🌟PA (Performance Agreement) ที่ออกมาใหม่นี้
เราเห็นถึงความตั้งใจในการเปลี่ยนแปลงระบบ
ให้ครูออกแบบวางแผนข้อตกลงร่วมกับผอ.ได้ง่ายขึ้น
โดยที่ทุกคนมีเป้าหมายตรงกันว่าอยากพัฒนาผู้เรียน
และน่าจะเป็นวัฒนธรรมการประเมินแบบใหม่ที่ช่วยเบางานครูได้
แต่ตอนปฎิบัติจริง ครูต้องออกแบบข้อตกลงอย่างไร
ให้ครู focus งานไม่กี่งานแต่ตอบโจทย์การพัฒนาผู้เรียนได้นะ?
insKru สรุปไอเดียจากคุณครูที่มาร่วม Live
ที่เชื่อว่า “PA สามารถทำได้ในงานที่ครูทำอยู่แล้ว”
ผ่านการออกแบบสิ่งที่ครูต้องทำอยู่แล้ว อย่างการสอน ฯลฯ
ให้ตอบจุดประสงค์ตัวชี้วัดหลายๆ ตัวได้ในงานชิ้นเดียว
ครูจะได้ทำงานง่ายขึ้น (และสนุกขึ้น) ตามความตั้งใจของ PA ใหม่นี้
🌟จากที่คุณครูได้เห็นเส้นทาง PA กันไปแล้วใน
สรุปแบบชวนคิดข้อตกลงในการพัฒนางาน PA ฉบับทดลอง:
.
🤩เรามาดูความเป็นไปได้ในการออกแบบ PA กัน
เริ่มจากอะไรได้บ้าง คิดไอเดียยังไงให้ตอบโจทย์ตัวชี้วัด
และได้เด็กๆ ได้ผลลัพธ์การเรียนรู้ตามที่ตั้งใจด้วย!
1. เลือกปัญหามาตั้งเป็น “ประเด็นท้าทาย”
(ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลต่อ “ผู้เรียน” ด้วยนะ)
.
🌟ลองเขียนปัญหาและประเด็นท้าทายมาหลายๆ ประเด็น
เท่าที่ครูนึกออก เป็นการ brainstorm กันก่อน
เขียนมาหลายๆ ประเด็นได้เลย แล้วมาเลือกกัน
ตัวอย่างเช่น “นักเรียนอ่านตีความไม่แตก”
2. ลองหาสาเหตุของปัญหานั้นด้วย Why Why Diagram
โดยการเพิ่มคำว่า “ทำไม” ไปหน้าปัญหาที่ครูเลือกมา
.
👉 “ทำไม” นักเรียนถึงอ่านตีความไม่แตก?
จากนั้น brainstorm คำตอบหาสาเหตุ
เขียนมาก่อนเลย อะไรก็ได้ที่ครูนึกออก
เช่น เด็กขาดทักษะการจับประเด็นและอ่านวิเคราะห์
, นักเรียนไม่เคยได้ฝึกการวิเคราะห์เจตนาของผู้เขียน,
, เด็กขาดกระบวนการการฝึกตีความ ฯลฯ
.
ลองหยิบมา 1 ประเด็น เช่น
👉เด็กขาดกระบวนการการฝึกตีความ
3. ขุดสาเหตุต่อไปอีก
ด้วยการถามว่าทำไมต่อไปเรื่อยๆ
.
👉“ทำไม” เด็กขาดกระบวนการการฝึกตีความ?
จากนั้น brainstorm อีกรอบให้เห็นสาเหตุที่ชัดเจน
เลือกมา 1 สาเหตุเพื่นำไปคิดต่อกันเช่น
👉เพราะที่ผ่านมาการเรียนสอนแบบให้เด็ก ฟัง จำ เชื่อ เป็นต้น
.
🌈ยังมีเหตุผลและหัวข้อน่าสนใจอีกมากที่คุณครูใน live
ช่วยกันระดมมา เช่น ครูอาจไม่เคยได้เรียนเรื่องการจับประเด็นมาเช่นกัน เด็กไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมการอ่านเพราะหนังสือเข้าถึงยาก ราคาแพง ฯลฯ
ย้อนดูเต็มๆ ได้ที่: 👉https://www.facebook.com/InskruThailand/videos/1294823977644362
4. เลือกสาเหตุปัญหาที่สนใจมาคิดต่อว่า
“แล้วครูต้องทำยังไงเพื่อเปลี่ยน(สาเหตุ)นั้น”
.
เช่น สาเหตุคือ
👉เพราะที่ผ่านมาการเรียนสอนแบบให้เด็ก ฟัง จำ เชื่อ
🤔ครูต้องทำยังไงให้เด็กๆ ได้เรียนแบบคิดวิเคราะห์
ก่อนจะเชื่อ (แทนการฟัง จำ เชื่อ กันนะ)
.
👉สร้างกิจกรรมให้เด็กฝึกอ่าน
แล้วมาแลกเปลี่ยนความคิดกันบ่อยๆ
👉ครูหมั่นโยนคำถามที่ท้าทายความคิดความเชื่อเด็ก
👉ให้เด็กฝึกอ่านตีความและสรุปสั้นๆ
👉ชวนเพื่อนครูในโรงเรียนมาทำ PLC เรื่องนี้กัน
👉ครูเองก็ต้องฝึกอ่านและจับประเด็น ตีความด้วย
เพราะจะเป็นตัวอย่างเชิงประจักษ์ให้เด็ก
👉ให้เด็กฝึกสรุปจากการอ่านที่เขาสนใจ
👉ครูไม่ตัดสินเวลาเด็กอธิบาย
ฯลฯ
.
🌈ครูสามารถเอาสิ่งเหล่านี้ไปออกแบบเป็นชิ้นงานใน PA ได้แล้ว
5. แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าสำเร็จ?
มาหา “ผลลัพธ์” ที่อยากให้เกิดกับนักเรียนกัน
.
💡ผลลัพธ์: เด็กอ่านแล้วตีความ สรุปเรื่องให้เพื่อนฟังได้
🤔ครูจะรู้ได้ยังไง?(ตัวชี้วัด)
👉80% ของเพื่อนที่ฟัง เข้าใจที่นักเรียนสรุปตีความ
อาจจะทำแบบแบบฟอร์มคำถามเช็คความเข้าใจ ฯลฯ
.
เท่านี้คุณครูก็จะได้ผลลัพธ์และตัวชี้วัดมาเขียนใน PA แล้ว!
6. สุดท้ายลองเอามาเทียบกับ “ตัวชี้วัด” ดู
ยังตอบตัวชี้วัดไหนไม่ครบ มาลองคิดเพิ่มกัน
.
อาจร่วมกันรีวิวกับเพื่อนครู ถามความเห็นเด็กๆ ก็ได้
(นอกจากนี้ยังอาจเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยชั้นเรียนได้ด้วย!)
แล้วผอ.จะสามารถประเมินการพัฒนาการสอนของเรา
ได้จากจุดไหนบ้างนะ
🎉PA สำเร็จ!
วางแผนออกแบบให้งานที่ตอบโจทย์ได้ครบ
.
🌟เรามี template powerpoint ช่วยครูคิด PA
ให้ครูดาวน์โหลดกันด้วยนะ
👉https://inskru.com/idea/-Mlj-rKLS9ci1mTHvRUj
.
**ในที่นี้ครูกั๊กฝากมาว่า เราอาจจะต้องดูตัวชี้วัดย่อยของครูแต่ละข้อเพิ่มด้วยน้า
🤔Q&A
ในทางปฏิบัติจะลดเอกสารจริงไหม?
โรงเรียนใหญ่ ครูเยอะ ผอ.จะติดตามงานยังไง?
.
🙋🏻ครูกั๊ก: เสนอว่า ผอ. ,ผู้ประเมินควร และครูในหมวด
ควรมา set มาตรฐานการประเมิน
รวมถึงแนวทางร่วมกันให้ชัดเจนก่อน
ว่าอยากวัดผลแบบนี้ จะเช็คจากอะไร
เพื่อที่ทุกคนจะได้เห็นภาพร่วมกัน
หาแนวทางวิธีการประเมินที่ครูได้ทำงานของตัวเองปกติ
และผอ. เองก็ประเมินได้ไม่เหนื่อยมาก
.
