หลาย ๆ ครั้งที่วิทยาศาสตร์ถูกตีตราว่าเป็น
"วิชาท่องจำ" 📖
ซึ่งไม่ใช่ธรรมชาติของการเรียนรู้
อย่างที่วิทยาศาสตร์ควรจะเป็น
.
เรื่องที่เนื้อหาเยอะมาก ๆ เราควรสนับสนุนให้ผู้เรียน
ได้เข้าใจพื้นฐานที่ควรรู้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
เพราะหากนักเรียนมองไม่เห็นภาพรวมในสิ่งที่เรียน
จะรู้สึกเหมือนถูกข้อมูลทับเลยทีเดียว
.
แม้บางครั้งเราอาจหลีกเลี่ยงการท่องจำไม่ได้
แต่เราจะทำอย่างไร ให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมมากที่สุด
และสนุกกับการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์
.
#วิทย์ยายุทธ #เรื่องยากในวิชาวิทย์
#insKru #ทุกการสอนเป็นไปได้
------------------------------------------
จากภาพเเละบทความที่กล่าวมา ครูเบียร์ไม่กล้าเถียงครับเพราะเนื้อหาพืช เเละ Taxonomy ทั้งยากเยอะเเละน่าเบื่อด้วยครับ
เเต่เดี๋ยวก่อน !! วันนี้ครูเบียร์จะมานำเสนอไอเดียการสอนที่ครูเบียร์เคยใช้ เเละใช้ประจำเมื่อถึงเนื้อหาด้าน Taxonomy ของพืช ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาของเด็กนักเรียนในหลาย ๆ รุ่น เพราะว่าเนื้อหาเกี่ยวกับพืชไม่เกี่ยวกับร่างกายของนักเรียน นักเรียนจึงเจอปัญหาคือก้มดูตัวเองไม่ได้ มองหน้าเพื่อนก็หาคำตอบไม่เจอ ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการลงพื้นที่ไปดูของจริง ไปให้เห็นเค้นให้ได้คำตอบ เเต่ทว่าไปทั้งทีก็เสียดายเวลาจึงขอออกแบบการสอนให้คุ้มค่าคุ้มเวลาในการออกพื้นที่ที่สุด ไปรับชมรับฟังไอเดียของเคียบู ครูเบียร์กันเลยขอรับ
กิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง Classification of Fruits ลงนาล่า...ผลไม้
วิชาชีววิทยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระยะเวลา 4 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาการลงพื้นที่)
เป้าหมาย
กระบวนการ
1.สำหรับกิจกรรมนี้ครูเบียร์เริ่มต้นในห้องเรียนก่อนครับ ในส่วนของเนื้อหาทั้งหมดเริ่มจากการชวนคุยเรื่องดอกของพืชก่อนเลย เพราะดอกจะเจริญไปเป็นผล ความแตกต่างเเละลักษณะของดอก ช่อดอก จึงมีผลโดยตรงกับประเภทของผลซึ่งจะเป็นหัวข้อหลักที่เราจะทำกิจกรรมครับ เริ่มต้นใช้เวลาในการลงเนื้อหาชวนคุย ชวนคิด ตั้งเเต่การปฏิสนธิจนเจริญเป็นดอกกันเลย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ
.
ในส่วนของเนื้อหาครูเบียร์จะเน้นการใช้คำศัพท์ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นศัพท์เฉพาะทางชีววิทยาในการพูดคุยนะครับ นักเรียนก็พูดผิด พูดถูกบ้าง สนุกสนานมากครับ เราไม่ซีเรียสครับเพราะครูไม่ได้โฟกัสที่สำเนียง ครูโฟกัสที่ทักษะการสื่อสารมากกว่านะครับ
2.ในช่วงท้ายคาบหลักจากเราถกประเด็น ตี Concept ของผลประเภทต่าง ๆ เเล้ว ครูเบียร์ให้นักเรียนเเบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่มตามจำนวนพื้นที่ที่นักเรียนจะออกไปสำรวจครับ เป็นการแบ่งกลุ่มแบบร่วมมือคละความสามารถ เเละให้นักเรียนวางเเผนสำรวจพื้นที่เเละเก็บข้อมูลในลักษณะของโครงงานสำรวจ โดยเชื่อมโยงลักษณะของดอกที่เรียนในคาบ ว่ามีความสัมพันธ์กับประเภทของผลที่นักเรียนเจออย่างไรบ้าง เพื่อนำมาจำแนกประเภทของผลที่สำรวจพบ
3.ในขั้นของการลงพื้นที่สำรวจเพื่อเก็บข้อมูล ครูออกแบบให้นักเรียนลงพื้นที่จำนวน 3 ชุมชนรอบโรงเรียนโดยอาศัยวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ครับ ในตอนนั้นยังไม่มีภาวะโรคระบาดทำให้การเรียนการสอนสนุกเเละลงกิจกรรมการเรียนรู้ได้ลึกมากครับ พิมพ์ไปคิดถึงบรรยากาศไป 5555555
.
บ้านนอกเราถนนโล่งครับ เด็ก ๆ ขับสบายสไตล์ไทยบ้านครับ 5555
.
ชุมชนของกลุ่มที่ 1 ชุมชนบ้านไทยเจริญ
.
เราเจอสวนกล้วยนะครับในชุมชนนี้ คุณลุงคุณป้าใจดีครับ ชมสวนตามสบายให้กล้วยเป็นของฝากด้วย 55555
.
เด็ก ๆ สนุกสนานมากครับ เป็นการเรียนที่บ้านเเบบไม่ออนไลน์ครับ 555555
.
สวนบักสีดา หรือ ฝรั่ง ครับ กว้างมากแม่ 55555
.
ชุมชนของกลุ่มที่ 2 ชุมชนบ้านคำเตย
.
ที่นี่เราเจอสวนบักมี่ หรือ ขนุนด้วยนะครับ
.
ชุมชนของกลุ่มที่ 3 ชุมชนบ้านหนองลุมพุก
.
ลำไยต้นใหญ่มากเเม่ 555
.
สายแฟอะเนอะ จริง ๆ ครูก็ไม่คิดว่าเด็ก ๆ จะเเต่งตัวเข้ากับโลเคชั่นขนาดนี้นะครับ นี่เเหละครับวิถีชีวิตจริง ๆ ได้อะไรมากกว่าลงพื้นที่สำรวจ ได้เห็นมุมมอง ได้เห็นความสุข ได้เห็นความสร้างสรรค์
.
กลับบ้านลูก กลับบ้าน 5555555
4.ขั้นสุดท้ายหลังทุกคนออกสำรวจพื้นที่ เก็บรวบรวมข้อมูล เราจะนำผลการสำรวจทั้งหมดมาคุยกันในห้อง โดยให้แต่ละกลุ่มสรุป เเละจำเเนกประเภทของผลตามหลักการทางชีววิทยา เเล้วมาชวนกันคุยเพื่อสรุปผลครับ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ
.
ครูเน้นให้เด็ก ๆ บูรณาการภาษาอังกฤษให้มากที่สุดครับ เพราะภาษาอังกฤษจะต้องไม่ใช่ยาขมของเด็กชนบท
.
ถึงเวลาชวนกันคุยเเล้ว...ลุย
สรุปคอนเซ็ปต์ สะท้อนคิด สะท้อนกิจกรรม
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะครับ
.
ขอบคุณ Inskru ที่มอบพื้นที่ดี ๆ ให้นักเขียนความรู้ นักสู้เพื่ออนาคตเด็ก
ได้มีพื้นที่ดีๆ ได้แบ่ง เเละรับความงดงามตรงนี้ครับ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย