.
ศิลปะของการเว้นช่องว่างเพื่อให้นักเรียนมีเวลาคิด
.
หลังจากที่คุณครูใช้คำถามกับนักเรียน คุณครูควรจะเว้นช่วงให้นักเรียนได้มีเวลาคิดที่เพียงพอก่อนที่จะตอบคำถาม 7 วินาที (พร้อมหน้าตายิ้มแย้ม เพื่อให้กำลังใจ) การแสดงอาการที่สื่อให้นักเรียนรู้สึกว่าคุณครูต้องการคำตอบโดยทันทีทันใด จะทำให้นักเรียนเกิดความกดดันและเกิดความกังวลในการตอบ นอกจากนี้ทุกครั้งที่นักเรียนถามคำถาม คุณครูควรหยุดคิดก่อนตอบประมาณ 3 วินาที เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการ “คิดก่อนตอบ”
.
คุณครูหลายท่านมักจะต้องการคำตอบในห้องเรียนโดยเร็ว และถ้าไม่ได้คำตอบจากนักเรียนคนใดคนนึงอย่างทันที ก็มักจะหันไปหานักเรียนคนอื่น ทำให้นักเรียนเกิดความรู้สึกว่า “ฉันไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ เพราะยังไงครูก็ต้องรีบไปหาคำตอบจากคนอื่นอยู่แล้ว” นอกจากนี้การเร่งเร้าจะเอาคำตอบที่เร็วเกินไป จะทำให้นักเรียนไม่เกิดกระบวนการคิดพิจารณาคำตอบอย่างถี่ถ้วน
.
ระดับการใช้คำถามมีความหลากหลาย เลือกใช้ตามความเหมาะสม
.
คำถามแต่ละคำถามมีระดับและจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น คำถามเพื่อการทบทวนความจำ คำถามเพื่อการเชื่อมโยง หรือคำถามเพื่อการแสดงความคิดเห็น เพราะฉะนั้นคุณครูควรทบทวนว่าคำถามที่เราเลือกใช้นั้นสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ในคาบเรียนนั้นหรือไม่
.
ตัวอย่างเช่น การจัดการเรียนรู้เรื่อง “ประวัติศาสตร์ไทย” เราสามารถเลือกใช้คำถามที่หลากหลายเพื่อเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ดังนี้
.
- กรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่สองในปี พ.ศ. อะไร (คำถามเพื่อการทบทวนความจำ)
- เพราะเหตุใดกรุงศรีอยุธยาจึงแตกถึงสองครั้ง (คำถามเพื่อการเชื่อมโยง)
- หากกรุงศรีอยุธยาไม่แตกในครั้งที่สอง ประเทศไทยจะต่างจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างไร (คำถามเพื่อการแสดงความคิดเห็น)
.
การเลือกใช้คำถามที่สอดคล้องกับเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้ จะทำให้คำถามของคุณครูคมชัด สื่อสารกับนักเรียนได้อย่างชัดเจน และเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างการเรียนรู้ให้กับนักเรียนอีกด้วย
.
เรียงลำดับคำถามให้มีความสอดคล้องกัน เพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ทรงพลัง
.
เพื่อให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ คุณครูควรวางแผนล่วงหน้าว่าในคาบเรียนที่จะสอนนั้น จะเลือกใช้คำถามใดบ้าง และคำถามใดควรใช้ก่อนหรือหลัง นอกจากนี้คุณครูสามารถคาดการณ์คำตอบล่วงหน้าของนักเรียนในแต่ละคำถาม เพื่อทำให้เห็นแนวทางในการใช้คำถามต่อไป
.
ตัวอย่างเช่น
คำถามที่ 1: สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนมีจุดเริ่มต้นจากไหน
คำถามที่ 2: แหล่งข้อมูลที่นักเรียนนำเสนอมามีความน่าเชื่อถือหรือไม่
คำถามที่ 3: สงครามครั้งนี้แตกต่างจากสงครามครั้งอื่นที่ผ่านมาอย่างไร
คำถามที่ 4: หลักฐานอะไรที่ทำให้นักเรียนเชื่อว่าสงครามครั้งนี้จะมีจุดจบไม่เหมือนกับสงครามครั้งอื่น ๆ
คำถามที่ 5: ถ้ารัสเซียไม่ก่อสงครามกับยูเครน นักเรียนคิดว่ารัสเซียมีโอกาสก่อสงครามกับประเทศใดได้อีก
คำถามที่ 6: ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นักเรียนคิดว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง
.
สาเหตุ > ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูล > ความแตกต่าง > หลักฐาน > ความเป็นไปได้ > จินตนาการ
.
ลำดับที่ดีจะช่วยให้คุณครูสนุกกับการเลือกใช้คำถาม และสร้างการเรียนรู้ที่ทรงพลังให้กับนักเรียน
.
คำถามที่ดีคือคำถามที่ทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้
.
คำถามที่ดีคือคำถามที่ใช้เพื่อการสร้างการเรียนรู้ ไม่ใช่คำถามที่ใช้เพื่อการตัดสินหรือลงโทษนักเรียน คุณครูควรแสดงให้นักเรียนเห็นว่าการตอบคำถามไม่ใช่การมุ่งหาความถูกต้องของคำตอบ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างครูกับนักเรียน (หรือนักเรียนกับนักเรียน) ไม่ว่าจะตอบผิดหรือตอบถูก ทุกคำตอบล้วนสร้างการเรียนรู้ทั้งสิ้น
.
เมื่อแสดงให้นักเรียนเห็นว่าการตอบผิดหรือถูกไม่ใช่ประเด็นสำคัญ นักเรียนจะรู้สึกถึงความปลอดภัยในการตอบคำถาม และจะช่วยกระตุ้นให้นักเรียนอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ห้องเรียนเกิดความมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยบทสนทนาถามตอบอย่างสนุกสนาน
“ใครมีเทคนิคการใช้คำถามเพิ่มเติม
มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ในคอมเมนต์กันเถอะ”
แท็กที่เกี่ยวข้อง