จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณครูออกแบบห้องเรียน
ให้เด็ก ๆ สามารถเรียนตามจังหวะของตัวเอง
บนแนวคิดการเรียนรู้แบบ Self-paced learning
ที่นักเรียนสามารถเรียนตามจังหวะของตนเอง
และคุณครูสามารถรับรู้ความก้าวหน้าของนักเรียน
พร้อมกับฝึกฝนทักษะการควบคุมตนเองในวัยเด็ก
.
ห้องเรียนในรูปแบบนี้จะมีลักษณะอย่างไร
และคุณครูจะนำไปใช้ในห้องเรียนได้อย่างไร
ลองไปดูกันเลย!
.
.
การเรียนรู้ที่คุณครูออกแบบให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยครูจะมีบทบาทเป็น “ผู้สนับสนุนการเรียนรู้ (Facillitator)” ที่จะอำนวยการเรียนรู้แทนการเป็น “ผู้สอน (Teacher)” ที่จะมอบความรู้ให้นักเรียนโดยตรง
โดยการออกแบบให้ห้องเรียนของเรากลายเป็นห้องเรียนแห่งการเรียนรู้ด้วยตัวเองได้นั้น จะต้องประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ สื่อการสอนแบบผสมผสาน (Blended instruction) โครงสร้างการเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-paced strutuce) และ การประเมินตามความเชี่ยวชาญ (Mastery-based grading)
.
ถ้าคุณครูอยากเปลี่ยนให้ห้องเรียนของตัวเองกลายมาเป็นห้องเรียนที่นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง จะต้องเริ่มต้นจากการเตรียมองค์ประกอบเหล่านี้ให้ครบถ้วน
(1) แผนที่การเรียนรู้ (Self-paced structure) ตารางภารกิจที่นักเรียนจะต้องพิชิต โดยแต่ละช่องนั้นจะมีวิธีการเรียนรู้จากสื่อการเรียนรู้ที่คุณครูกำหนดไว้ให้ เช่น สื่อวิดีโอ แบบฝึกหัด หรือแบบจำลอง
(2) สื่อการเรียนรู้แบบผสมผสาน (Blended instruction) สื่อการเรียนรู้ในรูปแบบต่าง ๆ ที่คุณครูจัดเตรียมสำหรับการเรียนรู้ของนักเรียน โดยจะสอดคล้องกับช่องต่าง ๆ ในแผนที่การเรียนรู้
(3) กระดานแสดงความก้าวหน้า (Mastery-based grading) กระดานที่ติดอยู่หลังห้องเรียน โดยจะมีรูปของนักเรียนติดอยู่บริเวณต่าง ๆ ของกระดาน เพื่อทำให้เห็นความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ของนักเรียน
.
.
(1) ให้นักเรียนศึกษาจากแผนที่การเรียนรู้ว่าในแต่ละช่องนั้นจะต้องทำภารกิจอะไร เช่น ทำแบบฝึดหัด ศึกษาจากสื่อวิดีโอ หรือว่าให้เล่นแบบจำลองที่คุณครูเตรียมไว้
(2) นักเรียนเรียนรู้ด้วยตัวเองจากสื่อการเรียนรู้ที่คุณครูเตรียมไว้ให้ และพยายามบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จ เช่น ทำแบบฝึกหัดจนครบ หรือศึกษาจากสื่อวิดีโอจนครบถ้วน
(3) เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว ให้คุณครูช่วยทำการตรวจสอบว่านักเรียนบรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น สามารถบวกเลขได้ถูกต้องเกินร้อยละ 80 ถ้าบรรลุเป้าหมายแล้วจึงให้นักเรียนทำภารกิจถัดไปในแผนที่การเรียนรู้
(4) นักเรียนขยับตำแหน่งของตนเองบนกระดานแสดงความก้าวหน้าที่อยู่หลังห้องเรียนไปที่ภารกิจถัดไป
.
.
.
(1) นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามจังหวะและความต้องการของตนเอง
(2) นักเรียนและคุณครูได้เห็นความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ได้อย่างชัดเจน
(3) นักเรียนได้มีโอกาสสนับสนุนการเรียนรู้ของเพื่อนคนอื่น ๆ
(1) คุณครูควรเน้นย้ำความสำคัญของความก้าวหน้าทางการเรียนรู้มากกว่าผลลัพธ์ทางการเรียนรู้
(2) คุณครูควรออกแบบภารกิจกับสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกัน
(3) คุณครูยังคงเป็นบทบาทที่สำคัญในการให้คำแนะนำอยู่ ไม่ควรปล่อยนักเรียนเพียงลำพัง
.
.
.
คุณครูอยากลองใช้รูปแบบ “การเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-paced learning)” กับคาบเรียนไหนบ้าง
.
มาลองแชร์เพื่อเป็นไอเดียให้กับเพื่อนครูคนอื่น ๆ กันเถอะ!
.
อ้างอิงจาก
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!