Gender Inequality (ความไม่เท่าเทียมทางเพศ) ถ้าพูดถึงเรื่องนี้เชื่อว่าผู้อ่านหลาย ๆ คน อาจคิดว่าต้องเป็นเพศทางเลือกเท่านั้นที่จะประสบกับกับปัญหานี้ แต่แท้จริงแล้วปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และส่งผลกระทบที่รุนแรงอย่างคาดไม่ถึง มีผู้คนจำนวนมากที่เคยพบเจอกับปัญหานี้ แต่สังคมกลับทำให้เรื่องนี้ที่ไม่ปกติเป็นเรื่องปกติทั่วไป จนทุกคนมองข้ามและคิดว่าไม่ใช่ปัญหาสำคัญ ปัจจุบันปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศยังคงเกิดขึ้นอยู่ และมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในโรงเรียน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโรงเรียนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมทางเพศ แต่โรงเรียนก็เป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่จะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ก่อนใคร
บทความนี้ได้รวบรวมไอเดียที่น่าสนใจของคุณครูผู้เข้าร่วมกิจกรรม inskru online workshop เรื่อง #TeachersAgainst Gender Inequality (ความไม่เท่าเทียมทางเพศ) เป็นไอเดียการจัดการและแนวทางการป้องกันปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ อ. Timo น้องปาร์กเกอร์ และน้องเก่ง ได้ร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมทางเพศที่เกิดขึ้นในโรงเรียน และเปิดพื้นที่ให้คุณครูผู้เข้าร่วมได้ศึกษา case study และร่วมกันออกแบบใน 2 ประเด็นดังนี้
case study
นายเอ และนางสาวบีเป็นนักเรียน ม. 5 และเรียนในห้องเดียวกัน สองคนนี้เคยจีบกันมาสักระยะหนึ่ง จนตกลงเป็นแฟนกัน ช่วงแรกรักกันดี ต่อมาเอชวนบีมาแลกรูปโป๊กัน โดยเอโน้มน้าวบีโดยบอกว่าเป็นสิ่งที่คนเป็นแฟนทำกัน ทำไมส่งให้คนรักไม่ได้ล่ะ บีจึงยอมถ่ายรูปโป๊และส่งให้เอ โดยคิดว่าเป็นความลับโรแมนติกของเขาสองคน
แต่พอคบกันสักระยะหนึ่ง เริ่มมีเรื่องราวที่ทำให้ทะเลาะกัน จนวันหนึ่งบีบอกเลิกเอ และต่อมาบีคบกับนายซีเป็นแฟน เอรู้สึกโกรธมากจึงเอารูปลับของบีมาโพสต์ในทวิตเตอร์ โดยบอกผู้ติดตามว่า “ดูสิ บีเป็นผู้หญิงไม่ดี มีรูปหลุดแบบนี้ด้วย” โดยอ้างว่าไปเจอรูปในเว็บโป๊มา บีเสียใจมากและเริ่มขาดเรียนเพราะมองหน้าเอไม่ติด และอายสายตาเพื่อน ๆ ด้วย
ไอเดียจากคุณครูผู้เข้าร่วม
1.วิธีการแก้ปัญหา (ช่วยเหลือเหยื่ออย่างไรและทำอย่างไรกับผู้กระทำ)
วิธีการช่วยเหลือเหยื่อ
วิธีการจัดการกับผู้กระทำ
จะเห็นว่าวิธีการแก้ปัญหาคือการพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายเป็นอันดับแรก และที่สำคัญการพูดคุยนั้นต้องไม่มีการตัดสิน รับฟังทั้งสองฝ่ายอย่างจริงใจ เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับเหยื่อและผู้กระทำ เพื่อที่พวกเขาจะกล้าพูดหรือขอความช่วยเหลือจากครูได้อย่างสบายใจ และถ้าเป็นไปได้การมีนักจิตวิทยาเด็กร่วมพูดคุยด้วย อาจจะให้การช่วยเหลือและข้อแนะนำที่เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
2.วิธีการป้องกันเพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก
ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ ไม่ใช่ปัญหาใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และยังคงสร้างบาดแผลในจิตใจเด็ก ๆ อย่างต่อเนื่อง หากจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวจุดเริ่มต้นที่ดีคือโรงเรียน เพราะโรงเรียนคือสถานที่หนึ่งที่เด็ก ๆ ได้ใช้เวลาเรียนรู้และเติบโตจากสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นโรงเรียนและครูจึงมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะแก้ไขปัญหานี้ โปรดอย่าละเลยปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศ จงปฏิบัติกับเด็กทุกคนทุกเพศอย่างเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนคือ "มนุษย์" เหมือนกัน
ผู้ร่วมออกแบบไอเดีย : ครูนินา ครูฝน ครูหญิง ครูหมิว ครูบัว และครูออม
ผู้เขียนและกระบวนกร: ฟาบิว