LiConIn เกิดจากความพยายามของครูแซมที่ต้องการเอาชนะอุปสรรคในการจัดการเรียนการสอนท่ามกลางวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นเคยและมีบริบทที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ประกอบกับครูแซมไม่เข้าใจภาษาเกาหลีที่เด็กใช้ ทำให้ไม่สามารถสื่อสารกับเด็กได้โดยตรง จึงต้องสื่อสารผ่านล่ามที่เป็นครูเจ้าของภาษา ที่จะคอยแปลความจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาเกาหลี ซึ่งแน่นอนว่า จะต้องมีข้อมูลบางอย่างหล่นหายไประหว่างทางแน่นอน แต่ครูแซมก็ยังมั่นใจในการสอนของตนเองระดับหนึ่ง เพราะในวง plc ที่ประกอบด้วยครูประจำสายชั้น ครูพี่เลี้ยง (mentor) และครูแซม รวมสมาชิกทั้งหมดประมาณ 5 - 6 คน ในการทำ plc แต่ละสัปดาห์ ทุกคนได้ร่วมกันอภิปรายและประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ให้อยู่ในบริบทที่มีโอกาสประสบความสำเร็จในการสอนมากที่สุด ซึ่งครูแต่ละคนจะอภิปรายอย่างเป็นมิตรและตรงไปตรงมา ทำให้ครูแซมสามารถตัดสินใจเลือกหรือเสนอแนวทางการสอนใหม่ ๆ หากกิจกรรมดังกล่าวผ่านการประเมินจากสมาชิก plc อย่างเป็นเอกฉันท์แล้ว ครูแซมกับครูพี่เลี้ยงจะร่วมกันตัดสินใจกำหนดแนวทางที่ดีที่สุดในเนื้อหาดังกล่าวเพื่อให้เหมาะสมกับระดับชั้นที่สอนต่อไป
จากการร่วมจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกับเด็กเกาหลีใต้ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ทำให้ครูแซมได้แนวทางการออกแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแบบทรงพลังขึ้น สร้างความพร้อมทั้งเนื้อหาและรูปแบบการนำเสนอเป็นอย่างมาก และเมื่อจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไปแล้ว ครูแซมสังเกตเห็นผลลัพธ์จากการสอนได้อย่างชัดเจน หากพบนักเรียนที่ไม่เข้าใจในเนื้อหาที่สอน ครูแซมสามารถเข้าไปดูแลนักเรียนแบบตัวต่อตัวได้ทันที ทั้งนี้ รูปแบบดังกล่าว ครูแซมเรียกว่า LiConIn ซึ่งประกอบด้วย
จากรูปแบบ LiConIn ที่ได้กล่าวมาข้างต้น ครูหลายท่านอาจจะคิดว่า ต้องใช้เวลากี่วัน กี่เดือนถึงจะเตรียมการสอนหนึ่งครั้งให้เสร็จ เพราะสิ่งที่ครูแซมอธิบายมาทั้งหมดนั้น เป็นภาพที่ใหญ่มาก เกือบจะครอบคลุมทุกเรื่องของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง รวมทั้งชุมชนด้วย แต่สิ่งที่ครูแซได้รับประสบการณ์และฝึกทำด้วยตนเองนั้น ก็เหมือนกับการเตรียมแผนการสอนปกติเท่านั้นเอง แต่ประเด็นดังกล่าวควรจะมีอยู่ในใจของคุณครูแต่ละท่านอยู่แล้ว เมื่อคิดที่จะสอนเนื้อหาใดก็แล้วแต่ ในหัวของเราก็จะประมวลได้ทันทีว่า มีข้อจำกัดอะไรไหม กิจกรรมใดเมื่อนำมาใช้แล้วเกิดกับนักเรียนได้จริง แล้วจะให้นักเรียนมีส่วนร่วมอะไรบ้าง ตัวครูเองจะทำอะไรบ้าง ที่ไม่ใช่เพียงแต่สอนหน้าห้องเรียน (ซึ่งควรจะลดบทบาทตรงนี้ให้เหลือเท่าที่จำเป็นเท่านั้น) หลังจากนั้น ครูทุกท่านก็จะได้ชุดการสอนขึ้นมา 1 ชุด เพื่อนำไปเข้าวง plc เพื่อให้บุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมกันอภิปรายและประเมินแผนการสอน แล้วจึงนำมาปรับกระบวนการต่าง ๆ ตามคำแนะนำ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คำแนะนำของสมาชิกในวง plc ไม่ใช่คำตัดสินสุท้ายที่ชี้ว่า "ถูกผิด" เมื่อคุณครูนำไปใช้สอนแล้ว คุณครูจะต้องรับมือกับความจริงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนในขณะนั้น และใช้ความสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตามแผนการรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉินให้ได้
ตามที่คุณครูทุกท่านได้อ่านมาตั้งแต่ต้นจนถึงบทสรุปสุดท้ายนี้ คงจะมีภาพคร่าว ๆ เกิดขึ้นในหัวของแต่ละท่านแล้วใช่ไหมครับ ภาพที่เกิดขึ้นมาคงจะมีความแตกต่างจากที่ครูแซมกล่าวมาไม่มากก็น้อย แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นครับ สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่า คุณครูรู้หรือไม่ว่า สิ่งที่คุณครูสอนไปนั้น ได้ทำให้นักเรียนคนหนึ่งเกิดความรู้ขึ้นจริงหรือยัง มากไปกว่านั้น นักเรียนส่วนใหญ่เกิดความรู้ขึ้นจริงหรือยัง หลังจากที่ได้จัดการเรียนการสอนผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หากคำตอบคือ "ใช่" ครูแซมขอแสดงความยินดีกับคุณครูทุกท่านด้วยครับ แต่หากคำตอบคือ "ไม่ใช่" นั้นก็เป็นอีกความจริงหนึ่งที่นักเรียนอาจจะยังไม่สามารถรับสิ่งที่คุณครูถ่ายทอดได้หมด นักเรียนต้องการการทบทวนอีกซ้ำ ๆ ครับ แต่สิ่งที่คุณครูต้องกลับมาทบทวนคือ ในองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งของ LiConIn ยังมีความไม่สมบูรณ์อยู่ ที่คุณครูต้องการการปรับแก้ให้เหมาะสมกับบริบทแวดล้อมของนักเรียน และเหตุผลของคุณครูจะต้องไม่เข้าข้างตัวเองโดยเด็ดขาด ครูแซมขอร่วมเชิดชูอุดมการณ์ความเป็นครูร่วมกับคุณครูทุกท่านครับ