คำคล้องจอง พื้นฐานแน่น สมองแล่นกับการแต่งกลอน

เทคนิคการสอนแก้ปัญหาการแต่งคำประพันธ์ไม่ได้..

youtu.be/GHlbsRyyGZY <ลิงก์โหลดสื่อการสอน ใต้คลิป youtube

หากเราพูดถึงการแต่งคำประพันธ์

ไม่ว่าจะ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย แม้กระทั้งการแต่งเพลง โดยเฉพาะเพลง Rap ในสมัยนี้

รวมไปถึงคำขวัญในงานวันสำคัญต่างๆ ที่มักประกวดกัน

วันพ่อ วันแม่ วันครู วันภาษาไทย วันยาเสพติด ฯลฯ

ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของการใช้คำสัมผัสคล้องจอง

ดังนั้นหากเรามีการเรียนการสอนแต่งคำประพันธ์ แต่เราไม่ยอมเสียเวลาทบทวนปูพื้นฐาน

การแต่งคำคล้องจองสักนิดแล้วล่ะก็เชื่อได้เลยว่าคาบเรียนของคุณครู อาจจะเจอกับ

นักเรียนที่มีปัญหาในการแต่ง ตื้อตัน ต่อ เติม คำประพันธ์ในวรรคต่างๆ ไม่ได้

แม้ครูจะยกตัวอย่างมามากมาย

คนที่แต่งดีแต่งได้ ก็ดีจริงๆ แต่คนที่ไม่ได้ก็ไม่ได้จริงๆ

อ่านผลงานเขาแล้วทำหน้าเหยเกทุกครั้ง นึกในใจอะไรนะนี่

คำนี้ก็ไม่คล้อง คำนั้นก็ติดๆ ขัดๆ หงึกๆ หงักๆ

อ่านแล้วไม่ลื่นไหลสบายหู เหมือนตัวอย่างของครูสักนิดเดียว

ก็เพราะเขาขาดพื้นฐานในการรู้จักคำคล้องจองนี่เอง

"มันง่ายจะตายทำไมไม่รู้"

อย่าลืมว่าผู้เรียนมีหลากหลายครับ เขาผ่านประสบการณ์มากมายต่างกัน

บางคนอาจจะสะดุดขั้นนี้มานานแสนนานตั้งแต่ครั้ง ป.1 ป.2 ก็เป็นได้

แต่เขาจะหาย....

จะไปต่อได้...หลังเจอเรา แบบนี้ดีไหมครับ ^^

วันนี้ผมจึงขออนุญาตมาแบ่งปัน สื่อการสอน power point

กิจกรรมที่ 1

จะเริ่มปูพื้นฐานตั้งแต่การเกริ่นนำเข้าสู่บทเรียนด้วย

เพลง ทน ของน้องสไปรท์

SPRITE x GUYGEEGEE - ทน (Prod. by MOSSHU) OFFICIAL MV

และเพลง วัดป่ะล่ะ ของน้องๆ 4EVE

4EVE - วัดปะหล่ะ? (TEST ME) (Prod. by URBOYTJ) - Summer Video

เป็นการเริ่มต้นจากสิ่งที่คุ้นหู คุณครูสามารถนำเพลงมาทำเพิ่มก็ได้หากอยากใช้บทเพลงในการสอนทั้งหมด

แต่ผมนำมาเพียง 2 เพลงเป็นน้ำจิ้ม

ตามสไตล์ผมคือทำให้ผู้เรียนไม่รู้ตัวว่าเรียนอยู่เพลินๆไป 5555+

เผลอสนุกเมื่อไรครูยัดความรู้

จากนั้นก็พาไปรู้จักกับวิธีดูคำคล้องจอง เด็กหลายคนรู้ว่าคล้องจองกันตามสัญชาติญาณคนไทย

แต่บางคนก็ไม่รู้จริงๆนะครับ พร้อมกับตัวอย่างทั้ง ข้อสังเกต และข้อควรระวัง

กิจกรรมที่ 2

เป็นเกมเช็กคำคล้องจอง เราเอาคำคล้องจองมาให้เด็ก จำนวน 2 หน้า และเช็กโดยมีเครื่องหมายถูกผิดและไฮไลต์สีที่คำเพื่อให้สังเกต

ถูกบ้างผิดบ้างไม่เป็นไรไปต่อ เน้นเพลินๆ

กิจกรรมที่ 3

จากนั้นก็จะเป็นกิจกรรมต่อคำที่หลายๆคนคงจำการเล่นสมัยเด็ก เป็นการต่อชุดคำนี้ได้

ผมก็จำไม่ค่อยได้แต่คุ้นๆ ประมาณ

"ประตู ประตูอะไร ประตูน้ำ น้ำอะไร น้ำตก ตกอะไร ตกปลา ปลาอะไร

ปลาอะไร ปลาทู ทูอะไร ทูสอง สองอะไร สองคน คนอะไร คนไทย ใจดี ฯลฯ

อันนี้คือ การแต่งคล้ายๆ กันแต่เอาคำ มาสองคำคล้องเป็นชุด ท้ายต่อหัว หัวต่อท้ายไปเรื่อยๆ

ตรงนี้ครูจะเห็นนักเรียนที่มีคลังคำศัพท์ในสมอง จะสามารถแต่งเป็นเรื่องได้

ใครคลังคำน้อยก็ให้เน้นคล้องจองไปไม่สนเนื้อหา

กิจกรรมที่ 4

ใบงานในตำนาน

อันนี้ครูนำใบงานที่ นักเรียนเติมคำคล้องจองตลกๆ ไว้ แล้วเราก็แกล้งเปิดคำที่ตลกๆ ให้เรียน

แล้วเราก็คิดคำใหม่ที่คล้องจอง และมีความหมายดี สอดคล้องเป็นการสอนว่า

*การแต่งคำคล้องจองเลือกแต่คล้องอย่างเดียวโดยไม่สนความหมายไม่ได้ ต้องมีสาระด้วย

กิจกรรมที่ 5

สเตตัส คล้องจอง อันนี้ก็คล้ายๆกิจกรรมที่แล้วเพียงแต่ลองเอาคำที่เป็นข้อความมา

แล้วให้นักเรียนลองแต่งให้มีข้อความต่อท้าย และคล้องจอง อาจไม่ได้บังคับอะไรมาก

ครูสามารถเปิดโอกาสให้นักเรียนสายเฮฮาพาเพื่อนตลกได้ตามอัธยาศัย

หรือครูจะจัดเองก็ไม่เป็นไร ประมาณนี้ครับ รับรองว่าคาบเรียนของคุณครู 1 คาบเรื่องคำคล้องจอง

จะผ่านไปอย่างสนุกสนานแน่นอนครับ

สามารถดูคลิปของผมประกอบก็ได้ครับหากลืมอธิบายจุดไหนไป

สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมและร่วมแบ่งปันกันครับ

ลิงกืโหลดใต้คลิป youtube

youtu.be/GHlbsRyyGZY

จุดมุ่งหมายของผมก็เพื่อนักเรียนได้มีความสุขกับการเรียนรู้และไม่เกลียดวิชาภาษาไทยแค่นี้เองครับ

ขอให้ทุกท่านมีคาบที่สนุกนะครับ สวัสดีครับ