อ้วน , หน้าสิว , ผอม , ดำ , ขาเบียด และอีกหลากหลายคำทักทาย คำล้อเล่น ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่แท้จริงแล้วคำเหล่านี้ที่เป็นการทักทายในเรื่องของรูปร่างและร่างกายสามารถก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ไปจนถึงการสร้างบาดแผลทางจิตใจให้กับคนที่ฟัง
My Body , My Choice
เพราะร่างกายของเรา คือสิทธิของเรา
(และร่างกายของคนอื่น ก็เป็นเรื่องของพวกเขาเช่นเดียวกัน)
ไอเดียและแนวทางต่อไปนี้ เป็นการออกแบบร่วมกันของผู้เข้าร่วมในกิจกรรม Online Workshop "Teacher Against Cyberbully"
การอบรมออนไลน์เรื่องการสร้างการเรียนรู้เรื่อง Body Shaming (การวิจารณ์รูปร่าง)
โดยพี่เจี๊ยบ (มัจฉา พรอินทร์) นักเคลื่อนไหวปกป้องมนุษยชนและสิทธิความหลากหลายทางเพศ
ซึ่งไอเดียและแนวทางที่กลุ่มออกแบบนั้น คิดและพัฒนาจากกรณีศึกษา
ที่มีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษากระโดดตึกเพื่อฆ่าตัวตาย เนื่องจากนักเรียนมีภาวะซึมเศร้า สาเหตุคาดว่าเกิดจากการโดนล้อเลียนเป็นประจำ
โดยเฉพาะถูกล้อว่า "อ้วน"
แนวทางสำหรับคุณครูในการสอนและการดำเนินการเพื่อป้องกัน Body Shaming (การวิจารณ์รูปร่าง) ให้กับนักเรียน
สร้างความตระหนักรู้ในเรื่องของ Body Shaming & สิทธิของร่างกาย ผ่านกิจกรรมและแคมเปญการสื่อสารต่าง ๆในรร. จัดตั้งกลุ่มเพื่อรับฟังปัญหา (โดยเป็นกลุ่มรับฟังแบบ Deep & Active Listening หรือการฟังอย่างไม่ตัดสิน) การปลูกฝังให้เกิดการยอมรับและความแตกต่างแต่ละบุคคล ตัวอย่างกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน "กิจกรรมสำรวจความรู้สึกเมื่อเราต่างถูกล้อเลียน จะรู้สึกอย่างไร" โดยมีวิธีการดังนี้
แจกแฟรชการ์ด / post - it ให้นร.แต่ละคนเขียนคำพูดที่เมื่อได้ยินแล้วรู้สึกสะเทือนใจ นำคำพูดที่นร.ทุกคนเขียนมารวมกัน ให้นร.แต่ละคนสุ่มหยิบการ์ด แล้วสะท้อนว่าถ้านร.เจอคำแบบนี้กับตัวเองจะรู้สึกอย่างไร และคิดว่าเพื่อนจะรู้สึกอย่างไร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและร่วมกันพูดคุยต่อว่า ถ้าเพื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ เราจะให้กำลังใจเพื่อนอย่างไรได้บ้าง
พัฒนาการเยี่ยมบ้าน เพื่อทำให้ได้รู้สถานการณ์ของนักเรียน พร้อมทั้งมีการพูดคุยบนพื้นที่ของความรู้สึกปลอดภัย ครูเป็นศูนย์กลางในการสื่อสารระหว่างนร.และผู้ปกครอง รวบรวมและประชาสัมพันธ์ให้เห็นช่องทางหรือหน่วยงานที่นักเรียนสามารถขอรับคำปรึกษาได้ (ทั้งแบบระบุและไม่ระบุตัวตน) เปลี่ยนชั่วโมง Homeroom ให้มีความหมาย โดยให้ครูประจำชั้นจัดกิจกรรมในชั่วโมง Homeroom (ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นร.ในที่ปรึกษาจะได้อยู่กับครูที่ปรึกษา) ให้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมเรื่องของ Body Shaming
แนวทางในเชิงโครงสร้างและนโยบาย
เริ่มต้นจากการที่ผู้บริหารให้ความสำคัญและผลักดันนโยบายในการดำเนินงานต่าง ๆ ภายในสถานศึกษา เริ่มสร้างความตระหนักรู้และสร้างการเรียนรู้ให้กับบุคลากรทุกคนในโรงเรียน ผ่านการเข้าร่วมอบรมหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจและมีเครื่องมือหรือแนวทางในการทำงานเรื่อง Body Shaming ผนวกเรื่องของ Body Shaming เข้าไปในวิชาครูแต่ละท่านสอน มีการทำงานอย่างเป็นระบบและสร้างเป็นศูนย์การทำงาน (Center) ที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งสนับสนุนการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง (เช่น นักจิตวิทยาในรร.) โดยทำงานทั้งเชิงรุก และเชิงรับ มีการรับฟัง คัดกรอง และทำช่องทางที่ทำให้ทุกคนในรร.สามารถปรึกษาในเรื่องนี้ได้
จะเห็นได้ว่า เรื่องของ Body Shaming (การวิจารณ์รูปร่าง) เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ฟัง ซึ่งการจะแก้ไขปัญหานี้ได้ต้องเป็นไปในทั้งในระดับบุคคลและในระดับนโยบาย
หากวันนี้คุณครูอยากเริ่มต้นปกป้องเด็ก ๆ จากสิ่งเหล่านี้ สามารถเริ่มได้จากการเติมองค์ความรู้ให้กับตนเอง ผนวกประเด็นนี้ไปกับวิชาที่คุณครูสอนหรือในคาบโฮมรูม หรืออาจจะสังเกต พูดคุยกับนักเรียน และรับฟังเรื่องราวความไม่สบายใจของเด็ก ๆ อย่างตั้งใจ ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นในการปกป้องและดูแลเด็กๆได้แล้วค่ะ
ผู้ร่วมออกแบบไอเดีย : ครูพุทธามาศ , ครูแตงโม , ครูช่อ , ครูมิ้ว , ครูเดียร์ , ครูเติบโต
ผู้เขียนและกระบวนกร : แนน