การจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศ (Gender

Diversity) โดยใช้กระบวนการจัดการเรียนรู้รูปแบบ 3 S Model

การจัดการเรียนรู้ในเรื่องความหลากหลายทางเพศโดยใช้รูปแบบ 3 S Model นี้ เริ่มต้นมาจากการที่ตัวของข้าพเจ้าเอง เป็นครูหญิงข้ามเพศหรือในสมัยเรียกว่า กะเทย หรือสาวประเภทสอง ที่ฟันฝ่าอุปสรรคในการข้ามผ่านความอคติของคนในสังคม การถูกกีดกันไม่ให้เข้าทำงานในบางสาขาอาชีพ โดยเฉพาะงานในระบบราชการ ที่ถูกบังคับให้ต้องแต่งกายตามคำนำหน้านาม ไม่มีสิทธิ์แต่งกายตามเพศสภาพ

ซึ่งในปัจจุบันนี้ข้าพเจ้าสามารถพิสูจน์ตนเองจนเป็นที่ยอมรับของผู้บริหารระดับสูง ผู้บังคับบัญชา ผู้ปกครองนักเรียน เพื่อนร่วมงาน และนักเรียน ได้รับคำชื่นชมและการยอมรับทางสังคม แม้จะมีคำนำหน้านามที่ขัดแย้งกับเพศสภาพ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจนั่นคือ การได้สุดเครื่องแบบข้าราชการหญิงปฏิบัติงานอย่างสง่าผ่าเผย โดยไม่ถูกตำหนิจากผู้บังคับบัญชา คงเป็นเพราะการวางตัวที่เหมาะสม และการให้ข้อมูลแก่คนรอบตัวในเรื่อง "ความหลากหลายทางเพศ" ให้พวกเขาเหล่านั้นเกิดความรู้ ความเข้าใจ จนกระทั่งเกิดการยอมรับ และสามารถทำงาน ใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติและมีความสุข

ในบริบทการทำงานของข้าพเจ้าปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าปฏิบัติหน้าที่สอนวิชา ภาษาไทย ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ซึ่งข้าพเจ้าได้มีการสอดแทรกเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้องกับการเคารพสิทธิของผู้อื่น และเรื่องราวเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศลงไปเนื้อหาที่สอนด้วย เพื่อเป็นการปูพื้นฐานให้นักเรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องสิทธิของตนเองและผู้อื่น เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องเกี่ยวกับเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ ความหลากหลายทางเพศ และ

การบูลลี่ โดยเฉพาะการบูลลี่บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งข้าพเจ้าไม่ปราถนาที่จะให้เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นภายในโรงเรียนและในสังคม จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสอน ให้นักเรียน ที่เป็นเด็กและเยาวชนในฐานะทรัพยากรบุคคลอันมีค่าของชาติ เกิดความเข้าใจและยอมรับในสิ่งเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดการเหยียดเพศและการบูลลี่

ปัจจุบันนักเรียนในโรงเรียนของข้าพเจ้าเองก็ล้วนแล้วแต่มีความแต่งต่างกันในหลายๆเรื่อง ทั้งเพศ รูปร่าง หน้าตา อุปนิสัย รวมถึงพฤติกรรมบางอย่างที่แสดงให้เห็นถึงว่า บางคนอาจจัดอยู่ในกลุ่ม LGBT หรือ กลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งข้าพเจ้าได้คิดค้นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ชื่อว่า 3 S Model ขึ้น ในการใช้พัฒนานักเรียนเพื่อลดความเขินอายในการทำกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบไปด้วย S ตัวแรก คือ Safety เป็นการนำเข้าสู่บทเรียนด้วยการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย เพื่อให้ผู้เรียนเปิดใจพร้อมที่จะเรียนรู้ S ตัวที่สอง คือ Show เป็นขั้นตอนในการจัดการเรียนรู้โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นเจ้าของกิจกรรมการเรียนรู้ ได้ขยับร่างกาย หรือที่เรียกว่า Active Learning ครูจะลดบทบาทลง เป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษา ให้นักเรียนเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมให้มากที่สุด S ตัวที่สาม คือ Summary คือการสรุปผลการทำกิจกรรมโดยมีการสะท้อนผลกลับหรือ Feedback ซึ่งมีทั้งการ Feedback ตัวเอง และให้เพื่อน Feedback เพื่อเป็นการฝึกให้ผู้เรียนนั้นรู้จักสิ่งที่ตัวเองทำได้ดี และสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อไป มากกว่านั้นคือ ผู้เรียนจะเกิดสื่งที่เรียกว่า การยอมรับตัวเอง ยอมรับผู้อื่น การรับฟังความคิดของผู้อื่น และเป็นคนที่มีเหตุผล

รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ 3 S Model ที่กล่าวถึงในข้างต้น เปรียบเสมือนตู้ใส่ของที่มีพื้นที่ว่าง จำนวน 3 ช่อง คือช่อง S1 , S2 , S3 โดยผู้ที่จะนำตู้หลังนี้ไปใช้นั้น สามารถบรรจุหนังสือหรือสิ่งของใดลงไปก็ได้ เช่น หากคุณครูท่านหนึ่ง ต้องการสอนเรื่อง การป้องกันไม่ให้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ครูท่านนั้นก็เพียงแค่เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ขึ้นมา จำนวน 1 ชั่วโมง โดย กำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ให้ตรงกับเรื่องที่จะสอน เขียนขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ให้ครบทั้ง 3 S สร้างสื่อประกอบการสอนและออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ในขั้น S2 ให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ และสรุปผลการจัดกิจกรรมในขั้น S3 เพียงเท่านี้ คุณครูท่านนั้นก็จะได้กิจกรรมการเรียนรู้จำนวน 1 ชั่วโมงที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ที่มีความเป็น Active Learning , เกิดผลลัพธ์เชิงบวกแก่ผู้เรียน , ผู้เรียนรู้สึกปลอดภัยเรียนรู้ได้อย่างสร้างสรรค์ , ครูทุกคนในโรงเรียนสามารถนำรูปแบบการสอนไปปรับใช้กับวิชาอื่นได้ สอดคล้องกับสิ่งที่เพจ Inskru ต้องการ โดยมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาไอเดียและตัวอย่างแผนการจัดการเรียนรู้ , หน่วยการเรียนรู้ ปรากฏในไฟล์แนบ

** มีคลิปวิดิโอชิ้นงานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ได้คะแนนสุงสุดมาให้ดูประกอบด้วย เป็นชิ้นงานที่ครูมอบหมายให้นักเรียนพูดรณรงค์ในประเด็น "หยุดบูลลี่ แล้วชีวิตจะมีความสุข"