ความจริงต้องเป็นหน่วย My body แต่แค่มาบอกชื่อ,หน้าที่ของอวัยวะในร่างกายมันดาษดื่น ใช้อยู่ทุกวันก็ต้องรู้อยู่แล้วแหมะ ถึงเด็กจะเรียกผิดๆถูกๆก็เถอะ แต่ในความหมายของร่างกายมันมีมากกว่าแต่ organต่างๆ มันรวมอารมณ์ ความรู้สึก สิทธิที่เขามีต่อร่างกายของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็ต้องเคารพสิทธิร่างกายคนอื่นด้วย
วันแรก #IloveMyself ที่กิจกรรมวงกลมวันนี้มันดีมาก แต่ไม่ได้ถ่ายไว้เพราะฉันต้องใช้มือถือเปิดเพลง อดดูไปนะพวกเธอ มันดีมากฉันจะเก็บดูคนเดียว การพาเด็กคุยเรื่องนามธรรมแบบนี้ นิทานเป็นตัวช่วยที่ดีมากกกก ก ล้านตัว และเล่มนี้ก็ดีมากเช่นกันนน การให้เขาได้ appreciated ในตัวเอง มันดีที่สุดแล้วว ความชอบของเราบางอย่างนี่ก็พึ่งรู้ถึงจะอยู่ด้วยกันทั้งวัน และอย่างที่เราเคยบอกว่าห้องเราเปิดรับทุกความหลากหลาย ไม่แปลกถ้าน้องผู้ชายจะมีคนเลือกชุดกระโปรงและสีชมพูเป็นสีที่ชอบ และทางกลับกัน เพื่อนในห้องก็ยอมรับในจุดนี้ร่วมกัน และ self portrait จากกระจกที่ฉันไปงัดมาจากห้องน้ำโรงเรียน
นอกจากเขาจะได้เลือกสิ่งที่ชอบมาใส่ในรูปแล้ว ในทางกลับกันเขาก็ต้องยอมรับในความชอบของเพื่อนด้วย
(วาดภาพตัวเงอที่เห็นในกระจก นอกจากจะได้วาดรูปแล้วยังช่วยเขาในเรื่องการยอมรับตัวเอง ที่ถึงจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ดีที่สุดในแบบที่เขาเป็น)
วันที่ 2 คือวันนี้ #Protectyourself เหยื่อในการคุกคามทางเพศมีทุกวัย และบ่อยครั้งเป็นเด็กอายุเท่าเด็กๆในห้องเรียนเรา และนิทาน ปิงปิงไม่ยอม คือ เอาไปเลย 10 กะโหลก เห็นภาพชัด เนื้อเรื่องไม่อ้อมค้อม จับจิ๋มก็บอกว่าจิ๋ม เริ่ด!!! วิธีการสอนปรับมาจากที่อ่านในเฟซบุ๊คแต่หาต้นตอไม่เจอจริงๆ ใครมีลิงค์แปะไว้ให้หน่อยนะคะ จะได้ขอบคุณอย่างเป็นทางการ วิธีดีมากกก เด็กได้ลองแปะสีลงบนหุ่มถึงที่ที่ควร keep private part private. และต้องยินยอมทุกครั้งที่มีคนของสัมผัส หรือแม้แต่ถ่ายรูป เพราะว่าร่างกายนี้เป็นของเขา my body,my choice!!! และหลังจากนั้นก็แกล้งไม่ยอมถ่ายรูปกับฉันกันเลย ปกติ photogenic กันมากแต่วันนี้เหมือนอยากใช้ที่เรียนมาให้เกิดประโยชน์
ปิงปิงไม่ยอมคือดีมากกกกกก เลยค่ะ ใครที่ไม่รู้จะเริ่มพูดเรื่องนี้ยังไงเล่มนี้ช่วยได้เยอะมากๆ
จุดที่เด็กควรทราบว่าห้ามให้ใครคุกคามด้วยการจับ กอด หอม อะไรก็ตามที่เขาไม่ต้องการ
