ล้วงลับจับหิน เกิดจากการเตรียมการสอนเรื่องหินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 ด้วยตัวชี้วัดที่ว่า
“อธิบายลักษณะภายนอกของหิน จากลักษณะเฉพาะตัวที่สังเกตได้”
แล้วอะไรคือลักษณะเฉพาะตัวของหินที่เด็ก ๆ ต้องรู้ล่ะ?
สี รูปร่าง เนื้อหิน
เราเลยออกแบบกิจกรรมโดยอิงลักษณะ 3 สิ่งนี้
เราพาเด็ก ๆ ออกไปสำรวจภายในโรงเรียน โดยให้นักเรียนจับคู่กัน มีทั้งหมดสี่คู่ โดยแต่ละคู่ต้องออกไปสำรวจหินภายในโรงเรียน แล้วเก็บกลับมา
คู่แรกพาเราไปที่หลังห้องน้อง ๆ อนุบาล ได้หินสีเทา ๆ ผิวเรียบกับสาก รูปร่างเป็นเหลี่ยมกลับมา
คู่ที่สองพาเราไปห้องครัว ได้หินลับมีดมา รูปร่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผิวสากมากก ส่วนเรื่องสี มีเด็กคนนึงบอกว่ามันเป็นสีดำแล้วก็ระยิบระยับด้วย (ดีใจที่เด็กสังเกตถึงขั้นนั้น)
คู่ที่สามพาเราไปที่น้ำตกในโรงเรียน ได้หินที่ใช้ประดับน้ำตกกลับมา เป็นหินสีน้ำตาล ผิวเรียบกับสาก รูปร่างเป็นเหลี่ยม เป็นแผ่น ๆ
คู่สุดท้ายพาเราไปไม่ไกล เด็กบอกว่าในห้องเราก็มีหิน มันเป็นหินรูปร่างกลม ผิวเรียบ สีน้ำตาล เด็กบอกว่าเคยเห็นเราเอาไว้ใช้ทับกระดาษค่ะ
ระหว่างที่เด็กแต่ละคู่ไปสำรวจหิน เราให้เด็กบันทึกลักษณะของหินใส่กระดาษที่เราเตรียมให้ไว้ด้วย เพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมต่อไป
ดู ๆ ไปก็เหมือนการสำรวจข้างต้นก็พอจะตอบโจทย์ตัวชี้วัดได้แล้ว
แต่สำหรับเรา เรารู้สึกว่า มันยังได้อีก มันยังได้อี๊กกกกกกก
ถ้าเราบอกแค่ลักษณะภายนอกของหินล่ะ เด็ก ๆ จะตอบได้ไหมว่ามันคือหินก้อนไหน
เราเลยออกแบบกิจกรรมล้วงลับจับหินขึ้นมา
เราเอาหินทั้งสี่ก้อนมาใส่กล่อง และก็เอากระดาษที่เด็กใช้บันทึกลักษณะของหินมาพับเป็นฉลาก
กิจกรรมเราง่ายมาก แค่ให้เด็กจับฉลาก แล้วฟังครูว่ามีลักษณะอย่างไรบ้าง แล้วก็ล้วงหินในกล่องให้ตรงกับลักษณะในฉลากที่เขาจับได้
ฟังเผิน ๆ ก็เหมือนไม่มีอะไร แต่พอเริ่มเล่นเท่านั้นแหละ มวลความสุข ความสนุก มันก็ไหลหลั่งเข้ามาไม่รู้จบ
เด็ก ๆ สนุกกับการล้วงหินขึ้นมาตามลักษณะที่ครูบอก ถูกบ้าง ผิดบ้าง ปน ๆ กันไป
โดยรวมเด็ก ๆ ทุกคนก็ล้วงหินถูกเกือบทุกคน เด็กคนนึงที่หยิบไม่ถูก เราก็ให้โอกาสเขาได้หยิบใหม่อีกครั้ง จนสำเร็จ เป็นการสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้เขาอีกหนึ่งทาง
กิจกรรมดำเนินมาถึงขั้นนี้ ในใจเราตอนนั้นคือดีใจที่เด็ก ๆ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่เราตั้งไว้ได้
แต่มันยังไม่จบแค่นั้น
กิจกรรมยังคงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงสุดท้าย คือช่วงสะท้อนผล
เราถามเด็ก ๆ ว่า หินที่พวกเขาเก็บมา ถูกเอาไปใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง
”เอาไว้ลับมีดค่ะ”
”เอาไว้เทบนถนนค่ะ”
”ครูเอาไว้ทับกระดาษครับ”
”วางประดับไว้ที่น้ำตกค่ะ”
ฟังคำตอบที่ได้ ผู้อ่านก็คงคิดว่า เขาตอบได้เพราะเขาไปเก็บมาเอง หรือไม่เขาก็รู้เพราะว่าเขาเคยเห็นคนอื่นใช้ คำตอบที่ได้มันอาจจะไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากกิจกรรมเราก็ได้
แต่สำหรับเรา สิ่งเหล่านี้มันวิเศษมาก กิจกรรมของเราอาจจะไม่ได้สร้างความรู้ให้เขา เพราะเขาอาจรู้อยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เราเห็นคือทักษะการสังเกตที่มีอยู่ในตัวเขาต่างหาก
ทักษะการสังเกต เป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในวิชาวิทยาศาสตร์
เราดีใจที่เรามีส่วนปลุกทักษะนี้ในตัวพวกเขาขึ้นมา
การเรียนที่ปลูกฝังทักษะทางวิทยาศาสตร์เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้นักเรียนในตอนนี้
เมื่อเขาเติบโตขึ้น เขาจะได้รักวิชาวิทยาศาสตร์….
เหมือนที่เราก็รักวิชาวิทยาศาสตร์เช่นกัน
ครูโบ้
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย