เริ่มด้วยการถามคำถามว่า พระพุทธเจ้าเกิดตอนอายุกี่ขวบ ? ถามด้วยด้วยความรวดเร็วและถามจี้นักเรียน
นักเรียนก็ตอบด้วยความมั่นใจว่า 7 วัน ตอนแรกก็ห้ะ พอคนต่อ ๆ ไปก็ตอบ 16 ปีบ้าง 80 ปีบ้าง ( ครูแอบหัวเราะดังไปหน่อย ) แต่ก็ย้ำอีกครั้งว่าลองคิดดูดี ๆ นะจนสุดท้ายก็เกิดเสียงหัวเราะกันทั้งห้อง ก็ตอบถูกกันไปเมื่อฟังคำถามอย่างถี่ถ้วน นักเรียนคงคิดในใจว่าถามอิหยังวะ
แทนที่เราจะถามว่าพระพุทธเจ้าเกิดวันไหน แต่เราอยากให้เด็กได้ลองตอบคำถามแปลก ๆ ดู อันที่จริงแค่อยากวัดว่านักเรียนมีสติไหมก่อนเริ่มบทเรียน(เพราะเป็นห้องที่เดินเรียน) แต่ละตัวเลขที่นักเรียนตอบมามีนัยสำคัญหมดเลย ทั้งเลข 7 วัน 16 ปี 80 ปี แล้วเราก็นำเข้าบทเรียนด้วยวีดิโอพุทธประวัติสั้น ๆ
เมื่อดูจบ จึงตั้งคำถามว่า “ทำไมพระนางสิริมหามายาให้ประสูติพระพุทธแล้วต้องตายหลังจากนั้น 7 วัน? ” “พระพุทธเจ้าเกิดมาแล้วไม่ร้องไห้แต่เปล่งวาจาได้เลย?” “เกิดมาแล้วทำไมถึงเดินได้เลย?” เคยมีคนสงสัยไหม
ในทางพระพุทธศาสนาอธิบายว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอจินไตย คิดแล้วเป็นบ้า หาคำตอบไม่ได้ แต่ในคาบนี้จะให้นักเรียนได้ลองคิด ลองนิยามอจินไตยนี่แหละ ผ่านคำว่านรกสวรรค์ด้วยความคิดและประสบการณ์ของเขาเอง
เราไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่เราอยากให้เด็กเกิดกระบวนการคิดและการให้เหตุผลของนักเรียน จึงทำให้นักเรียนสนุกสนานไปกับการจินตนาการในเรื่องที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ในชีวิตนี้
คำตอบนักเรียนมีหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น
- นรกมีจริง คงอยู่ใต้ดิน
- ไม่แน่ใจว่ามีจริงไหม แต่ถ้ามีจริงก็คงอยู่ใต้ดิน
- สวรรค์มีจริง น่าจะอยู่บนท้องฟ้า
แต่ก็มีเพื่อนโต้แย้งขึ้นว่า "แล้วเขาปล่อยจรวจขึ้นไปบนท้องฟ้าหรือนั่งเครื่องบิน ทำไมเขาไม่เจอสวรรค์คะ" เสียงเอะอะก็ดังขึ้น ก็ถกเถียงกันไป
มีคำตอบหนึ่งทำให้ทุกคนในห้องเงียบคือ "สวรรค์นรกอยู่ที่คนจะเชื่อค่ะ" ทุกคนเงียบ
เราก็เลยทวนคำตอบอีกครั้งแล้วถามว่ามีใครจะสนับสนุนหรือโต้แย้งกับคำตอบของเพื่อนไหม ก็มีนักเรียนสนับสนุนว่า "น่าจะจริงค่ะเพราะหนูจำได้ว่าโครงสร้างโลกลึกลงไปก็เป็นดิน หิน ลาวา แมกมา ไม่เห็นว่านรกจะไปอยู่ตรงไหนได้ หรือขึ้นไปบนฟ้าก็อย่างที่เพื่อนบอกว่ามันไม่มี ก็คงเป็นอย่างเพื่อนว่าค่ะ"
นักเรียนอีกคนตอบว่า "นรกอยู่ในใจ เพราะถ้าเราทำแล้วเราเป็นทุกข์ความรู้สึกร้อนมันก็เกิดขึ้นในใจเรา เหมือนเราตกนรก"และมีอีกหลากหลายคำตอบมากๆที่เกิดขึ้นในห้องและมักมีเสียงฮือฮาหลังจากที่เพื่อนตอบออกมาอย่างต่อเนื่อง
เราไม่ได้สรุปให้นักเรียนว่านรกอยู่ที่ไหน สวรรค์อยู่ที่ไหนเพราะเราต่างเข้าใจว่าตรงกันว่าสวรรค์นรกอยู่ในตัวที่คนจะเชื่อว่ามีหรือไม่มี แต่สิ่งที่นักเรียนสะท้อนคิดกลับมาคือ ไม่เคยจะคิด ตั้งความสงสัยหรือพูดคุยประเด็นดังกล่าวเลย รู้ สงสัย แต่ไม่เคยถามเพราะถามแล้วก็หาคำตอบไม่ได้ หรือคนอื่น ๆ ก็จะบอกว่าถามบ้าอะไร
สิ่งที่ได้เรียนวันนี้คือ การให้เหตุผลสนับสนุน โต้เเย้งคำตอบเพื่อนและรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนในห้องด้วยกันที่บางครั้งก็ไม่เคยได้สนใจเรื่องนี้เลยเลย
สรุปความรู้คาบนั้นด้วยหลักกาลมสูตร ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญา พิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ
สุดท้ายก่อนปล่อย ให้พูดแสดงความรู้สึก นักเรียนบางคนบอกว่าสนุก บางคนบอกว่ารู้สึกดี บางคนก็รู้สึกพูดไม่ออก เพราะมันอยู่ในใจค่ะแต่มันดี แล้วก็ถามว่าครูจะมาสอนอีกไหม แอบเขิน (ฮ่าๆ )
รู้สึกดีใจที่นักเรียนสนใจและให้ความร่วมมือดีมาก อาจจะเป็นเพราะใช้วิธีเรียกชื่อนักเรียนไปด้วย ถามไปด้วยเล่นมุกไปด้วย
เราบอกกับนักเรียนเสมอว่าการแสดงความคิดเห็นในห้องเรียนไม่มีถูกไม่มีผิด มีแต่ว่าเราจะรับฟังเสียงและคำอธิบายของเพื่อนไหม
จบคาบด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้งจากคำถามที่ว่า พระพุทธเจ้าเกิดตอนอายุกี่ขวบที่เป็นคำถามเมื่อต้นคาบ
ข้อสังเกต
เริ่มคาบเรียนนักเรียนจะไม่ค่อยตอบเพราะไม่คุ้นเคยและไม่เคยเจอกับคำถามเหล่านี้มาก่อน แต่พอเริ่มเรียกชื่อนักเรียนและใช้ไม้วิเศษ(ชี้ใครต้องตอบ) นักเรียนก็ให้ความร่วมมือดีมาก
ตอนแรกเราเป็นคนตั้งคำถามแต่พอถามไปเรื่อย ๆ นักเรียน เริ่มสงสัยและยกมือถาม เพื่อนในห้องก็ช่วยกันตอบคำถามของเพื่อน ครูนี่ยิ้มเลย
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!