#CelebrateDiversity ปกติห้องเรียนของเราก็เปิดกว้างกันอยู่แล้ว ผู้ชายชอบเล่นตุ๊กตา ผู้หญิงเล่นเป็นพ่อ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่เคยคุยกันจริงจัง และอีกอย่างคือซื้อนิทานมาใหม่ หาโอกาสใช้อยู่พอดี #จั๊กกะจิ่งจิ่ง คือดีมาก มีกิจกรรมให้ออกแบบ character ได้jakkajingjingดอทคอม ปัญหาเดียวของจั๊กกะจิ่งจิ่งคือ เป็นเหตุให้เถียงกันไม่จบค่ะว่าสรุปเป็นตัวอะไร ระหว่างสไลม์กับหอยทาก ถึงในหนังสือจะบอกว่าเป็นอะไรก็ได้ก็เถอะ อีกเรื่องคือ ช้างเอลเมอร์ที่มีสี rainbow เรื่องนี้ก็ดีมากกกกเหมือนกัน มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะมาก แต่เด็กๆเลือก ออกแบบ self portrait เป็นสีสันเหมือนเอลเมอร์ คีย์เวิร์ดหลักของวันคือ ทุกคนจะเป็นอะไรก็ได้ แต่คือปกติก็เป็นอะไรก็ได้กันอยู่แล้ว ก็เลยเหมือนเป็นวันนั่งคุยกันจอยๆมากกว่า
จั๊กกะจิ่งจิ่ง ดีมากกอีกแล้วววววว นำไปสู่การถกเถียงไม่รู้จบว่าสรุปคือตัวอะไร และมีเวปไซด์ให้ลองออกแบบคาเรกเตอร์ได้ด้วย jakkajingjing.com
เอลเมอร์ที่เศร้าเพราะตัวเองแตกต่าง แต่ตอนนี้เอลเมอร์ไม่ต้องเศร้าแล้วนะ
เพราะเราก็ไม่มีใครเหมือนกันเลยสักคนนนนนน
#HiddenBullying ถึงจะเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างขนาดไหน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีการบูลลี่เกิดขึ้น มีจ้า ถึงจะแฝงมาในประโยคแบบไม่ได้ตั้งใจแต่ก็มี และมีมาโต้ๆจากครูคนอื่นในโรงเรียน และพี่ป.โต ที่ไม่เข้าใจว่าโลกเขาไปไกลกันขนาดไหนแล้ว การสร้างความเข้าใจให้เด็กๆเกี่ยวกับ gender equality, body shaming เป็นเรื่องหลักของวันนี้ เริ่มจากกางพรบการศึกษาเรื่อง ทรงผมมาก่อนเลย 1 หนูจะทำทรงผมอะไรมาก็ได้เอาที่ชอบเลย ไม่อยากตัดก็ได้ไม่ว่า ต่อด้วยการยกตัวอย่างคำพูดที่สื่อถึงการบุลลี่ ถามว่าเปลี่ยนเป็นคำอื่นจะเปลี่ยนว่าอะไร? ความตลกคือเด็กอยากเปลี่ยนคำว่าอ้วน เป็นกินข้าวให้อร่อยนะคือชนะเลิศค่ะ เออ อยากกินก็กินสิ !! ฉันละอย่างชอบ และปิดท้ายด้วย การบอกคำดีดีกับเพื่อน และฟ้าใสผู้มากับประโยค “พุงก้องน่ารักมาก” คือผู้ชนะค่ะ ก้องคือหัวเราะไม่หยุด
เพราะบางครั้งมุกตลกมันก็ไม่ตลก นิทาน บางครั้งมุกตลกก็ไม่ใช่เรื่องสนุกนะ อธิบายเรื่องนี้ได้ดีมากกกก ดีทั้งเซตเลยนะคะ เป็นเซตที่ทำมาเพื่อปัญหานี้โดยเฉพาะ
เพราะสุดท้ายเราทุกคนก็ไม่มีใครเหมือนกันนนน (ขออนุญาติทุกคนในภาพด้วยนะคะ)
ข้อสรุปสุดท้ายที่ได้คือ ไม่ม่ใครชอบถูกเหยียด เฉพาะมาพูดแต่เรื่องดีดีกันดีกว่า
ขอบคุณต้นไอเดีย เพจ TEACHERHOOD
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย