icon
giftClose
profile

เพราะเป็นนักเรียนจึงเจ็บปวด…ในโลกการเรียนออนไลน์

15829
ภาพประกอบไอเดีย เพราะเป็นนักเรียนจึงเจ็บปวด…ในโลกการเรียนออนไลน์

เราในฐานะครู ผู้ปกครอง ควรเรียนรู้ที่จะเข้าใจนักเรียน ผู้ซึ่งกำลังตกอยู่ในสภาวะแห่งความสิ้นหวังเพราะพวกเขากำลังหลงทางในเขาวงกตแห่งการศึกษา !

ในเนื้อหาที่จะกล่าวต่อไปนี้ ผมแค่อยากพูด พูดในสิ่งที่นักเรียนไทยอยากฝากสารนี้ถึงคุณครู และผู้ปกครองที่รักของพวกเขาทุกคน ในเนื้อหาในผู้อ่านสวมบทบาทว่าตนเองคือนักเรียนซึ่งเป็นวัยแห่งความสุข วัยแห่งการแสวงหามิตรภาพอันจริงใจ วัยที่พร้อมจะรับข้อมูล รับการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่จะพร้อมพาตัวเขาออกไปเจอโลกกว้าง โลกแห่งเสรี 🦋


แต่มันไม่ได้สวยงามอย่างที่พวกเขาคิด !


กี่วัน กี่เดือน กี่ปีมาแล้ว ที่นักเรียนของเราต้องทนในภาวะการแพร่ระบาดโควิดที่ 19 อย่างหนักหน่วง โรคระบาดที่พรากโอกาสมากมายเหลือเกินของนักเรียนให้หลุดไป พรากโอกาสที่จะได้สร้างการเรียนรู้ในห้องเรียนดั่งใจที่เขาต้องการให้เป็น พรากสังคมในวัยเรียน มิตรภาพในวัยเรียนของพวกเขาไป ซึ่งตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงการก้มหน้าตาเรียนหนังสือผ่าน ระบบออนไลน์ ระบบที่ผู้ใหญ่หลาย ๆ คนในสังคมมองว่าดีที่สุด ตอบโจทย์โลกแห่งศตวรรษที่ 21 โลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี แต่…ไม่ได้ขับเคลื่อนความสุขของนักเรียน


ผมพูดไม่ผิดหรอกครับ นับตั้งแต่ที่นักเรียนต้องเรียนออนไลน์ พวกเขากำลังเกิดอารมณ์หดหู่ ท้อแท้ และเหนื่อยล้าอย่างมากที่สุด การที่คน ๆ หนึ่งต้องจ้องมองหน้าจอนานนับชั่วโมง แต่ไร้ซึ่งการปฏิสัมพันธ์อย่างเท่าที่ควรระหว่างครูกับนักเรียน ด้วยเหตุผลร้อยแปดพันเก้า ซึ่งครูไม่ได้ผิดและนักเรียนก็ไม่ได้โทษครู แต่ตรงนี้อยากให้เรามองว่า เราควรทำอย่างไรดีที่จะเข้าใจนักเรียนและเป็นการเสริมแรงให้นักเรียนมีความสุขมากกว่าสร้างความเจ็บปวดให้แก่เขาเมื่อยามเรียนออนไลน์


1) ครูไม่ควรนำบรรทัดฐานในห้องเรียนปกติมาสร้างเงื่อนไขให้การเรียนรู้แบบออนไลน์ต้องเป็นไปเหมือนห้องเรียนที่เราเคยสอนประจำ เพราะนักเรียน ไม่ได้พร้อมเหมือนกันทุกคน คำว่าพร้อมในที่นี่คือพร้อมในวัสดุอุปกรณ์การเรียน พร้อมในอินเตอร์เน็ต พร้อมในเวลาจากการจัดการเรียนรู้ของครู เราในฐานะครูจึงควรเข้าใจในตรงนี้ ไม่ก่อการตำหนินักเรียนที่ไม่พร้อม ไม่สร้างกำแพงให้นักเรียนที่ไม่พร้อมว่า เขาไม่ตั้งใจ ไม่ขวนขวายที่จะเรียน เพราะไม่มีนักเรียนคนไหนอยากพาชีวิตตนเองไปเจอสิ่งแย่ ๆ ในชีวิตหรอกครับ เราจึงต้องเข้าใจในจุดนี้ให้มาก ๆ
2) ผู้ปกครอง จากที่พบเจอมาและได้รับฟังมา จะพบว่าผู้ปกครองบางท่านเกิดความรู้สึก ไม่ได้ดั่งใจ เมื่อต้องสวมบทบาทเป็นครูที่คอยสอนนักเรียนที่บ้านของตนโดนเฉพาะนักเรียนประถมศึกษา ที่บ้างครั้งผู้ปกครองอาจใช้อารมณ์เป็นตัวนำมากกว่าความเข้าใจในตัวบุตรหลานที่ตนกำลังสอน เมื่อเห็นหลานคิดช้า อ่านช้า ก็มีอารมณ์ร้อนสร้างรอยแผลโดยไม่รู้ตัวให้เกิดแก่ใจนักเรียน ด้วยเหตุนี้ผู้ปกครองจึงควรเปลี่ยนบทบาทจากผู้สอนมาเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือนักเรียนจะดีกว่าเพราะผู้ช่วยเหลือ คือ ผู้ที่เต็มใจจะช่วยด้วยความเมตตา ผู้ปกครองต้องสวมบทบาทตรงนี้
3) ครูควรเป็นเพื่อนที่ยืนข้าง ๆ นักเรียน ปกป้องพวกเขาจากใครก็ไม่รู้ที่มุ่งหาผลประโยชน์จากการศึกษา แล้วมักมาบั่นทอนความรู้สึกของนักเรียนจนนักเรียนเกิดความสิ้นหวัง แต่ครูอยู่เคียงข้างพวกเขา พวกเขาจะไม่โดดเดียว การเรียนรู้ของครูและนักเรียนก็จะสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้


นักเรียนหลายคนรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังขี่รถจักรยานเก่า ๆ ไปในเขาวงกต


นั่นคือพวกเขากำลังรู้สึกเหนื่อยการเรียนรู้ที่พวกเขาแทบจะมองไม่เห็นความสุข


เราอย่าลืมว่า ตอนนี้นักเรียนไม่มีเพื่อนข้างกายในเวลาเรียน นักเรียนไม่มีครูให้อธิบายอย่างทันท่วงทีในเวลาสงสัย นักเรียนต้องโดนรับแรงกดดันจากผู้ปกครองบางท่านที่ไม่เข้าใจในระบบการเรียนแบบนี้


พวกเขากำลังเครียด และเจ็บปวดจากความล้มเหลวในระบบการศึกษาที่เกิดในสภาวะการแพร่ระบาดของโรคร้าย


เราทั้งหลายจึงลืมตา มองเห็นความเจ็บปวดเหล่านั้น จงเข้าใจพวกเขา ให้กำลังใจพวกเขา เพราะนี้คือสิ่งที่พวกนักเรียนต้องการมากที่สุดในเวลานี้

รีวิว
(0)
ดาวน์โหลด
(8)
เก็บไว้อ่าน
(2)