🙋♀️ครูโบ: ครูและผอ. ส่งเสียงร่วมกัน
ครูและผอ.ควรอยู่ในระนาบเดียวกัน
แล้วส่งเสียงถึงระดับบริหาร
เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานที่ตอบโจทย์ใหญ่สุด
คือการพัฒนาผู้เรียนไปด้วยกันได้
.
🙋♀️ครูแนน: ทำอย่างไรจึงจะ “ลดการตรวจตา”
อาจจะ จับคู่สอนได้ หรือปรับโครงสร้างการศึกษา
ให้ครูบัดดี้ support ช่วยกันออกแบบ ครูได้คุยกัน
ประเมินคู่ ลดการตรวจตา แบบนี้แทนดีไหม
กระจายอำนาจให้ครูช่วยดูงานกันและกัน
ทุกส่วนควร “ไว้ใจกันและกัน” ในเรื่องการทำงาน
✊PA เป็นโอกาสของครูร่วมกันส่งเสียงว่า
“เราจะไม่ประเมินด้วยเอกสารแล้ว”
.
🙋♀️ครูแนน & 🙋🏻ครูกุ๊กกั๊ก:
“ระบบเริ่มเปลี่ยนจากครูได้”
.
ทั้งนี้ระบบจะเปลี่ยนได้
ต้องมาจากเอกภาพของครูภายในที่ร่วมมือกัน
สร้างชุดวาทกรรมแบบใหม่ว่า "ครูออกแบบเองได้"
ไม่จำเป็นเราไม่จำเป็นต้องวิ่งตาม model อย่างเดียว
ครูสามารถทำหรือออกแบบอะไรก็ได้
เพราะนี่เป็นคาบเรียนของครู
ให้ครูได้เป็น ได้ทำ ในแบบที่เขาได้เป็น
แล้วการศึกษาจะมีความหลากหลาย
เปิดความเป็นไปได้อีกมาก
.
“โรงเรียนควรสนับสนุนความหลากหลายของครูและวิธีการออกแบบห้องเรียน ให้เหมือนกับที่อยากให้ครูสนับสนุนความหลากหลายของผู้เรียน”
.
🙋♀️ครูแนน:
เราควรปรับระบบไปพร้อมๆ กับ “นิเวศทางการศึกษา”
ที่การประเมินเป็นแบบ top-down (ประเมินจากคนข้างบนลงมา)
เราเสนอว่า เราต้องลดการจับผิดตรวจสอบบนลงล่าง
และเปลี่ยนเป็นล่างขึ้นบนแทน
ผู้ที่จะประเมิณผอ. ควรเป็นครู ผู้ปกครอง ชุมชน
ว่าเขาทำงานและอำนวยให้ครูสอนได้อย่างเต็มที่หรือยัง
คนที่ควรได้ประเมินครู คือ เพื่อนครูด้วยกันเอง
เพราะครูเห็นการทำงานกันชัดที่สุด
เด็กก็ควรมีสิทธิประเมินเรา
และผลที่เด็กประเมินเราก็ควรเอามาใช้ประกอบด้วย
.
เราต้องเปลี่ยน mindset ของทั้งกระบวนการว่า
“เราไม่ได้ทำสิ่งนี้เพื่อจับผิดครู
แต่เราทำเพื่อซัพพอร์ตให้ครูพัฒนาตัวเองและห้องเรียน”
กระบวนการประเมินก็จะต้องถูกเปลี่ยน
ซึ่งครูร่วมด้วยช่วยกันส่งเสียงและเปลี่ยนตรงนี้ได้นะ :--)
.
เวลาครูตั้งเป้าหมายไว้ ไม่ได้จำเป็นต้องสำเร็จตลอด
แต่เรามาพัฒนาไปด้วยกันได้ เป็นกำลังใจให้คุณครูนะคะ
.
.
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!