรียน เช่นประเด็นเรื่อง "ครอบครัว"
อาจกลายเป็นประเด็นที่หนักมาก สำหรับนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนขยายโอกาสที่ส่วนมากอาจไม่ได้
อาศัยอยู่กับพ่อแม่ รวมถึงอาจไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนที่บ้าน
5) สุดท้าย นำข้อความจากนักเรียนมาอ่าน เพื่อ "ทำความเข้าใจ" โลกจากมุมมองของนักเรียน
โดยชะลอไว้ซึ่งการตัดสิน และความรู้สึกอยากสั่งสอน หรือแนะนำที่อาจเกิดขึ้น
และเปลี่ยนให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ได้เรียนรู้จากนักเรียน เพื่อให้เราสามารถออกแบบการเรียนรู้
และการเดินทางที่เหมาะกับนักเรียนของเรา ร่วมกับผู้คนในชีวิตของพวกเขาได้อย่างมีความหมาย
มากขึ้น ต่อไป
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!