ตอนนั้นกำลังสอนภาษาไทย เป็นเรื่องราวชายหญิงในหนังสือภาษาไทยเล่มหนึ่ง และนักเรียนคุยกันว่า ผู้ชายคนนี้อาจจะใจเกเรก็ได้ ท่ามกลางเสียงหัวเราะ ผมจึงถามกลับไปว่า หากผู้ชายคนนี้เป็นเรา เราจะรู้สึกอย่างไร เสียงหัวเราะก็ค่อย ๆ เบาลง ผมจึงรีบคิดกระบวนการอย่างรวดเร็วเลย โดยพื้นฐานชอบดูหนังอยู่แล้ว จึงนำภาพยนต์โดยดึงเรื่องราวและนำมาผสมผสานกัน และกระตุ้นความคิดของความหลากหลายของมนุษย์ และการเรียนรู้ขั้นกว่าในการมีมโนทัศน์ของการอยู่ร่วมกัน
เริ่มจากพูดคุยเรื่องภาพยนตร์ (หากทั้งครูและเด็กเป็นสายหนังจะถูกคอกันมาก ๆ ) หรืออาจจะเป็นการ์ตูนที่นักเรียนคุ้นเคย และสามารถเล่าเป็นฉาก ๆ หรือจะนำมาใช้แค่บางตอนที่รู้สึกสนุก ประทับใจหรือเศร้าสุดใจ ห้องเรียนผมเขาคุยกับเรื่อง พ่อมดสเตรนท์ ที่มีเรื่องราวตื่นตาตื่นใจ และแอบสปอยด์สไปเดอร์แมนเล็กน้อย 555 คนยังไม่ดูถึงกับปิดหู
ต่อไปกำหนดโจทย์ “มีภาพยนตร์เรื่องไหนที่ทำให้รู้สึกอยากให้โลกใบนี้เป็นอย่างนี้กับเราเลยฮะมุง” ต่างคนต่างอ่อ เอาเรื่องที่ตนเองฉุดคิดขึ้นมาและกุมความคิดเรื่องเล่าเอาไว้ เพราะผมให้คิดอย่างสงบ ห้ามสปอยด์ก่อนพูด จนกว่าจะขั้นตอนต่อไป
ออกแบบตั๋วหนัง สั้น ๆ จากภาพยนตร์ที่เลือก อาจดัดแปลงหรือแต่งขึ้นมาใหม่ก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับเด็ก ๆ ทำลงในกระดาษโดยไม่จำกัดขนาด ไร้ขอบเขตของเนื้อหา ให้รู้สึกอิสระในการถ่ายทอดความรู้ ความรู้สึก อารมณ์
รายละเอียดของบัตรหนัง มี ชื่อเรื่อง ,main ของหนัง,ส่วนสรุปที่อยากให้โลกนี้เป็นไหนจากภาพยนตร์ที่เลือก
เรื่องนี้เคยดูสนุกมาก
ไททันก็มา
เรื่องนี้จะมาม่าหน่อย 55
หลังจากทำตั๋วเสร็จพัก ให้จับคู่ เล่าเรื่องของตนเอง โดยเลือกคู่หรือคี่หรือเดี่ยวได้ตามชอบ เพื่อแลกเปลี่ยนกันกับโลกที่เราอยากให้เป็น แต่ะลคนตั้งหน้าตั้งตาเล่าเรื่องของตนเองและผมคอยดูอยู่ห่าง ๆ บางคู่หัวเราะบางคี่เต็มด้วยความเครียด ไม่ใช่เพราะงานนะครับ55 ที่แอบฟังเขาเล่าเรื่องหนังที่มีคนไม่ได้การยอมรับ เขาทำทุกทาง จนสุดท้ายได้การยอมรับและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ผมแอบซึ้งอยู่ไกล ๆ
ก็จะจริงจังกับการสนทนาที่จะครึกครื้น 555
หลังจากนั้น ตั้งโจทย์ให้สร้างความเชื่อมโยง ผสมผสานของทั้งของเพื่อนและของเรา เด็ก ๆ ต่างออกเสียงพร้อมกันว่า "โห้ ! โฮ่ครู !" และทำออกมาในรูปแบบสตอรี่บอร์ดหรือละครหรืออื่น ๆ และให้มีบรรยากาศที่อิสระ ดึงความถนัดของตนเองออกมา ห้องเรียนนี้เป็นห้องที่ชอบคุย เล่า และแสดงออกสูง ส่วนใหญ่จึงเลือกละครกับเล่าแบบคู่ผสมผสาน และแล้วก็ซ้อมกันเลยย
และแล้วก็นำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ จบ ผมจึงดึงบรรยากาศของการสะท้อนคิด ถึงการเชื่อมโยง ผสมผสาน ที่บ่งบอกถึง “ความหลากหลายของมนุษย์” ว่า ทำไมถึงเข้ากันและอยู่ด้วยกันได้ ? ผู้เรียนต่างบอกว่า "ตัวละครมีความหลากหลายมาก ยากที่จะรวมกันได้ แต่เราเอาจุดเด่นของแต่ละคนแต่ละสัตว์ประหลาดแต่ละวัยมาผสมกัน"
ผมจึงกระตุ้นคำถามอีกว่า เรามีวิธีการอย่างไรในการสร้างตัวละครให้สามารถอยู่ร่วมกันได้?
มีเสียงเบา ๆ กระซิบผ่านขึ้นมาว่า "เรายอมรับเขา" จึงถามกลับไปว่า ยอมรับอย่างไร?
ต่างคนต่างแย่งกันพูดว่า "เริ่มจากยอมรับฟัง ยอมรับสภาพ ยอมรับตัวตน ยอมรับหัวใจ"
ผมเลยถามอีกครั้งว่า หนูคิดว่า "ยากหรือไม่ที่เราจะยอมรับทั้งหมดนี้" นักเรียนเลยตอบว่า ได้ค่ะ/ครับ
จึงเชื่อมโยงในการสร้างวิธีการในการสร้างโลกนี้โดยเริ่มจากห้องเรียนนี้ร่วมกัน
และสุดท้ายสรุปสร้างโลกนี้ที่เป็นของเราเลยฮะมุงร่วมกันได้ดังนี้
การยอมรับในการฟัง >> ฟังอย่างตั้งใจ และรับรู้ความรู้สึก อารมณ์ของผู้พูด
การยอมรับในสภาพ ตัวตน >> นึกถึงว่าคนเรามีภูมิหลังที่แตกต่างกัน และความต้องการที่แตกต่างกัน สร้างใจเขาใจเรา
การยอมรับในหัวใจ >> ให้เรานึกเสมอว่า เขาอาจมีเรื่องอะไรบางอย่าง จึงทำให้เป็นอย่างนี้
เป็นความคิดของเด็ก ป.5 ตัวน้อย ๆ ที่อยากให้โลกนี้เต็มไปด้วยการยอมรับซึ่งกันและกัน
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!