"เราจะต้องตั้งคำถามอะไรบ้าง เพื่อเข้าใกล้ความจริงให้มากที่สุด"
เมื่อคำให้การของพยานแต่ละคนไม่ตรงกัน
ไอเดียจาก
https://inskru.com/idea/-Mb62CCvGutHiAH62z8u
ปรับมาใช้สอนเรื่อง "หลักฐานทางประวัติศาสตร์และการวิพากษ์หลักฐาน"
1. เริ่มต้นด้วยกิจกรรรมเลตันกับคดีปริศนา
มอบหมายให้นักเรียนเป็นคู่หูใหม่ของเลตันที่เพิ่งเข้ามาทำคดี
และได้ฟังเรื่องราวของผู้ต้องสงสัยทุกคนผ่านคำบอกเล่าของเลตัน
ฟังๆ ไป คำให้การของแต่ละคนชวนให้สงสัย
ตอนจบเรื่องดันไป plot twist มีตัวละครใหม่โผล่มาบอกว่าที่เลตันเล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องที่เลตันก็ฟังมาอีกทีเหมือนกัน ไม่ได้สืบเอง และกล่าวหาว่าเลตันเองนั่นแหละที่เป็นฆาตกร
เอาล่ะสิคู่หู นายแย่แล้ว
2. นักเรียนระดมคำถามกันเข้ามา เราลองจัดกลุ่มคำถาม ระบุลักษณะร่วม และให้ช่วยกันเลือกคำถามที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้มา 3-5 คำถาม ทำไมถึงเลือกคำถามนี้ มันสำคัญยังไง มันจะช่วยให้เราเข้าใกล้ความจริงได้ยังไง
3. นักเรียนอ่านข้อเท็จจริงจากงานเขียนเกี่ยวกับ "เรื่องเล่าคราวเผากรุง" เลขคี่ อ่านชุดที่ 1 เลขคู่อ่านชุดที่ 2 และลองตั้งถามคำเพื่อเข้าถึงความจริงให้มากที่สุดคนละ 3-5 คำถาม
4. จากนั้นสลับไปอ่านอีกฉบับ แล้วมาแลกเปลี่ยนกันในห้อง ผ่านคำถามที่ครูชวนคุย 6 คำถามด้วยกัน
เช็คความเข้าใจ แยกหลักฐานชั้นต้น ชั้นรอง หลักฐานเชิงประจักษ์ ข้อมูลจากการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการวิเคราะห์หลักฐาน ความน่าเชื่อถือของหลักฐาน อคติหรือชุดความเชื่อที่ปรากกฎในงานเขียน และผลต่อสังคมถ้าหากข้อเท็จจริงแต่ละชุดถูกสถาปนาเป็นความจริงหนึ่งเดียว
มาพีคตรงที่ มีนักเรียนตั้งข้อสังเกตว่า
"ถ้าพม่าเผา เขาเอาทองที่เผาได้ไปไหน เอาไปยังไง"
"เคยได้ยินมาว่าเอาไปทำเจดีย์ชเวดากองนะ"
ใจครูนี่เต้นแรงมาก สนุกชิบ เวลาก็จะไม่ทัน แต่เอาวะ ชงมาขนาดนี้ละ
5. ก็เลยให้ลองค้นเลยตอนนั้น ว่ามีคนกล่าวถึงข้อเท็จจริงนี้ว่ายังไงบ้าง
ลองหามาเปรียบเทียบสัก 2 ข้อสันนิฐาน แต่ละชุดมีหลักฐานอะไรสนับสนุนหลักฐานเหล่านั้นมีจุดแข็ง จุดอ่อนยังไง ถ้าเชื่อแบบไหน จะส่งผลยังไง
จบประเด็นนี้กำลังจะหาทางลง เหลือ 3 นาที
"ครูคะ มีลิงค์นึงบอกว่าที่กรุงศรีเหลือแต่ซาก เพราะถูกขุดรื้อย้ายมาสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ค่ะ"
"ครู ยิ่งหามันยิ่งดูงอกใหม่ได้เรื่อยๆ อะ มันจะไปจบตรงไหน" ใช่ มันไม่จบ หมายถึงคาบเนี้ย จะจบไหม
ชวนตั้งข้อสังเกตกระบวนการ
"ข้อเท็จจริง > มีหลักฐาน > มีข้อสันนิฐาน > ตั้งคำถามกับหลักฐานและข้อสันนิฐาน > เจอจุดที่ถกเถียง/แย้งได้ > ตั้งคำถาม > หาหลักฐาน > มีหลักฐาน มีข้อสันนิฐาน > นำเสนอข้อเท็จจริงอื่น > ตั้งคำถามกับหลักฐานและข้อสันนิฐานของข้อเท็จจริงนั้น" ไปเรื่อยๆ
ประวัติศาสตร์จึงไม่ใช่แค่เรื่องในอดีตที่ต้องมานั่งท่องจำ
แต่คือกระบวนการของการคิดวิพากษ์ ตั้งคำถาม ทำงานกับข้อมูลและหลักฐาน ในโลกที่ใครจะเขียน จะเล่าเรื่องราวอะไร อย่างไรก็ได้
เรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ที่ถูกเล่าซ้ำจนจำได้ขึ้นใจ อาจเป็นเพียงหนึ่งฉากในร้อยตอน หรือเป็นภาพในจินตนาการของใครสักคนก็ได้
หากต้องการเข้าใกล้ความจริงให้ได้มากที่สุด
เราจำเป็นต้องตั้งคำถามกับข้อมูลและหลักฐานให้หลากหลายและรอบด้าน
สุดท้ายถึงแม้เราไม่สามารถเข้าถึงความจริงได้
(หรือความจริงแท้หนึ่งเดียวนั้นไม่มีอยู่)
อย่างน้อยเราจะได้รู้ว่าข้อเท็จจริงหรือเรื่องเล่าแต่ละชุดวางอยู่บนแนวคิดแบบไหน มีจุดประสงค์อะไร และมันทำงานกับสังคมอย่างไร
จริงๆ นี่คือ concept หลักที่ตั้งใจพาไปแตะในคาบหน้า เพราะคิดว่ายังไงคาบเดียวก็ไม่ทัน แต่ไม่จ่ะ นางไปถึงดวงจันทร์กันได้เองเฉย
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!