เมื่อคืนได้ฟังไลฟ์ของ inskru ที่แชร์ไอเดียการสอนกันระหว่างครูไทยและครูสิงค์โปร์ สิ่งที่เห็นด้วยมาก ๆ เลยคือการฝึก Attitude ให้รักในการเรียนภาษาอังกฤษ เอาจริง ๆ ครูผู้สอนมีความสำคัญมาก ๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนของนักเรียน โชคดีมากที่เจอครูภาษาอังกฤษที่น่ารัก สอนสนุก บรรยากาศในห้องเรียนเป็นไปอย่างบันเทิงใจทั้งครูและผู้เรียน มีช่วงหนึ่งที่รู้สึกห่างหายจากภาษาอังกฤษเพราะว่ารู้สึกตัวเองไม่เก่งเลยไปสนใจวิชาอื่นมากกว่า แต่รายการ ๆ หนึ่งได้ฉุดกลับมา ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงเคยดูรายการ

• รายการ Loukgolf's English Room ที่ได้เชิญดารามาร่วมพูดคุยเป็ฯภาษาอังกฤษ ซึ่งมันเป็ฯผลักที่ดีมากเพราะมันทำให้อยากพูดได้แบบเค้าบ้าง เวลาดูไปก็จดคำศัพท์ไปด้วย เอามาท่องแล้วออกเสียงตามในแอพแบบ Native speaker ดูไปเรื่อย ๆ มีวันหนึ่งไปคุยกับเพื่อนแล้วพูดภาษาอังกฤษแบบจะยกตัวอย่างให้เพื่อนดู เพ่อนบอกสำเนียงเป๊ะมาก นี่งงมากเพราะเราก็คิดว่าเราคนไทยก็ต้องสำเนียงเหมือนคนไทยปกติ จนมาถึงในคลาสมหาลัยอาจารย์ให้อ่าน text รายคน อาจารย์บอกสำเนียงเหมือนเจ้าของภาษา งง ไปอีกจ้า แต่กำลังจะบอกว่าการฝึกสำเนียงไปเรื่องจะทำให้เราชิน และออกเสียงมาได้อย่างธรรมชาติ พูดสำเนียงไทยได้ไหม ได้ แต่ถ้าอยากให้ฟังง่ายลองฝึกค่ะเพราะจะทำให้สื่อสารง่ายขึ้นมาก ๆ

ขอบคุณภาพจากช่อง : นางแมวป่า

• อย่าเริ่มเรียนภาษาอังกฤษจากการอ่าน หรือจำแกรมม่าอย่างเดียว การเรียนรู้ภาษาของมนุษย์จริง ๆ แล้วถูกจัดเรียงไว้เรียบร้อยแล้วคือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ควรเริ่มจากสิ่งที่สนใจเช่น ฟังเพลง การ์ตูน หรือหนัง ที่ฟังง่าย ๆ เช่นพวกหนัง High school เพราะเป็นภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ เอามาใช้ได้

สุดท้ายการฝึกภาษาอย่างที่ครูกอล์ฟบอกไนไลฟ์การเรียนภาษาก็เหมือนการเล่นเกม ก่อนเล่นต้องรู้กฏกติกาก่อน เราจึงค่อยมาเรียนแกรมม่า หลายคนคงคิดว่าท่องกันตาลายแน่เลย ไม่จริงนะมันคือความคุ้นชินจากการใช้ เคยไม่อ่านหนังสือแล้วไปสอบได้คะแนนดีด้วยนะ เพราะตอนทำร้องเพลงไปทำไป เลือกคำตอบที่คุ้น ๆ จากที่ดูหนังหรือฟังเพลงมาประยุกต์ทำให้จำได้นานกว่าการท่อง ๆ ไปด้วย และอีกหนึ่งสิ่งคือ "อย่าคิกว่าเราเก่งแล้ว" เพราะถ้าคิดแบบนี้จะทำให้เราหยุดพัฒนา เรียนภาษาไม่ใช่ talent แต่เป็น Skills เพราฉะนั้นต้องฝึกอยู่เสมอ ไม่มีใครตอบได้ว่าฝึกแค่ไหนถึงเก่ง เอาเป็นว่าถ้าเจ้าของภาษาพูดมาเราตอบกลับไปได้ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีแล้ว