ข้อที่ 1 มีทักษะการโค้ช

.

ผู้บริหารโรงเรียนที่ดีควรมีทักษะในการโค้ช (Coaching) สามารถให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา พัฒนา และค้นหาศักยภาพที่มีอยู่ในตัวครูในด้านต่าง ๆ ได้ เช่น การจัดการเรียนรู้ การจัดการชั้นเรียน หรือการทำงานวิจัยทางการศึกษา

.

โดยการโค้ชจะนั้นไม่เน้นที่การสั่งการด้วยอำนาจ แต่เป็นการเปิดพื้นที่ให้คุณครูได้ทดลองทำในสิ่งที่สนใจ และเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้น มองว่าความล้มเหลวในแต่ละครั้งคือการเติบโตของคุณครู

ข้อที่ 2 เสริมพลังบวกในการทำงานให้คุณครูได้

.

ผู้บริหารโรงเรียนที่ดีควรมีความสามารถในการสังเกตการทำงานของคุณครูด้วยสายตาที่เข้าใจ สามารถเสริมพลังบวกในการทำงานเพื่อพาคุณครูข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ที่ต้องเผชิญได้

.

การเสริมพลังให้กับคุณครูจะทำให้คุณครูมีความแข็งแกร่งในการทำงานมากขึ้น และรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานภายในโรงเรียน ไม่ทิ้งให้คุณครูรู้สึกโดดเดี่ยวในการแก้ปัญหา

ข้อที่ 3 สร้างบรรยากาศในการมีส่วนร่วม

ผู้บริหารโรงเรียนควรจะสร้างบรรยากาศให้คุณครูได้เข้ามามีส่วนในการตัดสินใจในการกำหนดทิศทางการทำงาน เพราะเมื่อคุณครูมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ จะทำให้คุณครูรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับทีม เห็นคุณค่าของตนเอง

.

คุณครูจะรู้สึกถึงความรับผิดรับชอบ (accountability) และในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลสภาพจิตใจของคุณครูไม่ให้เกิดความกดดันในการทำงานมากจนเกินไป

ข้อที่ 4 สนับสนุนการทำงานของครูอย่างเต็มที่

.

ผู้บริหารโรงเรียนควรเตรียมทรัพยากรและสร้างสิ่งแวดล้อมเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานของคุณครูให้ได้มากที่สุด เช่น มีเครื่องมือสำหรับการประชุมที่มีประสิทธิภาพ ออกแบบสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ในการ “บริหาร” มากกว่าการ “สั่งการ”

ข้อที่ 5 เป็นนักสื่อสารที่ดี

.

ทักษะการสื่อสารเป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับผู้บริหารโรงเรียน เนื่องจากการสื่อสารที่ดีจะทำให้คุณครูได้ทราบว่าตนเองจะต้องทำอะไรได้อย่างชัดเจน วิธีการสื่อสารแบบไหนที่จะได้ผลงานที่ดีที่สุดออกมา สื่อสารแล้วคนในโรงเรียนมีความเข้าใจตรงกันหรือไม่

.

ถ้าการสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ จะทำให้คุณครูไม่เข้าใจสิ่งที่กำลังรับฟังและอาจเกิดความเข้าใจผิดได้

ข้อที่ 6 สนับสนุนความก้าวหน้าทางอาชีพของคุณครู

.

ไม่ว่าคุณครูคนไหนก็ต้องการความก้าวหน้าในวิชาชีพ เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการพัฒนาความสามารถของแต่ละคน ทำให้แต่ละคนได้เห็นถึงศักยภาพของตนเอง

.

ผู้บริหารโรงเรียนที่ดีจะคอยพูดคุยกับคุณครูเพื่อวางเป้าหมายในการทำงานและช่วยประเมินความก้าวหน้าในอาชีพของคุณครูแต่ละคนได้ ให้คำแนะนำกับคุณครูได้ว่าจะต้องมีทักษะและความสามารถแบบไหนถึงจะมุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้

ข้อที่ 7 มีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ชัดเจน

.

ผู้บริหารโรงเรียนสามารถบอกกับคุณครูได้ว่าอยากเห็นโรงเรียนเติบโตไปในทิศทางใด มีวิธีใดที่จะทำให้โรงเรียนเติบโตไปในทิศทางที่ต้องการได้บ้าง

.

ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ในการทำงาน ผู้บริหารกระจายอำนาจในการทำงานเพื่อให้คุณครูทุกคนได้มีส่วนร่วมในการเติบโตของโรงเรียนไปพร้อม ๆ กัน

ข้อที่ 8 มีทักษะเฉพาะทางเพียงพอที่จะแนะนำและแก้ปัญหาได้

.

เนื่องจากอาชีพครูเป็นวิชาชีพที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะทาง และมีความละเอียดละออในการทำงานเป็นอย่างมาก ผู้บริหารโรงเรียนที่ดีต้องมีความรู้ที่เฉพาะทางมากเพียงพอที่จะแนะนำและแก้ปัญหาที่คุณครูพบเจอได้ เช่น ความรู้ในการจัดการชั้นเรียน หรือความรู้ในการจัดการเรียนรู้

.

และถ้ามีความรู้ไม่เพียงพอ ต้องมีความสามารถในการหาตัวช่วยให้กับคุณครู ทำให้คุณครูได้รับคำแนะนำที่ดีในการทำงาน เช่น การหาผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มาพูดคุยให้คำปรึกษากับคุณครู

ข้อที่ 9 สามารถเชื่อมโยงการทำงานของทุกฝ่ายในโรงเรียน

.

เนื่องจากงานโรงเรียนมีหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายสอนหรือฝ่ายสนับสนุนการสอน ผู้บริหารโรงเรียนที่ดีต้องมีความสามารถในการเชื่อมโยงการทำงานของแต่ละฝ่ายให้มองเห็นภาพเดียวกันในการทำงานได้ มีการบริหารจัดการที่ทำให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันได้ ซึ่งจะทำให้โรงเรียนสามารถเดินหน้าและเติบโตไปได้อย่างรวดเร็ว

ข้อที่ 10 กล้าตัดสินใจ

.

การตัดสินใจที่เด็ดขาดและมีความชัดเจนของผู้บริหารโรงเรียน จะทำให้คุณครูสามารถปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพ เพราะความลังเลในการตัดสินใจ เดี๋ยวแบบนี้ที แบบนั้นที จะทำให้คุณครูเกิดความสับสนในการทำงาน

.

นอกจากนี้การตัดสินใจของผู้บริหารโรงเรียนจะต้องขึ้นอยู่กับความรู้และหลักฐานที่น่าเชื่อถือ ไม่ได้มาจากความรู้สึกหรืออคติส่วนตัว

 คุณครูอยากมอบหัวใจให้กับผู้บริหารแบบไหนกันนะ ลองคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้กันได้เลย