เวลาที่ใช้ 1 คาบ
ชื่อกิจกรรม วงล้อหรรษาพากันเล่น
วัตถุประสงค์ของกกิจกรรม
เพื่อให้นักเรียนเขียนความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่กำหนดให้ได้
กลุ่มเป้าหมาย
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
อุปกรณ์
วงล้อหรรษาจำนวน 4 รูปแบบ
ขั้นตอนการทำกิจกรรม
ขั้นนำ
1. ครูหยิบวงล้อทั้ง 4 แบบ ออกมาให้นักเรียนดู นักเรียนตอบคำถาม ดังนี้
- นักเรียนทายว่าสีใดในวงล้อแบบที่ 1 จะมีโอกาสออกบ่อยที่สุด (นักเรียนอาจตอบว่าสีแดงหรือสีน้ำเงินก็ได้)
- นักเรียนทายว่าสีใดในวงล้อแบบที่ 2 จะมีโอกาสออกบ่อยที่สุด (นักเรียนอาจตอบว่าสีแดงหรือสีน้ำเงินก็ได้)
- นักเรียนทายว่าสีใดในวงล้อแบบที่ 3 จะมีโอกาสออกบ่อยที่สุด (นักเรียนอาจตอบว่าสีแดงหรือสีน้ำเงินก็ได้)
- นักเรียนทายว่าสีใดในวงล้อแบบที่ 4 จะมีโอกาสออกบ่อยที่สุด (นักเรียนอาจตอบว่าสีแดงหรือสีฟ้าก็ได้)
ขั้นสอน
2. ครูชี้แจงกติกาการเล่น ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทดลองหมุนวงล้อที่ได้รับ จำนวน 20 ครั้ง พร้อมทั้งบันทึกผลลงสมุด โดยให้นักเรียนออกแบบตารางการบันทึกผลเอง ภายในเวลา 15 นาที
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มจำนวน 5 กลุ่ม
4. นักเรียนแต่ละกลุ่มได้รับวงล้อ 4 รูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อนำไปทดลองหมุนวงล้อหรรษาพากันเล่น
5. เมื่อนักเรียนทดลองครบทุกกลุ่มแล้ว ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน 1 คน มานำเสนอผลจากการหมุนวงล้อของกลุ่มตนเอง ว่าสีแดงออกจำนวนกี่ครั้ง สีน้ำเงินออกจำนวนกี่ครั้ง ภายในเวลา 1 นาที (นักเรียนตอบได้ตามอิสระโดยอาศัยข้อมูลจากตารางการบันทึกผล)
6. นักเรียนตอบคำถามจากการทดลองหมุนวงล้อหรรษา ดังนี้
- ถ้านักเรียนทำการทดลองหมุนวงล้อวงล้อแบบที่ 1 จำนวน 1 ครั้ง ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นมีทั้งหมดกี่เหตุการณ์ (4 เหตุการณ์)
- ถ้าครูสนใจเพียงเหตุการณ์ที่หมุนวงล้อไปหยุดที่สีแดงมีกี่เหตุการณ์ (2 เหตุการณ์)
- นักเรียนเขียนอัตราส่วนของเหตุการณ์ที่หมุนวงล้อไปหยุดที่สีแดงต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้อย่างไร (2/4 หรือ 1/2)
- เรียกอัตราส่วนของเหตุการณ์ที่หมุนวงล้อไปหยุดที่สีแดงต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมดนี้ว่าอย่างไร (ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์)
7. ครูอธิบายเชื่อมโยงสู่สูตรความน่าจะเป็น ดังนี้
ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ใด เท่ากับ อัตราส่วนของจำนวนผลที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นต่อจำนวนผลทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้
หรือ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ใด =
เมื่อผลทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทดลองสุ่ม แต่ละตัวมีโอกาสเกิดขึ้นได้เท่าๆ กัน
กำหนดให้ E เป็นเหตุการณ์ที่เราสนใจ
P(E) เป็นความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ E
N เป็นจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้จากการทดลองสุ่ม
และ n เป็นจำนวนสมาชิกของเหตุการณ์ที่เราสนใจ
ดังนั้น P(E) =
8. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มหาความน่าจะเป็นของสีแดง และ ความน่าจะเป็นของสีน้ำเงิน ในวงล้อหรรษาที่แต่ละกลุ่มที่ได้รับ จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทน 1 คนมานำเสนอ โดยมีคำถามดังนี้
- สีใดในวงล้อแบบที่ 1 จะมีโอกาสออกบ่อยที่สุด เพราะเหตุใด (มีโอกาสเท่ากัน เพราะ ความน่าจะเป็นที่จะออกสีแดง เท่ากับ หรือ หรือ 0.5 และความน่าจะเป็นที่จะออกสีน้ำเงิน เท่ากับ หรือ หรือ 0.5 ซึ่งทั้งสองสีมีความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เท่ากัน)
- สีใดในวงล้อแบบที่ 2 จะมีโอกาสออกบ่อยที่สุด เพราะเหตุใด (สีแดง เพราะ ความน่าจะเป็นที่จะออกสีแดง เท่ากับ หรือ หรือ และความน่าจะเป็นที่จะออกสีน้ำเงิน เท่ากับ หรือ หรือ ซึ่งความน่าจะเป็นของสีแดงมากกว่าความน่าจะเป็นของสีน้ำเงิน)
- สีใดในวงล้อแบบที่ 3 จะมีโอกาสออกบ่อยที่สุด เพราะเหตุใด (สีแดง เพราะ ความน่าจะเป็นที่จะออกสีแดง เท่ากับ หรือ และความน่าจะเป็นที่จะออกสีน้ำเงิน เท่ากับ หรือ ซึ่งความน่าจะเป็นของสีแดงมากกว่าความน่าจะเป็นของสีน้ำเงิน)
- สีใดในวงล้อแบบที่ 4 จะมีโอกาสออกบ่อยที่สุด เพราะเหตุใด (สีน้ำเงิน เพราะ ความน่าจะเป็นที่จะออกสีแดง เท่ากับ หรือ และความน่าจะเป็นที่จะออกสีน้ำเงิน เท่ากับ หรือ ซึ่งความน่าจะเป็นของสีน้ำเงินมากกว่าความน่าจะเป็นของสีแดง)
ขั้นสรุป
9. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ร่วมกัน ดังนี้
ความน่าจะเป็นที่เท่ากับ 0 ก็คือไม่มีโอกาสที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น แต่ถ้าความน่าจะเป็นเท่ากับ 1 แสดงว่าเหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน นั่นหมายความว่ายิ่งความน่าจะเป็นเข้าใกล้ 1 ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นยิ่งสูงขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง
หนังสือ Elementary and Middle School Mathematics Teaching Developmentally ของ John A. Van de Walle, Karen S. Karp and Jennifer M. Bay-Williams
อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ ดร.รัชนิกร ชลไชยะ คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
หนังสือเรียนสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย